|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ตลาดที่อยู่อาศัยเนปาล ใกล้ถึงเวลาลงทุน ชี้ปี′55 รัฐบาลมีนโยบายผ่อนคลายกฎให้ต่างชาติซื้อคอนโดฯ ได้ |
|
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร AREA (ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า การปลูกป่ามีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนป่าที่ถูกทำลาย แต่ในความเป็นจริงได้ผลน้อยมาก ที่สำคัญการมุ่งไปที่การปลูกป่ายังทำให้ละเลยต่อการปราบปรามการทำลายป่าอีกด้วย
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ AREA ได้ไปนำเสนอผลการศึกษาตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงกาฐมาณฑุ แก่สมาคมนักพัฒนาที่ดินเนปาล ณ เดือนมีนาคม 2555 ซึ่งถือเป็นการสำรวจที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจมาในประเทศเนปาล
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงกาฐมาณฑุที่สำรวจทั้งหมดมีอยู่ 8,032 หน่วย ขายไปแล้ว 5,296 หน่วย เหลืออยู่ 2,736 หน่วย หรือเท่ากับ 34% ของทั้งหมด
ราคาบ้านในกรุงกาฐมาณฑุ เป็นเงิน 7.472 ล้านรูปีหรือเท่ากับ 2.861 ล้านบาท หรือต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ 3.0 ล้านบาทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มูลค่าโครงการที่อยู่อาศัยในตลาดกรุงกาฐมาณฑุเป็นเงิน 22,982 ล้านบาท ซึ่งนับว่ายังต่ำอยู่หากเทียบกับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในจำนวนที่อยู่อาศัยของบริษัทพัฒนาที่ดินนั้น แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 1,286 หน่วย (16%) ทาวน์เฮาส์ 353 หน่วย (4%) ห้องชุด 5,888 หน่วย (73%) และที่ดินจัดสรร 505 หน่วย (6%)
จึงอาจกล่าวได้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเนปาลเป็นในรูปแบบห้องชุดเป็นส่วนใหญ่ และครึ่งหนึ่งของห้องชุดขายในราคา 5-10 ล้านรูปี หรือเฉลี่ยแล้วห้องชุดหน่วยหนึ่งมีมูลค่าประมาณ 2.571 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์การายพบว่า ที่อยู่อาศัยทั้งหมดนี้จะขายได้หมดในเวลาอีก 10.4 เดือนข้างหน้า สำหรับที่อยู่อาศัยที่ขายดีมักมีราคาค่อนข้างถูกคือไม่เกิน 2 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าประชาชนผู้มีรายได้ปานกลางยังต้องการที่อยู่อาศัยอีกมาก หากสามารถก่อสร้างด้วยระบบการก่อสร้างที่ทันสมัยเช่นในประเทศไทย นักพัฒนาที่ดินไทยก็จะสามารถเจาะตลาดได้ไม่ยากนัก
ในความเป็นจริง ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของเนปาลสร้างโดยชาวบ้านกันเอง โดยไปซื้อที่นามาก่อสร้างบ้านเรือน หรือถือเป็นประมาณ 90% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดในกรุงกาฐมาณฑุ
อย่างไรก็ตามเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยภาคเอกชนเกิดขึ้น คาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าตลาดที่อยู่อาศัยโดยภาคเอกชนน่าจะมีสัดส่วนเกินกว่า 30% ของทั้งตลาด
ในปี 2555 คาดว่ารัฐบาลจะอนุญาตให้ต่างชาติสามารถซื้อห้องชุดได้ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีการเติบโตในอีกระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังถือว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเนปาลยังมีขนาดเล็ก เป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนไทยจะไปเสาะหาลู่ทางการลงทุน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 21-03-2555
|
|
|
|
|
