|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อสังหาฯภูเก็ตยังบูมต่อเนื่อง เผยศก.ทั่วโลกตกต่ำ ผู้ซื้อหลักเป็นคนไทยถึง 85% ไม่ใช่ชาวต่างชาติ |
|
ไนท์แฟรงก์ วิจัยตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต สถิติล่าสุดมี 91 โครงการ 1.2 หมื่นยูนิต อัตราดูดซับอยู่ที่ 67% หรือ 8.2 พันยูนิต เผยผู้ซื้อส่วนใหญ่ถึง 85% เป็นคนไทยไม่ใช่คนต่างชาติ
นายณัฎฐา คหาปนะ ผู้อำนวยการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทยพบว่า มากกว่า 80% ของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในภูเก็ตคือ คนไทย โดยเฉพาะคนที่ทำงานโรงแรมในภูเก็ต เจ้าของธุรกิจ พนักงานธนาคาร หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่รัฐ และครูโรงเรียนนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติที่แต่งงานกับคนไทย
จากการเก็บข้อมูลพบด้วยว่า ณ ปลายเดือนเมษายน มีโครงการที่พักอาศัยทั้งหมด 91 โครงการ 12,181 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ 27% รองลงมาคือบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 26%และ 22% ตามลำดับ อัตราการขายอยู่ที่ 8,265 ยูนิตจากทั้งหมด 12,181 ยูนิต คิดเป็นร้อยละ 67.9%
อัตราการขายเพิ่มขึ้นจากปี 2552 เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในปี 2553 จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในภูเก็ตทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น ผู้ซื้อหลักในตลาดนี้ทำงานในภาคบริการ เมื่อรายได้กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจึงต้องการซื้อที่พักอาศัยเป็นของตนเองมากกว่าที่จะเช่าอยู่
กลุ่มอสังหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 2,509 ยูนิต ตามด้วย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่ 2,374 ยูนิต และ 1,522 ยูนิตตามลำดับ
จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทยเปิดเผยว่าจำนวนอุปสงค์ที่พักอาศัย 2 ชั้นมีมากที่สุด เนื่องจากราคาที่ดินในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่พักอาศัย 2 ชั้นเจะทำให้พื้นที่ใช้สอยเกิดประโยชน์ที่สุดแก่ผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม จำนวนอุปสงค์ของที่พักอาศัยชั้นเดียวก็ยังคงมีอัตราสูงในภูเก็ตซึ่งนิยมแบบเพดานสูงประมาณ 3 เมตร ในปัจจุบันที่พักอาศัยแบบชั้นเดียวในภูเก็ตค่อนข้างหายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบบ้านเดี่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ว่าบ้านรูปแบบไหนที่มีลักษณะเป็นชั้นเดียวจะขายค่อนข้างง่าย
ทั้งนี้ อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตก็เหมือนในแถบอื่นของประเทศไทย ราคาขายจะแตกต่าง ไปตามสถานที่ตั้ง ขนาดของที่ดินและลักษณะเฉพาะของอสังหาฯ นั้น โดยราคาขายของบ้านเดี่ยวอยู่ที่ประมาณ 3.49-10.79 ล้านบาท ขณะที่บ้านแฝดอยู่ที่ประมาณ 2.4-3.6 ล้านบาทต่อยูนิตและทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 1.75-2.89 ล้านบาท
นอกจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตแล้ว บรรดาบริษัทในท้องถิ่นทั้งหลายเช่น กลุ่มบริษัทศรีสุชาติ ภูเก็ตวิลล่า บริษัท วินโปร เอ็นจิเนียร์ จำกัด ต่างก็เข้ามาพัฒนาที่ดินด้วยเช่นกัน บริษัทเหล่านี้มีต้นทุนทางด้านที่ดินต่ำเนื่องจากเป็นที่ดินของตนเองตั้งแต่อดีตเพราะฉะนั้นจึงมีข้อได้เปรียบเหนือบริษัทอื่น ซึ่งต้นทุนที่ดินในภูเก็ตเป็นต้นทุนการลงทุนที่สูงที่สุดเนื่องจากราคาที่ดินภูเก็ตแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณศูนย์กลางเมืองภูเก็ต |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 14-06-2554
|
|
|
|
|
