|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ชำแหละสินเชื่อบ้าน ยุคดอกเบี้ยขาขึ้น |
|
<span style="color: #005800; font-size: small;">อสัง หาฯปี"53 เปิดฉากมาพร้อมกับข่าวร้าย 2 เรื่อง 1) มาตรการแอลทีวี ควบคุมการปล่อยกู้สินเชื่อคอนโดมิเนียมไม่เกิน 90% ถ้าเกินกว่านี้ธนาคารต้องกันสำรองเพิ่มขึ้น 2) แบงก์ชาติประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 2.25% ทาง REIC (ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ในสังกัดธนาคารอาคารสงเคราะห์) หน่วยงานที่คอยเกาะติดข้อมูลเชิงสถิติในธุรกิจอสังหาฯ ฉายภาพความเคลื่อนไหวอัตรา "ดอกเบี้ยนโยบาย" ประเทศต่าง ๆ เปรียบเทียบย้อนหลัง 3 ปี ของกลุ่มประเทศต่าง ๆ</span>
<span style="font-size: small;"><style>
p { margin: 0px; }
</style> <span style="font-family: Tahoma;"><strong>ดบ.นโยบาย ยังต่ำกว่าเพื่อนบ้าน
</strong>ใน 5 ประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ เปรียบเทียบแล้วอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยถือว่า "ค่อนข้างต่ำ" ในช่วง 3 ปีนับจากเดือนธันวาคมปี 2551, 2552 และ 2553 อัตราดอกเบี้ยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2.75%, 1.25% และ 2.00% ตามลำดับ ล่าสุดเดือนมกราคมปรับขึ้นเป็น 2.25% </span> <table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"><tbody>
<tr bgcolor="#400040"> <td><span style="font-family: Tahoma;"><img align="bottom" border="1" hspace="0" src="http://www.prachachat.net/news-photo/prachachat/2011/02/rea11100254p2.jpg" /></span></td></tr>
</tbody></table>
แต่ หากเทียบอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา สิงคโปร์ถือว่ามีต่ำสุดคือ 0.03% ตามด้วยไทย 2.25% มาเลเซีย 2.75% ฟิลิปปินส์ 4.00% และอินโดนีเซีย 6.50% ส่วนประเทศในแถบเอเชียอย่างจีนอยู่ที่ 5.56% ญี่ปุ่น 0.10% เกาหลี 2.50% (ล่าสุดปรับเป็น 2.25%) ไต้หวัน 1.50% ฮ่องกง 0.50% เวียดนาม 9.00% อินเดีย 6.25% ออสเตรเลีย 4.75% และนิวซีแลนด์ 3.00%
โดยภายหลังจากแบงก์ ชาติประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปรากฏว่าธนาคารต่าง ๆ ได้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามมา ปัจจุบันอัตรา ดอกเบี้ย MLR (Minimum Loan Rate) ธนาคารต่าง ๆ เป็นดังนี้ แบงก์กรุงเทพ แบงก์กสิกรไทย แบงก์ไทยพาณิชย์ และกรุงไทยคิดดอกเบี้ยเท่ากันคือ 6.375% ส่วนแบงก์ทหารไทยอยู่ที่ 6.750%
<b>สินเชื่อปล่อยใหม่โตต่อเนื่อง</b>
มอง ในเชิงภาพรวม "สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่" ทั่วประเทศ ย้อนหลัง 4 ปี (2550-2553) พบว่าตลาดสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง ปี 2550 มีมูลค่า 270,500 ล้านบาทโต 3% ปี 2551 มีมูลค่า 287,000 ล้านบาทโต 6% ปี 2552 มีมูลค่า 318,900 ล้านบาทโต 11% และปี 2553 (9 เดือนแรก) มีมูลค่า 281,300 ล้านบาท โต 27% คาดว่าถึงสิ้นปีจะเป็น 330,000-340,000 ล้านบาท โต 3.4-6.6%
สถิติ ข้างต้น สอดรับกับภาพรวม "สินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้าง" ทั่วประเทศ ที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องนับจากปี 2548-2553 โดยปี 2548 สินเชื่อที่อยู่อาศัย คงค้างมีมูลค่า 1.216 ล้านล้านบาท โต 18% ปี 2549 มูลค่า 1.347 ล้านล้านบาท โต 11% ปี 2550 มูลค่า 1.471 ล้านล้านบาท โต 9% ปี 2551 มีมูลค่า 1.585 ล้านล้านบาท โต 8% ปี 2552 มีมูลค่า 1.717 ล้านล้านบาท โต 8% และปี 2553 (9 เดือนแรก) มีมูลค่า 1.840 ล้านล้านบาท โต 18%
ทำให้บริษัทจดทะเบียนในธุรกิจอสังหาฯหันมาออกหุ้นกู้เพื่อควบ คุมต้นทุนดอกเบี้ยมากขึ้น โดยปี 2549 มีออกหุ้นกู้รวมกันจำนวน 39,900 ปี 2550 จำนวน 59,492 ล้านบาท ปี 2551 จำนวน 66,926 ล้านบาท ปี 2552 จำนวน 70,368 ล้านบาท
ส่วนทิศทางสินเชื่อบ้านปีนี้จะยังคงเห็นการแข่งขัน กันของธนาคารต่าง ๆ และจะระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อรายย่อยให้โครงการห้องชุดคอนโดฯมากขึ้น
ขณะที่อัตราการ "รีไฟแนนซ์" น่าจะลดลงทำให้อัตราสินเชื่อปล่อยใหม่ในปีนี้น่าจะกลับไปอยู่ในระดับใกล้ปี"52 ที่ 318,900 ล้านบาท</span> |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-02-2554
|
|
|
|
|
