Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"Last Price ลดด่วนขบวนสุดท้าย" ชื่นมื่นกับแคมเปญทิ้งทวนก่อนยุบ "บสท." |
|
|
8 มิถุนายน 2554 วันยุบเลิกองค์กรของ "บสท.-บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย" ซึ่งจะก่อตั้งครบ 10 ปี ตามที่กฎหมายจัดตั้ง ระบุไว้ เป็นที่มาของคำกล่าว "เราเหลือเวลาทำงานอีกเพียงประมาณ 100 วันทำการเท่านั้น แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด" ถ้อยคำเปิดประเด็นของ "พี่อ้อย-จุไรรัตน์ ปันยารชุน" เอ็มดี บสท.
ย้อนวันแรกที่ บสท.เริ่มทำงาน ตอนนั้นยอดหนี้ที่รับเข้ามามีมูลค่ารวม 7.7 แสนล้านบาท ราคารับซื้ออยู่ที่ 2.3 แสนล้านบาท ทยอยชำระไปแล้ว 2 แสนล้านบาท เหลืออีก 8 หมื่นล้านบาท ปรากฏว่ามียอดรอรับชำระ 6 หมื่นล้านบาท
เท่ากับคำนวณ แล้วถ้าทำเพิ่มเติมได้ 2 หมื่นล้านบาท ปฏิบัติการยุบเลิก บสท.เมื่อถึงวินาทีสุดท้ายจะ "สง่างาม" เป็นที่สุด เพราะไม่ต้องพึ่งพากระทรวงคลังนำเงินภาษีมาโปะในการชำระบัญชี
ถามว่า รายได้ 2 หมื่นล้านบาทของ บสท.จะลอยมาจากไหน ในเมื่อมี "วันทำการ" เหลือเพียง 100 วันดังกล่าว
"ปี 2554 ตอนแรกตั้งเป้าไว้ อยากทำผลงานสัก 1.6 หมื่นล้านบาท..."
ระหว่าง ทางเพียง 3 สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2554 (4-24 มกราคม) ทำยอดขายทรัพย์ NPA ระเบิดเถิดเทิงไปถึง 3,650 ล้านบาท นำไปสู่การปรับเป้าผลดำเนินการงวดสุดท้ายใหม่เป็น 2 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป้าผลดำเนินงานอย่างละ 1 หมื่นล้านบาท ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ (NPL) กับการขายทอดตลาดทรัพย์ (NPA)
สำหรับ การระบายทรัพย์ NPA ทีเด็ดของ บสท. หรือจะเรียกว่าเป็นโนว์ฮาวก็ว่าได้ ก็คือกิจกรรมการตลาดในการจัดแคมเปญโดนใจ ที่ผ่านมามีบิ๊กแคมเปญ 2 เวอร์ชั่น คือ "ช็อกไพรซ์" ทำอยู่ 3 ครั้ง และ "น็อกดาวน์ไพรซ์" ทำมา 4 ครั้ง แน่นอนว่าแต่ละครั้งโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ
เวอร์ชั่นสุดท้ายซึ่งจะ เป็นแคมเปญทิ้งทวนด้วยก็คือ "ลาสต์ไพรซ์ ลดด่วนขบวนสุดท้าย" กำหนดเคาะราคาประมูล 2 ครั้ง ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์และ 1 เมษายนนี้
สำหรับ ผู้สนใจแคมเปญ "ลาสต์ไพรซ์ฯ" ครั้งแรกเคาะประมูลวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เปิดให้ลงทะเบียนเป็นผู้แข่งขันประมูลตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม-22 กุมภาพันธ์ ครั้งที่ 2 เคาะประมูลวันที่ 1 เมษายน เปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 1-29 มีนาคม
ปี 2554 อยู่ในบรรยากาศดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบความเชื่อมั่นคนซื้อหรือเปล่า
"ดอกเบี้ย ขาขึ้นเป็นปัจจัยเล็กน้อย เมื่อเทียบกับผลตอบแทนการลงทุนหรือ ยีลด์ที่จะได้จากการลงทุนซื้อ NPA" คำตอบอย่างมั่นอกมั่นใจของ "พี่เชาว์- เชาวรัตน์ เชาวน์ชวานิล" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บสท.
ถามถึงกลยุทธ์หนุนหลังที่จะทำให้รายได้เข้าเป้า
คำ ตอบที่พบคือ สถิติการระบายทรัพย์ NPA ปีที่แล้วพบว่าทรัพย์ราคาต่ำกว่า 20 ล้านบาท มีสัดส่วน 30% ทรัพย์ราคา 20-50 ล้านบาท มีสัดส่วน 14% ขณะที่ทรัพย์เกิน 50 ล้านบาท มีสัดส่วนสูงถึง 60% แปลว่า ปีที่แล้วทรัพย์รายการใหญ่ ๆ จะเป็นตัวหลักในการทำยอดขาย
มาถึงปีนี้ กลยุทธ์ปรับใหม่เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถ "เข้าถึง" ทรัพย์ NPA ได้หลากหลายมากขึ้น อาทิ กลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการและกลุ่มรายย่อยทั่วไป
"ปี ที่แล้วเรามีการรวมกองเพื่อเวลาเปิดประมูลจะได้เป็นทรัพย์กองใหญ่ แต่ปีนี้จะเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยแตกทรัพย์ เป็นรายแปลง อย่างที่ดินติดกับทำเลโครงการคฤหาสน์ทายาท ปากเกร็ด เคยรวมกองใหญ่จาก 140 แปลงเล็ก ทำให้ราคาประมูลสูงกว่า 100 ล้านบาท แต่ปีนี้ทรัพย์ตัวเดียวกันจะแตกเป็น 100 กว่าแปลงย่อย ทำให้คนทั่วไปมีโอกาสเข้าร่วมประมูลแข่งขัน"
นั่นหมายความว่า ปีนี้ บสท.นิยามกลุ่มเป้าหมาย "ผู้ประกอบการ" ว่าน่าจะเป็นผู้แข่งขันหลักในทรัพย์ที่มีราคาเกิน 20 ล้านบาท ซึ่ง บสท.มีเหลืออยู่กว่า 700-800 รายการ ขณะที่กลุ่มเป้าหมาย "คนทั่วไป" หรือ "รายย่อย" จะมีราคาทรัพย์ตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงไม่เกิน 10 ล้านบาท
โดย นโยบาย "แตกทรัพย์" กองใหญ่ให้เป็นแปลงย่อย จะทำให้ทรัพย์ที่จะเปิดประมูลพื้นที่เริ่มต้น 60-80-100 ตร.ว. ก็มี ถ้าเป็นในต่างจังหวัดราคาทรัพย์เริ่มต้น 6-7 แสนบาทก็เห็นแล้ว เช่น ทาวน์เฮาส์ เป็นต้น นโยบายนี้ยังทำให้จำนวนรายการเพิ่มทันทีไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 รายการ
ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม เพราะตัวเลือกยิ่งมาก โอกาสในการขายทอดตลาดก็ยิ่งสูงเป็นเงาตามตัว |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 31-01-2554
|
|
|
|
|