| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 203 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 25-08-2554    อ่าน 11035
 แสนสิริ เปิดคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ “เดอะ เบส แจ้งวัฒนะ” ยูนิตละ 1-3 ล้านบาท พรีเซลกลางก.ย.นี้

แสนสิริ รุกขยายการพัฒนาโครงการสู่โซนเหนือ กทม. รับกำลังซื้อ หลัง 8 เดือนสามารถสร้างยอดขายได้เป็นไปตามแผนจากการขยับเพิ่มเป้าการขายอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมการเปิดตัวโครงการใหม่ช่วงครึ่งปีหลังรวม 9 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ทั้งใน กทม. และ ต่างจังหวัด นำร่องด้วยการเปิดโครงการคอนโด “เดอะ เบส แจ้งวัฒนะ” ชีวิตดีมีความหมาย ในราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท พร้อมขายกลางกันยายน นี้

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา แสนสิริ สามารถสร้างยอดขายคอนโดมิเนียมรวม 1,400 ยูนิต รวมมูลค่าประมาณ 3,800 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ประกาศไว้ในช่วงต้นปี เพราะได้มีการปรับเพิ่มเป้าการขายอย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาสของปี 54 ทำให้ต้องเร่งนำเสนอโครงการใหม่สู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เริ่มจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม “เดอะ เบส แจ้งวัฒนะ” (the BASE Chaengwattana) รับกำลังซื้อในโซนเหนือของ กทม.



ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ แสนสิริ ที่ก้าวเข้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านดังกล่าว เพราะเล็งเห็นถึงกลุ่มกำลังซื้อและตอบรับการขยายตัวของระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ตลอดจนการเกิดใหม่ของ ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การประชุม, Community Mall, ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู, ศูนย์ราชการ เป็นต้น



ทั้งนี้ โครงการ คอนโดมิเนียม “เดอะ เบส แจ้งวัฒนะ” (the BASE Chaengwattana) เป็นอาคารสูงประมาณ 24 ชั้น จำนวน 1,231 ยูนิต มีให้เลือก 2 แบบ ประกอบด้วย แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 24.5 –35 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้Œองน้ำ 47 – 50 ตร.ม. พร้อมจุดจอดรถจักรยาน ครบครันด้วย สระว่ายน้ำความยาว‹ Olympic Size (50 เมตร) พร้Œอมห้Œองออกกำลังกายและอุปกรณ์, Roof Garden, ห้องสมุด, Sky Jogging Track และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า‹ 4,000 ตร.ม. บริการรถรับส่ง ใกล้รถไฟฟ้‡าส่วนต่อขยาย (สายสีชมพูวิ่งจาก แคราย - มีนบุรี) CCTV ทุกชั้นและรอบบริเวณโครงการ



และบริการมุมซักผ้าเพื่อความสะดวกของผู้อยู่อาศัย โดดเด่นด้วยดีไซน์ Corner Window เพื่อเปิดอิสรภาพแห่งการอยู่อาศัย พร้อมให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ ภายใต้แนวคิด “ชีวิตดีมีความหมาย”


ในช่วงที่ผ่านมาตลาดคอนโดระดับราคา 1-3 ล้านบาท ได้รับการตอบรับจากตลาดดีมาก ดังเช่นความสำเร็จของ โครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เบส โครงการแรกของ แสนสิริ ที่สามารถปิดการขายได้ในเวลาเพียง 10 เดือน และมีเหลือขายเพียง 10 ยูนิตสุดท้าย ซึ่งกระแสตอบรับของโครงการเกิดจากการที่เราพัฒนาโครงการให้รวมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตไว้ในที่เดียว ซึ่งผู้บริโภคมองว่าคุ้มค่า ด้วยความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ แสนสิริ นำแนวคิดในการพัฒนาดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับโครงการแห่งใหม่ คือ คอนโดมิเนียม “เดอะ เบส แจ้งวัฒนะ”



“กำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง 54 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 6% หรือราว 25,000 ยูนิต เนื่องจากมาตรการ LTV 90% ยังมีผลบังคับใช้อยู่ อุปทานในตลาดห้องชุดปัจจุบันเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่างเป็นหลัก เกือบ 70% ในตลาด และยอดขายได้ส่วนใหญ่เกิดจากอุปสงค์ในกลุ่มนี้ ทั้งนี้ โซนชั้นนอก อาทิ มีนบุรี และนนทบุรี มีกำลังซื้อที่สูงขึ้น ห้องชุดตามเส้นทางรถไฟฟ้ายังได้รับการตอบรับที่ดี



โดยปัจจัยบวก ที่ส่งผลต่อตลาดคอนโดในครึ่งปีหลัง 54นอกจากปัจจัยทางด้านสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวภายหลังจากภาวะการเมืองที่เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ปัจจัยทางด้านการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและความคืบหน้าในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ น่าจะเป็นปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลัง 54 เติบโตดีขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญต่อปัจจัยทางด้านทำเลที่ตั้งในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมอยู่



นอกจากนี้ ปัจจัยที่สำคัญอีกประการคือ นโยบายและมาตรการต่างๆ ในการสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น นโยบายทางด้านภาษีหรือการสนับสนุนเงินกู้ในการซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากโครงการใหม่ที่เปิดขายในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนใหญ่มียอดขายตอบรับดีในโครงการคอนโดมิเนียมระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และ 1-2 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตคาดว่าโครงการเปิดใหม่ที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเน้นช่วงระดับราคานี้อยู่เช่นกัน และกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับราคาดังกล่าว ยังคงอาศัยเงินกู้ในการซื้อที่อยู่อาศัย



มาตรการทางด้านภาษีหรือเงินกู้ในการซื้อที่อยู่อาศัยจึงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมเติบโตดีขึ้น ส่วนนโยบายการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และการปรับค่าแรงขั้นต่ำ อาจเป็นปัจจัยเสริมในการกระตุ้นที่จะสร้างยอดขายให้เกิดการตอบรับที่ดีขึ้นได้ในทางอ้อม” นายอุทัย อุทัยแสงสุข กล่าวสรุป
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-08-2554 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.