Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
จัดแถว "จราจรเมืองกรุง" เข้าสู่โหมดปกติ หลังน้ำลด..."ของฟรีหมด-รถติดหนึบ" |
|
พลันที่สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯเริ่มคลี่คลาย มีหลายเขตแห้งสนิทและจัดคลีนนิ่งเดย์ล้างคราบไคลของน้ำจนแทบไม่เหลือซาก ขณะที่ถนนอีกหลายสาย น้ำเริ่มลดจนรถยนต์วิ่งผ่านได้
ส่งผลให้บรรยากาศย่านธุรกิจการค้าทั้งกลางเมืองและรอบนอกกลับมาคึกคัก ปรับวิถีชีวิตกลับเข้าสู่โหมดปกติ ทำให้ถนนแทบทุกสาย "การจราจร" เริ่มติดขัด แม้แต่ระบบขนส่งมวลชนและรถสาธารณะมีคนใช้บริการกันแน่นขนัด
บีทีเอส-รถไฟใต้ดินคนใช้เพิ่ม
"คีรี กาญจนพาสน์" ประธานบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี กล่าวว่า ช่วงน้ำท่วมใช้เงิน 3 ล้านบาท สร้าง ระบบป้องกันน้ำท่วมสูงระดับ 2.50 เมตร โดยรอบศูนย์ซ่อมบำรุงที่สถานีหมอชิต ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นดินและสุ่มเสี่ยงจะถูกน้ำท่วมได้ เพื่อรักษาระบบของรถไฟฟ้าไว้ใช้บริการคนกรุงเทพฯจนวินาทีสุดท้าย
"เราเสริมความสูงของถนน ก่อผนังคอนกรีตโดยรอบห้องเครื่อง นำกระสอบทรายมาสร้างเป็นคันกั้นน้ำ และสร้างทางเดินเชื่อมกับสถานีหมอชิต เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ"
"คีรี" ระบุด้วยว่า ช่วงนั้นคนใช้บริการลดลง 10% จากเฉลี่ยวันละ 5.5-5.7 แสนเที่ยวคน รายได้หายไปวันละ 3 ล้านบาท จากปกติอยู่ที่กว่า 13 ล้านบาท เหลือ 11 ล้านบาท เพราะคนถูกน้ำท่วมหยุดการเดินทาง แต่ตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้วหลังหลายพื้นที่น้ำแห้ง ทำให้ผู้โดยสารของบีทีเอสเริ่มกลับเข้าสู่ปกติแล้ว
ด้าน "ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล กล่าวว่า ปัจจุบันเริ่มปลดผนังคันกั้นน้ำที่บริษัท ติดตั้งไว้ตรงทางเข้า-ออกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 18 สถานีแล้ว หลังสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่ออำนวยความ สะดวกให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น
"น้ำท่วมคนใช้รถไฟฟ้าใต้ดินลดลง หายไปวันละ 4 หมื่นเที่ยวคน หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 8 แสนบาท ต่อวัน เหลือ 1.7 แสนเที่ยวคนต่อวัน จากปกติอยู่ที่ 2.1 แสนเที่ยวคนต่อวัน มีหลายสาเหตุที่คนไม่เดินทาง เพราะบ้านถูกน้ำท่วม ปิดเทอม และคนอาจจะจิตตกว่าจะเกิดน้ำท่วมเข้ามาในสถานี แต่เชื่อว่าจากนี้จะกลับมาเป็นปกติและไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทยังคงเป้าโตที่ 10%" เอ็มดีรถไฟฟ้าใต้ดินกล่าวอย่างมีความหวัง
เก็บค่าทางด่วนปกติ
ขณะที่โครงข่ายทางด่วนทันทีที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และตำรวจจราจรเปิดปฏิบัติการไล่เคลียร์รถยนต์กว่า 1 หมื่นคันที่จอดขวางบนทางด่วนเสร็จเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา และจัดเก็บค่าผ่านทางตามปกติหลังเที่ยงคืนของวันที่ 21 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้ กทพ.ยอมเปิดบริการใช้ฟรี 3 สาย มีวงแหวนด้านใต้, บางนา-บางปะกง และรามอินทรา-อาจณรงค์-วงแหวนรอบนอก ยอมเสียสละรายได้ วันละ 15 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา รวม 20 วัน สูญรายได้ไป 450 ล้านบาท
รวมไปถึงสายทางสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ของ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ และทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ของ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพเหนือ ที่รัฐบาลยอมจ่ายค่าชดเชยให้วงเงิน 184 ล้านบาท
เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ทั้ง "กทพ.-บีอีซีแอล" คาดว่าปริมาณการจราจรบนทางด่วนทั้งระบบจะดีดกลับขึ้นมาเป็นปกติวันละ 1.3-1.4 ล้านเที่ยว จากช่วงน้ำท่วมหล่นหายไปวันละ 2-3 แสนเที่ยว
ลุ้นโทลล์เวย์ขยายเวลาใช้ฟรี
เช่นเดียวกับ "โทลล์เวย์-ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์" ซึ่งถูกน้ำท่วมซัดอ่วมอรทัยไม่แพ้กัน ทั้งด่านที่จมน้ำคนแห่มาจอดรถหนีน้ำกีดขวางการจราจร ทำให้ลูกค้าหายไป 30% จากวันละ 6 หมื่นเที่ยวคน เหลือ 4 หมื่นเที่ยวคนต่อวัน รายได้จากวันละ 5 ล้านบาท เหลือ 4 ล้านบาทเศษ จนทำให้ "สมบัติ พานิชชีวะ" เจ้าของต้องประกาศเปิดฟรีไปโดยปริยาย
ล่าสุดมีแนวโน้มจะขยายเวลาออกไปอีก จากสิ้นสุดวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา หลัง "พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" รมว.กระทรวงยุติธรรม และผู้อำนวยการ ศปภ. ต่อสายตรงมาด้วยตัวเองขอขยายเวลาออกไปอีก
ซึ่ง "สมบัติ" บอสใหญ่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ขอดูรายละเอียดการชดเชยรายได้ จากรัฐบาลก่อน แต่ยอมรับว่าเส้นทางโทลล์เวย์ปัจจุบันยังไม่เป็นปกติ เพราะด้านล่างบางบริเวณยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ทำให้ผู้ใช้บริการบางด่านใช้ไม่ได้ จะต้องใช้บริการตั้งแต่ต้นทางที่รังสิตถึงปลายทางที่ดินแดงอย่างเดียว อาจจะทำให้ปริมาณผู้โดยสารยังต่ำกว่าเวลาปกติบ้างเล็กน้อย
วงแหวนตะวันออกฟรีถึง 30 พ.ย.
