| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 63 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 10-01-2554    อ่าน 11008
 "เอสซีฯ" มุ่งสู่เป้าหมื่นล้าน "...2554 เราจะบุกหนักตั้งแต่ต้นปี"

สัมภาษณ์

"เอส ซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น" (เอสซี) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยยอดขายในปีที่ผ่านมากว่า 6,000 ล้านบาท ได้ประกาศว่าจะบุกหนักตั้งแต่ช่วงต้นปี 2554 เพื่อล่าเป้าหมายยอดขายใหม่ในปีนี้ ที่ตั้งไว้กว่า 7,500-8,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 20%

ขณะที่ปี 2555 ยอดขายทาร์เก็ตไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยความถนัดจะเป็นโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่

ภาย ในแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ ที่อสังหาฯ หมดตัวช่วยจากมาตรการกระตุ้นโดยภาครัฐบวกกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงนี้ ถือเป็นภารกิจที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับ ร.อ.กรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ (ซีโอโอ) เอสซี แอสเสทฯ ในฐานะหนึ่งในคีย์แมนที่จะต้องผลักดันเอสซีฯ ให้ก้าวไปถึงเป้าหมาย ล่าสุด เขาได้ให้สัมภาษณ์ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า...2554 เอสซีฯ ขอบุกหนักตั้งแต่ต้นปี

"เปิดปี"54 มา ถ้าจะไปให้ถึงเป้ายอดขาย 7,000 กว่าล้านบาท ตามที่รับมอบหมายจากบอส (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) มา เอสซีฯ จะลุยเลย ไม่มีคำว่ารอ"

"กรี" ซึ่งจะมีอายุงานที่เอสซีครบ 4 ปี ในวันที่ 15 เดือนมีนาคมนี้ บอกว่า แผนธุรกิจปีนี้ จะเปิดใหม่ทั้งหมด 16 โครงการ จำนวนประมาณ 1,700 ยูนิต รวมมูลค่า 15,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โปรเจ็กต์ ประมาณ 1,200 ยูนิต และแนวสูง คือโครงการคอนโดมิเนียม 4 โปรเจ็กต์ ประมาณ 500 ยูนิต

ผลงานแนวราบ ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา คือโครงการ "กรานาด้า ปิ่นเกล้า" ทำเลย่านพุทธมณฑลสาย 3 บ้านหลังแพงสุด คือ 110 ล้านบาท เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 เดือนเต็ม มียอดจองแล้ว 2 หลัง และอยู่ระหว่างรอทำสัญญาอีก 3 หลัง

"เซ็กเมนต์และกลุ่มเป้าหมายของโครงการใหม่ทั้ง 16 โปรเจ็กต์ ยังเน้นกำลังซื้อระดับกลาง-บน ตลาดที่เอสซีฯถนัด"

อย่าง โปรเจ็กต์แนวราบ 12 โครงการ 80% หรือประมาณ 9 โครงการ จะเป็น บ้านเดี่ยว แบรนด์ "บางกอก บูเลอวาร์ด" ราคาขายตั้งแต่ 8 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนอีก 20% หรือประมาณ 3 โครงการ จะเป็น แบรนด์ "แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด" ราคาตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้น ที่เหลือทาวน์โฮม แบรนด์ "วิสต้า" และ "วิสต้าปาร์ค" ราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป

ส่วนคอนโดฯอีก 4 โครงการ จะยังคง 2 แบรนด์ที่มีอยู่ คือ "เซ็นทริค ซีน" ระดับราคาเฉลี่ย 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร และ "เดอะเครส" ราคาเฉลี่ย 100,000 บาทต่อตารางเมตร เป็นหัวหอกทำตลาด ที่สรุปคือทำเลสุขุมวิทตอนกลาง (ย่านศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม) ซึ่งน่าจะเปิดตัวเป็นโครงการแรก

ส่วนในแง่แนวโน้มราคาบ้านเอสซีฯ ในปี"54 คีย์แมนอย่าง "กรี" ยืนยันว่า...เรายังไม่แผนปรับราคา

"เอส ซีจี (ปูนซิเมนต์ไทย) เป็น ซัพพลายเออร์หลักของเรา 70% ของวัสดุ ที่ใช้ก่อสร้างมาจากที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่เราสามารถเจรจาขอยืนราคาไปได้อีก 1 ปี"

นอกจากการเจรจายืนราคาวัสดุแล้ว ในปีนี้ได้วางนโยบายควบคุมต้นทุน 2 ส่วนหลัก ๆ คือ 1) การจำกัดงบประมาณ ออกแบบก่อสร้างสโมสร ซุ้มทางเข้าออก และโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ สโมสร จะกำหนดงบประมาณไม่เกิน 8 ล้านบาท ซุ้มโครงการ ไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนถ้าจะมีการปรับสเป็กวัสดุ จะต้องมีการเปรียบเทียบราคาและแจ้งผู้บริหารรับทราบ และ 2) การออกแบบบ้านใหม่ทดแทนแบบเก่า จะต้องมีค่าก่อสร้างไม่สูงกว่าไปกว่าแบบบ้านเดิม

แต่ที่ยังคงไว้ คือบ้านทุกหลังทุกแบบของเอสซีฯ ต้องเป็นสเป็กประหยัดพลังงาน ฉนวนกันความร้อน สีสะท้อนความร้อน และช่องเปิดระบาย เป็นวัสดุและฟังก์ชั่นพื้นฐาน ที่เอสซีฯใส่ไว้ในบ้านและทาวน์โฮมทุกหลัง ไม่ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างไร ก็จะไม่มีการตัดเรื่องนี้

อัพเดตโป รเจ็กต์ "กรานาด้า ปิ่นเกล้า" บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นสแปนิชสุดหรูของค่ายเอสซีฯ เจาะกลุ่มไฮไซ-ไฮซ้อ จำนวน 41 ยูนิต เคาะราคา 35-100 ล้านบาท โปรเจ็กต์ที่มีราคาต่อยูนิตสูงที่สุดของบริษัท

"ฟีดแบ็ก ถือว่าน่าพอใจนะ โครงการนี้ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ในใจ อยากขายสัก 3 ปี ปีละประมาณ 700 ล้านบาท แต่เจ้านายบอกว่า ขอ 2 ปี ปีละ 1,000 ล้านบาท ก็คิดว่าน่าจะได้ตามเป้า"

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการรุกระบบก่อสร้าง บ้าน "ระบบสำเร็จรูป" (พรีแฟบ) เร็ว ๆ นี้น่าจะได้ข้อสรุปในการเข้าควบรวมกิจการกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างราย หนึ่ง ซึ่งมีเทคโนโลยีก่อสร้างบ้านระบบผนังคอนกรีตสำเร็จรูปน้ำหนักเบา เทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนีและตะวันออกกลาง ซึ่งมีโรงงานอยู่ในย่านสุวินทวงศ์ และเคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างให้กับบริษัทมาก่อน เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างบ้านขนาดกลาง (ประมาณ 150 ตารางเมตร)

โรงงาน แห่งนี้มีกำลังผลิตสูงสุด 80 ยูนิตต่อเดือน หรือปีละประมาณ 800-900 ยูนิต ข้อดี คือช่วยลดการก่อ ฉาบ เท ผนังที่หน้างาน สามารถควบคุมคุณภาพได้จากโรงงาน และใช้เครื่องจักรกลในการติดตั้งแทนแรงงานคนบางส่วน

เป็นการเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาแรงงานขาดแคลน และเพิ่มขีดความสามารถในงานก่อสร้างให้สูงขึ้นอีก
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-01-2554 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.