|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ทีพีไอแตกไลน์ชิงเค้กหลังคา-วัสดุ เท5พันล้านผุดโรงงานเปิดศึก''ซีแพค-ตราเพชร'' |
|
ตลาดกระเบื้องหลังคาคอนกรีต-วัสดุทดแทนไม้ระอุ "ทีพีไอ" บิ๊กแบรนด์ปูนซีเมนต์อันดับ 3 ขยายไลน์ธุรกิจวัสดุ เทงบฯ 5 พันล้านสร้างโรงงานใหม่ เตรียมเปิดตัว มิ.ย.นี้หรืออย่างช้าไตรมาส 3 ท้าชนเจ้าตลาด ส่วน "ซีแพคโมเนีย-ตราเพชร" ไม่หวั่นถูกตีตลาด ส่วนวัสดุทดแทนไม้เตรียมเปิดตัวกลางปีหน้า
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ "ทีพีไอ" ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้ขยายไลน์การลงทุนสินค้าใหม่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งเป็นครั้งแรก ด้วยงบฯลงทุนรวมประมาณ 5 พันล้านบาท มีโรงงานผลิตอยู่ที่จังหวัดสระบุรี สินค้าที่ผลิตมี 2 ตัวคือ 1) ผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคาคอนกรีต และ 2) วัสดุทดแทนไม้ อาทิ ไม้ฝา แผ่นบอร์ด ฯลฯ ทั้ง 2 ตัวจะใช้แบรนด์ทีพีไอเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ สินค้าตัวแรกที่พร้อมจะผลิตออกจำหน่ายได้ก่อนคือ กระเบื้องหลังคาคอนกรีต คาดว่าจะเริ่มวางตลาดได้ในช่วงเดือนมิถุนายนหรือภายในไตรมาส 3 นี้ ส่วนวัสดุทดแทนไม้คงจะเริ่มผลิตจำหน่ายได้ในช่วงครึ่งปีหลังปีหน้า
รองรับกำลังซื้อตลาด
เหตุผลที่ตัดสินใจลงทุนเนื่องจากสินค้าทั้ง 2 ตัว สามารถใช้ปูนซีเมนต์เป็นวัตถุดิบต่อยอดในการผลิตเป็นวัสดุสำเร็จรูป และในอนาคตเทรนด์การใช้ไม้ธรรมชาติในการปลูกสร้างคงจะลดลงเรื่อย ๆ ทำให้แนวโน้มตลาดวัสดุทดแทนไม้จำพวกไม้ฝา แผ่นบอร์ดสำหรับงานผนังหรือฝาเพดาน ฯลฯ มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
แหล่งข่าวจากวงการวัสดุก่อสร้างเปิดเผยว่า ทราบมาระยะหนึ่งว่าทีพีไอได้ขยายการลงทุนในธุรกิจกระเบื้องหลังคาคอนกรีตและวัสดุทดแทนไม้ และคงจะทำให้การแข่งขันในตลาดสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบทีพีไอได้วางเซ็กเมนต์และราคาสินค้าไว้สูงกว่าคู่แข่งหลักในตลาดทั้ง 2 รายในขณะนี้คือ แบรนด์ซีแพคโมเนียของเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) และแบรนด์ตราเพชรของ บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร ถือว่า
ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ในฐานะที่เป็นผู้เล่นรายใหม่
ซุ่มเปิดตัวงานสถาปนิก"55
ก่อนหน้านี้ทีพีไอได้นำกระเบื้องหลังคาคอนกรีตที่เป็นสินค้าตัวอย่างมาโชว์ในงานสถาปนิก"55 เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจุดขายที่ต่างจากคู่แข่งอีก 2 แบรนด์ในตลาด คือ แผ่นกระเบื้องมีสีมันเงา และเคลมว่ามีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดี แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ยังต้องรอดูต่อไป เนื่องจากตลาดหลักของกระเบื้องหลังคาคอนกรีตคือการวางสเป็กงานโครงการบ้านจัดสรร เท่ากับว่าจะต้องเจอการแข่งขันกับซีแพคโมเนียและตราเพชร ที่ทำตลาดอยู่ก่อนแล้วและมีสินค้าและบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่กระเบื้องหลังคา โครงหลังคาสำเร็จรูป และบริการเหมามุง
