| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 94 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 02-04-2555    อ่าน 11153
 มหันตภัย "โรคตึกเป็นพิษ" วิจัยพบปัญหาคุณภาพอากาศในตึกสร้างใหม่กว่า30%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชี้มหันตภัย “โรคตึกเป็นพิษ-Sick Building Syndrome" วิจัย 30% ตึกสร้างใหม่มีปัญหาคุณภาพอากาศ พลัสฯกระตุ้นเจ้าของอาคารในไทย อย่าเน้นเพิ่มเรื่องความทันสมัยและไฮเทคเพียงอย่างเดียว วอนให้เห็นความสำคัญด้านความปลอดภัยของสุขภาพผู้อาศัยและทำงานในอาคารด้วย หลังแนวโน้มผู้ทำงานในอาคารมีสุขภาพที่อ่อนแอลง จากผลสำรวจล่าสุดขององค์การอนามัยโลก พบว่าร้อยละ 30 ของอาคารหรือตึกที่สร้างขึ้นใหม่หรือปรับปรุงใหม่ทั่วโลกจะมีปัญหาคุณภาพของอากาศภายในอาคาร ซึ่งเป็นที่มาของอาการตึกเป็นพิษ อันเกิดจากประสิทธิภาพในการหมุนเวียนอากาศในอาคาร



นายชาญ ศิริรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและฝ่ายวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันอาคารทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหา “ตึกเป็นพิษ” หรือ Sick Building Syndrome (SBS) ซึ่งถือเป็นภัยเงียบที่อยู่ใกล้ตัวของผู้ที่อยู่อาศัยและทำงานภายในอาคาร



โดยหากยังคงละเลย ต่อปัญหาดังกล่าว จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนไทยในระยะยาว และที่สำคัญจะส่งผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจ อย่างมากเพราะบุคลากรเสี่ยงที่จะรับและเผยแพร่โรคต่างๆ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจบริหารทรัพยากรอาคารของไทย จึงต้องการออกมากระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึง ปัญหาดังกล่าว และร่วมรณรงค์เพื่อให้บรรดาเจ้าของอาคารต่างๆ ควรเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย ในคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับความทันสมัยด้านเทคโนโลยี



ทั้งนี้ โรคตึกเป็นพิษ คือ อาการที่เกิดขึ้นจากมลพิษภายในอาคารที่ด้อยศักยภาพด้านระบบหมุนเวียน อากาศ ทำให้สารระเหยและสารพิษที่ถูกปล่อยออกมาจากเครื่องใช้สำนักงาน รวมถึงสารระเหยจากสีทาผนัง ไม้อัด สารเคลือบเงาทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งไรฝุ่นในพรม วนเวียนอยู่ภายในระบบปรับอากาศของอาคาร ทำให้เกิดอาการอ่อนล้า ปวดหัว คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เกิดผดผื่นคัน ระคายเคืองดวงตา และมีความผิดปกติของประสาทรับกลิ่น เป็นต้น



“ที่ผ่านมา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เน้นหนักเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารทรัพยากรอาคารแบบองค์รวม ทั้งการดูแลด้านศักยภาพของอาคาร บุคลากรที่ปฏิบัติงาน และหรือผู้อยู่อาศัยภายในอาคารด้วยเช่นกัน



“โรคตึกเป็นพิษ” ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาหลักที่เราให้ความสำคัญและสร้างมาตรการ เพื่อจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในอาคาร เพราะความปลอดภัยภายในอาคารจัดเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของผู้ใช้อาคาร



โดยอาคารที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร จัดเป็นความเสี่ยงสำคัญที่จะสามารถส่งผลเสียหายโดยตรงต่อองค์กรทั้งด้านการเงิน และ Productivity ขององค์กร ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในอาคารต่อผู้ใช้อาคารเป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของงานบริหารทรัพยากรอาคาร



ผู้บริหารอาคารจึงมีหน้าที่สำคัญในการบริหารจัดการ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงลดผลกระทบที่จะตามมาด้วย” นายชาญ ศิริรัตน์ กล่าว



ด้านมาตรการในการการแก้ไขปัญหา “ตึกเป็นพิษ” นั้น นายชาญ ศิริรัตน์ กล่าวเสริมว่า เนื่องจากโรคตึกเป็นพิษจะเกิดขึ้นเมื่ออยู่ภายในอาคารเท่านั้น การแก้ไขจึงควรมุ่งเน้นที่การปรับปรุง จากภายในอาคาร


เริ่มที่การค้นหาสาเหตุโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งประกอบด้วย วิศวกรผู้ดูแลอาคาร และนักสุขศาสตร์อุตสาหกรรม ทำการปรับปรุงจากสิ่งที่ทำได้ง่ายก่อน เช่น ย้ายกระถางดอกไม้ไปนอกอาคาร จัดวางอุปกรณ์สำนักงานให้เหมาะสม กำหนดพื้นที่ทำงานที่สอดคล้องกับจำนวนคน ทำความสะอาด อย่างสม่ำเสมอ เพิ่มการระบายอากาศ



ลดการนำอากาศภายนอกเข้าสู่ภายในโดยตรงเพื่อลดฝุ่น ทำความสะอาดระบบปรับอากาศ กำหนดพื้นที่สูบบุหรี่ให้อยู่ภายนอกอาคาร



หากมีการจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงานใหม่ให้เลือกประเภทที่มีการระเหยของ VOCs น้อยที่สุด เพิ่มการไหลเวียนของอากาศให้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน หากไม่เพียงพอต้องมีการปรับปรุงอย่างทันท่วงที



ต้องให้ความรู้แก่บุคคล ผู้อาศัยในอาคารเพื่อทำความเข้าใจและหาวิธีป้องกันตนเองร่วมกัน รวมไปถึงการรณรงค์ให้พนักงานออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ”



“พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้ตระหนักถึงปัญหาของ Sick Building Syndrome (SBS) ที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้อาคาร ตลอดจนกลุ่มลูกค้าที่ทางบริษัทฯ ได้ให้บริการอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นดัชนีชี้วัด (KPIs) ซึ่งได้กำหนด เป็นข้อตกลงทางธุรกิจกับกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ในบางอาคาร



ซึ่งการจะเข้าไปดำเนินการ เริ่มจากการสำรวจความผิดปกติของสภาพการปรับอากาศที่ไม่เหมาะสมภายในอาคาร ทำการเก็บข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำเนินการปรับปรุง เช่น ระบบการหมุนเวียนอากาศที่ไม่เพียงพอ การปรับตั้งค่าอุณหภูมิภายในพื้นที่ปรับอากาศที่ไม่เหมาะสม การบำรุงรักษาเชิงป้องกันในระบบปรับอากาศ ซึ่งเราจะต้องดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงให้อยู่ในสภาพตามเกณฑ์มาตรฐานสากล โดยมีหน่วยงานกลางที่เป็นที่ยอมรับเป็นผู้รับรองผลงาน



ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นในการดำเนินการควบคุมปัจจัยที่จะก่อให้เกิดปัญหา Sick Building Syndrome (SBS) ดังกล่าว เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ซี่งผลที่ได้อยู่ในระดับน่าพอใจ” นายชาญ ศิริรัตน์ กล่าวสรุป



ปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้นำมาตรการในการแก้ไขอาการ “ตึกเป็นพิษ” ไปดำเนินการในบางอาคารสำนักงานซึ่งเป็นลูกค้าของพลัสแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถระบุผลการดำเนินงานและรายงานอัตราสภาพอากาศที่ดีขึ้นในอาคารดังกล่าวได้ภายในสิ้นปี 2555 นี้
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 02-04-2555 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.