Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
LPNสตาร์ตขายคอนโดฯผู้สูงอายุ ส่ง"แพลตินัมโซน"ทุกอย่างครบราคา5หมื่น/ตร.ม. |
|
ค่ายแอล.พี.เอ็น.ฯ ตอกย้ำแบรนด์เจ้าตลาดคอนโดฯ เปิดตัวแนวคิดพัฒนาห้องชุดแนวใหม่ ชูคอนเซ็ปต์ "แพลตินัมโซน" เจาะลูกค้าผู้สูงอายุยุคเบบี้บูม เผยโอกาสทางการตลาดมีสูง เฉลี่ยมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว 10-15% โครงการนำร่องแบรนด์ "ลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์" เตรียมเปิดขาย 28 ม.ค.ปีหน้า
นายพิเชษฐ์ ศุภกิจจานุสันติ์ กรรมการบริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า กลยุทธ์การแข่งขันในตลาดคอนโด มิเนียมปี 2555 บริษัท เปิดตัวคอนเซ็ปต์พัฒนาโครงการแนวใหม่ "ห่วงโซ่ของครอบครัว-Family Chain" ผสมผสานการพัฒนาห้องชุดเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนเป็น 2 กลุ่มหลัก คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบใช้ชีวิตในคอนโดฯ มากขึ้น และกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ วัยเริ่ม 55 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนห้องชุด 90% และ 10% ตามลำดับ โดยบริษัทจัดทำโครงการนำร่องที่พัทยาเป็นแห่งแรก ภายใต้แบรนด์ "ลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์"
รูปแบบ Family Chain ออกแบบให้มีโซนห้องชุดสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เรียกว่า "แพลตินัมโซน" มีประมาณ 10% ของยูนิตรวมทั้งโครงการ ถ้าหากประสบความสำเร็จ บริษัทเตรียมขยายผลให้เป็นจุดขายคอนโดฯ ทุกโครงการในเครือแอล.พี.เอ็น.ฯ ซึ่งวางแผนลงทุนเปิดตัวใหม่ประมาณ 10 โครงการในปีหน้า
รายละเอียดโครงการลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ออกแบบเป็นตึกสูง 3 อาคาร มูลค่าโครงการรวม 2,500 ล้านบาท บริษัทเปิดขายเฟสแรก อาคาร A รวม 532 ยูนิต โดยกันพื้นที่ชั้น 4-6 รวม 3 ชั้น เป็นแพลตินัมโซนโดยเฉพาะ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม และจะเปิดขายโซนนี้ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2555
ข้อแตกต่างระหว่างห้องชุดโซนปกติกับแพลตินัมโซน คือ 1.ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 20% โดยห้องชุดปกติ มีราคาเฉลี่ย ตร.ม.ละ 4 หมื่นบาทขึ้นไป แพลตินัมโซน เฉลี่ย 5 หมื่นบาท/ตร.ม. โดยห้องชุดในแพลตินัมโซนจะได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าปกติ คือเริ่มต้น 34-39 ตร.ม. ขณะที่ห้องชุดปกติ เริ่ม 26-38 ตร.ม.