ปัจจุบันตลาดกระเบื้องหลังคาคอนกรีตมีผู้เล่นหลักเหลือเพียง 2 รายคือ ซีแพคโมเนีย มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งกว่า 70% ตราเพชรเป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่งตลาด 18-19% ที่เหลือเป็นของผู้ผลิตรายกลาง-รายย่อย ส่วนกลุ่มมหพันธ์ที่เป็นผู้ผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตแบรนด์ "Magma" หยุดการผลิตสินค้ามาประมาณ 1 ปีแล้ว เข้าใจว่าน่าจะมาจากการแข่งขันเรื่องราคา และเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันจากการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว มาเป็นการขายสินค้าพ่วงบริการเหมามุงหลังคาด้วย
จับตาวัสดุทดแทนไม้แข่งเดือด
แต่ที่น่าจับตา คือ สินค้าวัสดุทดแทนไม้ ทราบว่าทีพีไอลงทุนกับสินค้าตัวนี้ค่อนข้างมาก น่าจะซื้อเครื่องจักรถึง 4-5 ไลน์การผลิต สินค้าที่ผลิตจำหน่ายน่าจะมีหลากหลาย อาทิ ไม้ฝา เชิงชาย ระแนง แผ่นบอร์ด ฯลฯ ขณะที่ผู้เล่นหลัก ได้แก่ เฌอร่า ตราช้างสมาร์ทวูด คอนวูด ต่างก็มีแบรนด์ที่แข็งแรง ทราบว่าทีพีไอจะวางตลาดสินค้าวัสดุทดแทนไม้กลางปี 2556 การแข่งขันในตลาดน่าจะสนุก
แหล่งข่าวจากบริษัท กระเบื้องหลังคาซีแพค จำกัด ผู้ผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตซีแพคโมเนีย เปิดเผยว่า การมีผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาในตลาดถือเป็นเรื่องปกติ หากวิเคราะห์ในเชิงการแข่งขันทีพีไอได้วางเซ็กเมนต์ราคาสินค้าไว้สูงกว่าซีแพค คือมีราคาขายประมาณแผ่นละ 35 บาท สูงกว่าสินค้ากระเบื้องหลังคาคอนกรีตซีแพคโมเนียที่มีราคาประมาณแผ่นละ 12-13 บาท และยังสูงกว่ากระเบื้องหลังคาคอนกรีตแบบแผ่นเรียบของบริษัทที่มีราคาแผ่นละประมาณ 25 บาท จึงถือเป็นการเจาะตลาดคนละเซ็กเมนต์กัน
ล่าสุดบริษัทเพิ่งขยายกำลังผลิตที่โรงงานจังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา แล้วเสร็จเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตทั้งหมดปีละ 23 ล้านตารางเมตร ส่วนสถานการณ์ตลาด 4 เดือนแรก สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑลถือว่าไม่ดี มีอัตราติดลบ 20-30% จากปีก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการชะลอการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร จากผลกระทบน้ำท่วม ส่วนตลาดต่างจังหวัดถือว่าไปได้ดี
แหล่งข่าวจาก บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร ผู้ผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตและวัสดุทดแทนไม้ "ตราเพชร" เปิดเผยว่า ถึงแม้มีทีพีไอเป็นผู้เล่นรายใหม่ แต่มั่นใจในจุดแข็งของบริษัท ทั้งเรื่องคุณภาพ ราคา บริการ และช่องทางจำหน่ายที่มีอยู่ จะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้ากระเบื้องหลังคาคอนกรีตในปัจจุบันไว้ได้ ปัจจุบันมีกำลังผลิตประมาณ 6.3 ล้านตารางเมตร ประกอบกับต้นปีหน้าบริษัทจะเริ่มผลิตคอนกรีตมวลเบาออกจำหน่าย ทำให้บริษัทมีสินค้าที่จะนำเสนอหลากหลายมากขึ้น
ส่วนสินค้าวัสดุทดแทนไม้ของทีพีไอยังวิเคราะห์ยาก เพราะยังเหลือเวลาอีกประมาณกว่า 1 ปีที่ทีพีไอจะผลิตออกจำหน่าย ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทีพีไอจะเข้าตลาดในเซ็กเมนต์ไหน ทราบแต่เพียงว่าน่าจะมีเครื่องจักร 4 ไลน์ แต่ละไลน์น่าจะมีกำลังผลิตปีละประมาณ 6-7 หมื่นตัน หรือรวมแล้วปีละประมาณกว่า 2 แสนตัน และน่าจะผลิตสินค้าได้หลากหลาย ทั้งแผ่นบอร์ด ไม้ฝา เชิงชาย และอื่น ๆ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-05-2555
|
|
|
|
|
