|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เปิดอาณาจักรหมื่นล้าน "ภัทราวิลลา" ท่องคาถา "โตด้วยคุณภาพ" สู้บิ๊กแบรนด์ |
|
"ภัท ราวิลลา" แบรนด์บ้านจัดสรรที่สะดุดตาทั้งกาลเวลาและจำนวนโครงการ เพราะเห็นมาเยอะและเห็นมานาน มีโอกาสสัมภาษณ์ "คุณเคน" พรชัย เจษฎาวรกุล ผู้บริหารวัย 40 ปี ถามซอกแซกจนได้ความมาว่า ญาติพี่น้องในตระกูลนี้มีร่วม ๆ 50 คน อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียวประมาณ 20 คน จะเรียกเป็นกองทัพน้อย ๆ ก็ว่าได้
ทำมานาน 30 ปีแล้ว รากฐานธุรกิจเริ่มสมัยคุณแม่ ทำค้าวัสดุก่อสร้างก่อนจะขยับขยายมาสู่อาชีพพัฒนาที่ดิน
ใน แง่ยูนิตสะสม "คุณเคน" บอกว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 2,000 ยูนิตแล้ว กลุ่มนี้เขาพัฒนาโครงการขายเจาะตลาดกลางขึ้นไปราคา 3 ล้านปลาย ๆ จนถึง 20 ล้าน แค่คำนวณเฉลี่ยว่ายูนิตละ 5 ล้านบาท มูลค่าโครงการสะสมก็ปาเข้าไปเลยหลักหมื่นล้านบาทแล้ว คอนเฟิร์มได้ว่าเป็น "ของจริง" ในตลาดอีกรายหนึ่ง
ถามแบบเดาคำตอบล่วงหน้า... แบรนด์ "ภัทรา" มีที่มาอย่างไร ปรากฏว่าแทงหวยผิด เพราะคำตอบคือเกิดจากการระดมสมองทีมผู้บริหารในตระกูลเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว เมื่อมติเอกฉันท์ว่าเป็นชื่อที่ไพเราะ มีความหมายที่ดีก็โหวตให้ใช้โดยที่ไม่มีใครในตระกูลชื่อ "ภัทรา" ตอนที่ตั้งแบรนด์
"บางคนเข้าใจว่าภัทราเป็นชื่อคุณแม่ ไม่ใช่ครับ ท่านชื่อคุณแม่เซี่ยมลั้ง แซ่อึ๊ง" ตอบไปอมยิ้มไป
และ นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่พนักงานในเครือกลุ่มนี้ไม่มี "โบนัส" แต่จะจ่ายเป็น "แตะเอีย" แทนในช่วงเทศกาลตรุษจีน เท่าที่เคยจ่ายมาคือปีละ 4-6 เดือน
"คุณเคน" ใช้ชีวิตวัยทำงานให้กับกงสีที่บ้านตั้งแต่ปี 2535 สวมบทบาทดีเวลอปเปอร์เต็มตัวเมื่อประมาณ 15 ปีที่ผ่านมา
ยุค ต่อยุคของกลุ่มภัทรา เสาเข็มต้นแรกตอกในโครงการอาคารพาณิชย์ เริ่มจากขายเซ้ง จากนั้นทำบ้านพักอาศัย บริษัทอสังหาฯชื่อแรกสุดคือ "รุ่งทรัพย์การเคหะ" แบรนด์เริ่มแรกก็ "รุ่งทรัพย์" และ "พัฒนาวิลล่า" และ "สีลมอเวนิว" จนกระทั่งปั้นแบรนด์ "ภัทรา" ขึ้นมาและใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ "ภัทราวิลล่า-ภัทรา 49-ภัทราซิตี้"
"แบรนด์ภัทราเลือกมา 20 ปีที่แล้ว ในช่วงนั้นเรามองชื่อหมู่บ้านที่คนจะจดจำง่าย ยุคนั้นมองเรื่องภาษาไทยยังไม่ได้ใช้ชื่อแบรนด์เป็นภาษาอังกฤษที่จะสื่อสาร กับลูกค้าเหมือนสมัยนี้ ทำวิจัยออกมากลุ่มลูกค้าก็มองว่าเป็นชื่อที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น"
แล้วยุค 3G แบบนี้ล่ะ คิดว่าจะ รีแบรนดิ้งหรือไม่
"ยังครับ เพราะลูกค้ายังพึงพอใจ แบรนด์"
ถามว่า นึกถึงบ้านภัทรา ลูกค้าจะนึกถึงอะไร
"คุณภาพ บ้าน คุณภาพชีวิต อยู่แล้วมีความสุข เราส่งมอบโปรดักต์มาตรฐานสูง ลูกค้ามีการแนะนำบอกต่อ โดยเฉพาะในเขตบางคอแหลมเราสบายใจไม่ต้องมีบ้านตัวอย่างก็ขายได้ ลูกค้าจะเชื่อถือเรื่องความแข็งแรงซึ่งเป็นนโยบายที่เรามองว่า ช่วงชีวิตคนบางคนซื้อบ้าน 1 หลังได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต เราอยากจะมอบสิ่งดี ๆ ให้เขา"
ประสบการณ์ทางตรงในฐานะ ดีเวลอปเปอร์มีอะไรบ้าง คำตอบรัวเป็นชุดเพราะเก็บอยู่ในลิ้นชักสมอง
