|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| นวัตกรรม "บ้านเม็ดข้าวสาร" เอสซีจีโมเดลรับมือภัยพิบัติปี...มังกรน้ำ |
|
เปิดฉากไปแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับงาน "บีโอไอแฟร์ 2011" มหกรรมแสดงนิทรรศการที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 หลังจากเจอโรคเลื่อนจากเหตุอุทกภัยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กำหนดจัด 5-20 มกราคมนี้ ภายในบริเวณเมืองทองธานี บนพื้นที่ 240,000 ตารางเมตร เทียบเท่า 33 สนามฟุตบอล
งานนี้นอกจากบิ๊กแบรนด์ธุรกิจทั้งในประเทศและอินเตอร์แบรนด์ทั่วฟ้าเมืองไทย ยักษ์ใหญ่วงการวัสดุก่อสร้างและปูนซีเมนต์อย่าง "เอสซีจี" (ปูนซิเมนต์ไทย) ก็ไม่พลาดเข้าร่วมงาน
ไฮไลต์นวัตกรรมที่พักอาศัย
"จากเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เราจึงมุ่งนำเสนอเรื่องราวเพื่อสื่อสารให้ทุกคน หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขณะเดียวกันได้ใช้งานนี้เป็นเวทีนำเสนอ นวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อรับมือภัยพิบัติและสินค้านวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือว่างานนี้เราจัดเต็ม จริง ๆ" กานต์ ตระกูลฮุน ซีอีโอเอสซีจีระบุ
ภายในเอสซีจีพาวิเลียนที่เป็นอาคารสีขาวที่จำลองรูปทรงจาก "ใบไม้" เพื่อแทนสัญลักษณ์ของการเอาใจใส่ สิ่งแวดล้อม ได้แบ่งการนำเสนอออกเป็น 3 ช่วง โดยช่วงแรกเป็นการบอกเล่า ถึงเมืองในอนาคตอีก 50 ปีข้างหน้าที่สวยงามน่าอยู่ ปราศจากภัยพิบัติธรรมชาติ
ถัดมาในช่วงที่ 2 ซึ่งเชื่อมโยงกัน โดยเป็นการเล่าผ่านจอมัลติมีเดียขนาดยักษ์แบบ 360 องศา เล่าเรื่องราวย้อนอดีตถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก่อนที่เมืองจะสวยงาม ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากการตัดไม้ทำลายป่าจนนำมาสู่การเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลก โดยมีเซอร์ไพรส์เล็กด้วยการปล่อยละอองน้ำในช่วงที่หนังฉายภาพการเกิดพายุด้วย
จากนั้นเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ซึ่งถือเป็นไฮไลต์การโชว์ "นวัตกรรมที่พักอาศัย" 4 แบบ
บ้านเม็ดข้าวสาร-ซีเมนต์บังเกอร์
ที่ถือว่าแปลกใหม่ต้องยกให้กับสิ่งประดิษฐ์ชื่อเก๋ "Shield-Life" นวัตกรรมที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัยที่จำลองรูปทรงจาก "เม็ดข้าวสาร" ผลงานร่วมกันของทีมดีไซน์จาก เอสซีจีเคมิคอลส์ และ ผศ. ดร.สิงห์ อินทรชูโต จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ มองแวบแรกนึกไปถึง "บ้านแคปซูล"
Shield-Life ถูกออกแบบไว้เป็นที่พักชั่วคราวยามฉุกเฉิน มีรูปทรงยาวรี นวัตกรรมชิ้นนี้มีความยาว 2.8 เมตร สูงและกว้างด้านละ 1.10 เมตร จึงใช้สำหรับ "นั่ง" หรือ "นอน" เท่านั้น เหมาะสำหรับอยู่อาศัยเพียงคนเดียว หรืออาจพ่วงเด็กเล็กได้อีก 1 คน โครงสร้างทำจากไฟเบอร์กลาสนำมา ขึ้นรูป น้ำหนัก 60 กิโลกรัมแต่ลอยน้ำได้ และรับน้ำหนักผู้อยู่อาศัยได้ถึง 150 กิโลกรัม