2.เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลาง โดยแพลตินัมโซนจะเพิ่มฟังก์ชั่นห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ห้องทำครัว ห้องคาราโอเกะ ห้องสมุดที่มีชีวิตชีวา ห้องสันทนาการ หรือแฟมิลี่เลานจ์ ขณะที่พื้นที่ส่วนกลาง ตาม มาตรฐานคอนโดฯ แอล.พี.เอ็น.ฯ ก็ยังมีอยู่ครบ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนรวมใจ เป็นต้น
"แนวคิดพัฒนาห้องชุดแพลตินัมโซน เราศึกษามานานแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยมีประสบการณ์ลงทุนเซอร์วิสอพาร์ต เมนต์ร่วมกับผู้ถือหุ้นชาวญี่ปุ่น ทำให้มีฐานข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ สิ่งที่เขาเป็นห่วงมี 2 เรื่อง คือสุขภาพกาย กับสุขภาพใจ"
แนวทางของบริษัท "สุขภาพกาย" สามารถเติมเต็มได้ด้วยการออกแบบห้องชุดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ อาทิ ห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ติดตั้งราวจับในห้องน้ำที่มีปุ่มกดสำหรับขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน มีบริการนางพยาบาล-บุรุษพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง โดยร่วมกับพันธมิตร คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา สรุปว่า โดยรวม ห้องชุดแพลตินัมโซนสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยที่พิการ หรือนั่งวีลแชร์ก็สามารถเข้าพักได้ เพราะออกแบบความสะดวกสบายไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ "สุขภาพใจ" แอล.พี.เอ็น.ฯ พัฒนานวัตกรรมโครงการคอนโดฯ โดยต่อยอดจากจุดขายเรื่อง "ชุมชนน่าอยู่" ซึ่งบริษัทเข้ามาดูแลการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุดภายใต้บริษัทลูก คือบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเม้นต์ จำกัด ปัจจุบันดูแลอยู่กว่า 80 นิติบุคคลฯ มากกว่า 150-160 อาคาร พื้นที่ใช้สอยกว่า 3 ล้าน ตร.ม. ยูนิตรวมกว่า 4 หมื่นยูนิต หรือมีเจ้าของร่วมภายใต้เครือข่ายแบรนด์ลุมพินี ประมาณ 1 แสนคน
ในจำนวนนี้พบว่ามีประมาณ 10-15% หรือ 1-1.5 หมื่นคนที่เป็นลูกค้า หรือเจ้าของร่วม ที่อยู่ในวัยยุคเบบี้บูม เป็น ผู้สูงอายุ แต่มีศักยภาพ สามารถดูแลตัวเองได้ และเลือกที่จะใช้ชีวิตในคอนโดฯ เพราะต้องการอยู่อาศัยกับเจ้าของร่วม ที่มีวัยแตกต่างกัน การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นที่ส่วนกลาง คือห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร สามารถซื้อของดิบมาปรุงอาหารทานเอง และสังสรรค์ในบรรยากาศครอบครัวได้เหมือนอยู่บ้าน ซึ่งจะทำให้มีความสุข หรือมีสุขภาพใจที่ดีขึ้น
"เจ้าของร่วมที่เป็นผู้สูงอายุและพักอาศัยในคอนโดฯ เรามี 10-15% แต่ที่ผ่านมายังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับกลุ่มนี้ แพลตินัมโซนจึงถือเป็นไพลอตโปรเจ็กต์ เราเพียงแต่ต่อยอด สิ่งที่เรามีเหนือคู่แข่ง คือการบริหารจัดการชุมชนน่าอยู่ ถ้าหากประสบความสำเร็จ แพลตินัมโซนจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การแข่งขันที่สำคัญในปีหน้า และผมมั่นใจว่าคู่แข่งจะลอกเลียนแบบลำบาก" นายพิเชษฐ์กล่าว
นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารของแอล.พี.เอ็น.ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนจะเปิดตัวแนวคิดแพลตินัมโซน บริษัทวิจัยตลาดพบว่าพฤติกรรมการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุไม่ต้องการอยู่อาศัยในสังคมผู้สูงอายุ ด้วยกัน ขณะที่รูปแบบสังคมไทยเริ่ม เป็นครอบครัวเดี่ยว คือมีการแยกครอบครัวเล็ก ๆ มากขึ้น ดังนั้น เมื่อมีแพลตินัมโซนขึ้นมาก็จะทำให้คนรุ่นลูกสามารถพักอาศัยร่วมกับพ่อแม่ได้ในโครงการเดียวกัน
"ครอบครัวไทยอยากอยู่ด้วยกัน แต่ให้มีช่องว่างระหว่างกัน เช่น ลูกอาจจะอยู่ชั้น 15 พ่อแม่อยู่แพลตินัมโซนชั้น 4 ซึ่งจะทำให้ห่วงโซ่ของครอบครัว หรือ แฟมิลี่เชนเชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ อีกครั้ง เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออก หรือแบบไทย ๆ เพราะเราเป็นครอบครัวขนาดใหญ่อยู่กันหลาย เจเนอเรชั่น จะเห็นได้ว่าคนยุคเบบี้บูมในสังคมไทยตอนนี้ทำไมต้องใช้ไอโฟน ต้องใช้วอตช์แอปส์ เพราะไม่ได้อยู่ลำพังโดดเดี่ยว ถึงแม้จะสูงวัย แต่ก็ต้องการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัว หรือคนต่างวัยในชุมชนเดียวกัน" นายทิฆัมพรกล่าว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 22-12-2554
|
|
|
|
|