"ผมเริ่มพัฒนาโครงการแรกคือ ภัทราฯ 3 เมื่อปี"38-39 ปัจจุบันทำภัทราฯ 8 แตกทำเลมาที่โซนลาดพร้าว"
เรียง ลำดับผลงานของเขามีโครงการ "ภัทราวิลลา 3" 73 ยูนิต ถนนรัชดาฯ-ท่าพระ ทาวน์โฮมพื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 30 ตร.ว. ราคาขาย 3.8-5 ล้านบาท
"ภัทราวิลลา 4" ปรับเพดานบินทำทาวน์โฮมราคา 70-10 ล้านบาท ที่บางคอแหลม พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 30 ตร.ว. และบ้านเดี่ยว 6 ยูนิต ราคา 20 ล้านบาท ที่ดิน 110-180 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 600-700 ตร.ม. กลุ่มเป้าหมายเจ้าของกิจการคนจีนห้องนอนใหญ่ ๆ ทำอาหารทานเอง
"ภัทราวิลลา 5" ถนนนวลจันทร์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น 30 ยูนิต ที่ดิน 60 ตร.ว. ราคา 7.8-10 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม. "ภัทราวิลลา 6" สาธุประดิษฐ์ 31 ทาวน์โฮม 29 ยูนิต ราคา 9.49-14 ล้านบาท บนที่ดิน 30 ตร.ว.ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 412 ตร.ม. "ภัทราวิลลา 7" บ้านเดี่ยว ถนนเจริญราษฎร์ 7 ซอย 7 จำนวน 11 ยูนิต ที่ดิน 70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 450 ตร.ม.
และ "ภัทราวิลลา 8" ในปัจจุบันทำเลลาดพร้าว ซอยสตรีวิทยา 2 ซอย 10 ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น ราคาเกาะกลุ่ม 3 ล้านปลาย ๆ-5 ล้านบาท68 ยูนิต
อสังหาฯปี 2554 มีแต่คนบอกว่าบริษัทนอกตลาดจะล้มหายตายจากไปอีกเยอะมองยังไง
"สถิติ ที่ออกมาตลาดหลักอยู่ในมือบริษัทในตลาดหุ้น แน่นอนครับ แต่เราทำธุรกิจนี้มา 30 ปียังมั่นคงแข็งแรง ยังต้องหาสินค้าที่มีความแตกต่าง ผมมองว่าเรายังเป็นทางเลือกที่ดีอยู่"
ถามใหม่ว่า แข่งขันกับบริษัทในตลาดอย่างไร
"แบ รนด์ก็มีผลกับลูกค้าเพราะอาจจะมองในกลุ่มแบรนด์ดัง ๆ เป็นตัวเลือกสำคัญ แต่จุดขายของกลุ่มภัทรา การที่เราสอดแทรกเข้ามาได้เพราะโปรดักต์ต้องขายตัวมันเอง ให้ลูกค้าได้เปรียบเทียบว่าราคาเท่ากันเราให้บ้านขนาดใหญ่กว่า อย่างภัทราฯ 8 ทำเลเดียวกัน หมู่บ้านอื่นราคาอาจจะสูงกว่าเรา 5-6 แสนบาท พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า พื้นที่ส่วนกลางกฎหมายกำหนด 5% ผมให้ 15% ในภาพรวมผมมั่นใจคุณภาพเดียวกันแต่เราจะคุ้มค่ากระเป๋าเงินกว่า 20% โดยประมาณ"
ตัวชี้วัดอีกตัวคือ "มาร์จิ้น" หรือความสามารถในการทำกำไร พบว่าเขาวางกรอสมาร์จิ้นปกติ 25-30% แต่มาเฉือนกันที่เน็ตมาร์จิ้น "คุณเคน" อธิบายหน้าตาเฉย ๆ ราวกับว่าใคร ๆ ก็ทำได้
"จุดแข็งของภัทราคือเป็นแฟมิลี่ บิสซิเนสเข้มข้น จึงมีต้นทุนบริหารที่ต่ำกว่าบริษัทในตลาด เน็ตมาร์จิ้นเรา 20% มาตลอด"
ยัง ไม่แล้วใจ คำถามสุดท้ายคือ ลูกค้า วิสิตไซต์ตัดสินใจซื้อกี่เปอร์เซ็นต์ คำตอบมีประมาณ 1 ใน 4 หรือ 25% ได้เห็นแบบบ้านตัวอย่างแล้วมักจะ ตัดสินใจซื้อ
การตลาดแบบปากต่อปากหรือบีโลว์เดอะไลน์ของกลุ่มนี้จึง มาแรง เพราะ "...สิ่งที่ลูกค้ามักจะบอกต่อกัน 2 เรื่อง คือ บ้านภัทรามีคุณภาพและมีความแข็งแรง"
คอลัมน์ พร็อพเพอร์ตี้ know who
โดย เมตตา ทับทิม |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 24-01-2554
|
|
|
|
|