ด้านบนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้งานในยามจำเป็น มี ช่องระบายอากาศและบรรจุเครื่องใช้จำเป็น อาทิ เครื่องนอน อาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม ฯลฯ โดยหลังจากนี้ เอสซีจีจะนำนวัตกรรมชิ้นนี้มาต่อยอดโดยเปลี่ยนวัสดุใหม่เป็นโพลีเอทิลีนโฟม เพื่อให้มีน้ำหนักเบาลง 50%
ส่วนแผนการตลาดในอนาคตเอสซีจีจะเน้นไปที่การขายวัตถุดิบ โดยมองหาผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนเรื่องการผลิตและการขาย
อีกตัวที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่เปิดตัวในงานเป็นครั้งแรกคือ "Cement Bunker" (ซีเมนต์บังเกอร์) ที่อยู่อาศัย รูปทรงกระบอกขนาดใหญ่ ทำจากคอนกรีตผสมเสร็จที่มีส่วนผสมของ "เส้นใยเหล็ก" และ "เส้นใยไฟเบอร์" จึงแข็งแรงสามารถทนระเบิดที่มีแรงอัดได้ 1,000 กม.ต่อ ตร.ซม.ได้ หรือ สูงกว่าคอนกรีตทั่วไป 4-5 เท่า ทนการกัดกร่อนและแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ดีอีกต่างหาก
บ้านต้านแผ่นดินไหว
นวัตกรรมบ้านเอสซีจีมีอีก 2 สิ่งคือ บ้านระบบโมดูลาร์ SCG HEIM ที่สามารถต้านแผ่นดินไหวได้กว่า 7 ริกเตอร์ ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จไปแล้ว กว่า 70 หลัง อยู่ระหว่างปลูกสร้างอีกจำนวนหนึ่ง
ที่นี่เอสซีจีสร้างความตื่นเต้นให้ผู้เข้าชมด้วยการอิมพอร์ตเครื่องจำลองแผ่นดินไหว ให้ผู้เข้าชมเข้าไปยืนในบ้านเพื่อสัมผัสประสบการณ์แรงสั่นสะเทือนระดับ 7.9 ริกเตอร์ ถือว่าน้อง ๆ แผ่นดินไหวญี่ปุ่นล่าสุดซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.8 ริกเตอร์ งานนี้ขอบอกว่าถ้าไม่จับ ให้ดี...มีกระเด็น
ไฮไลต์ตัวสุดท้ายคือ นวัตกรรมบ้านต้นแบบ "เอสซีจีแคร์" ที่เลือกใช้วัสดุและออกแบบฟังก์ชั่นให้เหมาะกับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ผู้เข้าชมบ้านจะถูกจับใส่แว่นให้เห็นภาพพร่ามัว ใส่ถุงมือและถ่วงตุ้มถ่วงเพื่อให้ได้ความรู้สึกใกล้เคียงผู้สูงอายุ เพื่อลองทำกิจกรรมในบ้านจำลองแบบปกติและบ้านจำลองสำหรับผู้สูงอายุ
บ้านเอสซีจีแคร์ได้ปรับฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้เหมาะกับผู้สูงอายุ อาทิ การดีไซน์ ชั้นวางของให้เป็นราวจับไปในตัว และติดตั้งที่ระดับ 90 เซนติเมตร เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวโค้งมนเพื่อลดอุบัติเหตุ เลือกใช้ประตูบานสไลด์แทนลูกบิดเพื่อเปิดปิดได้ง่าย เพิ่มความกว้างช่องประตูทางเข้าเป็น 110 เซนติเมตร จากปกติ 70-75 เซนติเมตร รองรับผู้สูงอายุที่ต้องนั่งรถเข็น ฯลฯ
ส่วนห้องน้ำมีการติดตั้งเก้าอี้นั่งอาบ ที่ปรับระดับความสูงได้ โถสุขภัณฑ์ที่มีความสูงพอเหมาะกับการพยุงตัวจาก รถเข็น เป็นต้น
สำหรับแฟนคลับ...นวัตกรรมทุกตัวเอสซีจีมีแผนจะนำออกวางตลาดในอนาคตไม่เกิน 1-2 ปีนับจากนี้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-01-2555
|
|
|
|
|