ขณะที่มอเตอร์เวย์ ทาง "วันชัย ภาคลักษณ์" อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า หลังวันที่ 20 พ.ย.นี้จะเก็บ ค่าผ่านทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (สาย 7) หรือมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้การจราจรกลับมาเป็นปกติ เพราะเส้นทางนี้มีคนใช้บริการจำนวนมากอยู่แล้ว เพราะเป็นเส้นทางไปสู่ภาคอีสานได้
"แต่ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออกหรือทางหลวงพิเศษสาย 9 จะยกเว้น ค่าผ่านทางด่านธัญบุรีและบางปะอินต่อไปจนถึง 30 พ.ย.นี้ เพราะสภาพทาง ยังมีน้ำท่วมขังและกรมอยู่ระหว่างกู้ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ยังไม่เอื้ออำนวยที่จะเปิดใช้บริการตอนนี้"
เรือด่วนเจ้าพระยาเปิดแล้ว
ด้าน "เรือด่วนเจ้าพระยา" หลัง หยุดบริการไป 1 เดือนเต็ม ๆ ทาง "ปริญญา รักวาทิน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่า น้ำท่วมคลี่คลายและระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. ได้เปิดบริการเรือโดยสารธงส้มจากท่าสาทร-ท่าน้ำนนทบุรี และเรือ ท่องเที่ยวจากท่าสาทร-ท่าพระอาทิตย์ตามปกติ หลังหยุดบริการไป 1 เดือน นับจากวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ รายได้ ของบริษัทหายไปร่วม 20 ล้านบาท หากระดับน้ำลดลงต่อเนื่องจะเปิดบริการสายธงเหลืองเพิ่มเติมอีกด้วย
"ช่วงแรกคาดว่าผู้โดยสารจะยังไม่เท่าเดิม คาดว่าจะมีมาใช้บริการประมาณ 60% หรือกว่า 20,000 เที่ยวคนต่อวัน จากปกติอยู่ที่วันละ 40,000 เที่ยวคนต่อวัน คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับมาเป็นปกติได้"
ขสมก.ยกเลิกรถเฉพาะกิจ-รถเมล์ฟรี
ส่วน "ขสมก.-องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ" นั้น ผู้อำนวยการ "โอภาส เพชรมุณี" กล่าวว่า ช่วงน้ำท่วมได้นำรถเมล์ทั้งปรับอากาศและรถร้อนเป็น 100 คันออกมาวิ่งให้บริการประชาชนฟรีในพื้นที่น้ำท่วม ทั้งเป็นระบบเสริมให้กับขนส่งระบบอื่น ๆ และส่งตรงผู้โดยสารในพื้นที่ถูกน้ำท่วม
ปัจจุบันได้ยกเลิกรถเมล์เฉพาะกิจในพื้นที่น้ำท่วมบางสายที่วิ่งบนเส้นทางโทลล์เวย์ และเริ่มเก็บค่าบริการตามปกติในบางเส้นทางแล้ว แต่ก็มีรถเมล์ฟรีวิ่งบริการอยู่ 21 สายทางเช่นกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ
"คาดว่า ขสมก.จะมีรายได้เข้ามาเป็นปกติ หลังช่วงน้ำท่วมสูญรายได้ไปวันละ 1 ล้านบาท ตั้งแต่ 8 ต.ค.เป็นต้นมา" ผอ.ขสมก.กล่าว
บขส.ย้ายกลับสายใต้
สุดท้ายคือ "วุฒิชาติ กัลยาณมิตร" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วันพุธที่ 23 พฤศจิกายนเป็นต้นไป บขส.จะกลับมาให้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้) บริเวณถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชันตามเดิม หลังในช่วง น้ำท่วมได้ย้ายไปชั่วคราวที่บริเวณโรงเบียร์ฮอลแลนด์ พระราม 2 เนื่องจากน้ำท่วมถนนบรมราชชนนี
แต่ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณนี้เริ่มคลี่คลายลง ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวเข้าสู่สภาวะเกือบปกติแล้ว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 28-12-2554
|
|
|
|
|