|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย0%ไม่สูญพันธุ์ ตลาดแข่งดุแบงก์-อสังหาจับคู่พันธมิตรล่อลูกค้า |
|
 |
สมาคม สินเชื่อที่อยู่อาศัยประสานเสียง ดีเวลอปเปอร์ ฟันธงแคมเปญดอกเบี้ย 0% มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ชี้ผลกระทบจากการปรับดอกเบี้ยนโยบายมีแรงกดดันในแง่ระยะเวลาแคมเปญอาจจะสั้น ลงจาก 12 เดือน เหลือ 3-6 เดือน ศูนย์ข้อมูล ธอส.คาดการณ์วงเงินสินเชื่อบ้านปี53 ทะลุ 3.4 แสนล้านบาท
ทิศ ทางอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านที่เริ่มขยับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ไม่เพียงทำให้ผู้ซื้อบ้านมีภาระต้องผ่อนชำระค่างวดบ้านเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 2.0% ต่อปี
อย่าง ไรก็ตาม มีการประเมินกันว่าต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้การทำแคมเปญ ดอกเบี้ย 0% ที่เป็นลูกเล่นทางการตลาดที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มักหยิบยกมาใช้อยู่ เสมอก็อาจจะทำได้ยากมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นในปี 2554 แคมเปญ 0% จึงถูกจับตามองมากเป็นพิเศษว่ายังมี "มนต์ขลัง" และจะถูกนำมาใช้ต่อไปอีกหรือไม่
ส.สินเชื่อที่อยู่อาศัยชี้ "ขาดไม่ได้"
ศาสตรา ภิชาน กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แคมเปญสินเชื่อกู้ซื้อบ้านในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นลูกเล่นทางการตลาด ที่ผู้ประกอบการนำมาใช้เร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคต่อไป แม้ว่าแนวโน้มดอกเบี้ย จะปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม อีกปัจจัยหนึ่งที่เชื่อว่า ผู้ประกอบการและสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้จะยังทำแคมเปญ 0% ต่อไปมาจากสภาพคล่องของแบงก์พาณิชย์ในระบบที่มีอยู่ค่อนข้างสูงมากในขณะนี้ ทำให้เกิดการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างรุนแรง
"แคม เปญดอกเบี้ย 0% เชื่อว่าจะไม่หายไปไหนแน่นอน ไม่ว่าดอกเบี้ยจะปรับขึ้นหรือลงในธุรกิจอสังหาฯยังคงต้องมีแคมเปญนี้ต่อไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการและแบงก์จะแบกรับต้นทุนได้มากน้อยแค่ไหน"
สอด คล้องกับนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัท พัฒนาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น การทำแคมเปญ 0% เชื่อว่ายังคงมีอยู่ไม่ได้หายไปไหน แต่มีข้อสังเกตคือระยะเวลาอาจจะสั้นลง เช่น 6-12 เดือน เหลือ 3 เดือน
"ใน สายตาของแบงก์สินเชื่ออสังหาฯยังเป็นสินเชื่อดีและมีความเสี่ยงต่ำมากเมื่อ เทียบกับสินเชื่ออื่น ๆ ดังนั้นการจัดแคมเปญ 0% จึงต้องมีอยู่แน่นอน สำหรับปี 2554 คาดว่าสินเชื่ออสังหาฯจะขยายตัว 9% ลดลงจากปีนี้ที่เติบโต 13% สอดคล้องกับการขยายตัวของซัพพลายใหม่ในปีหน้า คาดว่าจะขยายตัวเหลือเพียงแค่ 4% ลดลงจาก ปีนี้ที่คาดว่าเติบโตได้ถึง 9% โดยมีปัจจัยมาจากตั้งแต่ต้นปี 2553 มีการเร่งขายและเร่งโอนกรรมสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้เพื่อให้ทันกับมาตรการกระ ตุ้นอสังหาฯของภาครัฐที่จะสิ้นสุด"
แคมเปญ 0% ลูกค้ายังชอบ
นาย อิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรกล่าวในทิศทางเดียวกันว่าดอกเบี้ย 0% เป็นแคมเปญการตลาดที่ผู้ประกอบการจัดสรรสามารถหยิบมาใช้ได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเวลานั้น ๆ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยเท่าใด ยอมรับว่าที่ผ่านมาแคมเปญทางการเงินถูกนำมาใช้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งนี้ในกรณีที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับขึ้นของดอกเบี้ยยอม รับว่าอาจทำให้การทำ แคมเปญดังกล่าวทำได้ยากมากขึ้น
"แคมเปญ 0% ยังไงก็มีแน่นอนขึ้นอยู่กับว่าจะมีผู้ประกอบการแบกรับภาระที่เกิดขึ้นจากการ ทำแคมเปญนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ตามปกติแล้วผู้ประกอบการกับแบงก์จะรับผิดชอบร่วมกัน เชื่อว่าแคมเปญทางการเงินในรูปแบบดังกล่าวยังมีความจำเป็นต่อการทำตลาดของ ผู้ประกอบการอสังหาฯ รวมทั้งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค"
ด้าน นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าแนวโน้ม ดอกเบี้ยในปีหน้าจะขยับขึ้น แต่ตลาดอสังหาฯยังมีโอกาสได้เห็นผู้ประกอบการจัดแคมเปญ 0% ขึ้นอยู่กับงบฯการตลาดแต่ละบริษัท เพราะเป็นโปรโมชั่นที่ลูกค้ายังให้ความสำคัญ แต่อาจมีบางบริษัทที่ต้องชะลอแคมเปญรูปแบบนี้ออกไปเนื่องจากมีต้นทุนทางการ เงินที่สูงกว่า ทำไปแล้วไม่คุ้มค่า
"ถ้าดอกเบี้ยปรับขึ้น 1% ตลาดอสังหาฯยังมีโอกาสได้เห็นบ้าง แต่หากดอกเบี้ยขยับขึ้นไปถึง 2% โอกาสที่จะได้เห็นก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ เพราะต้นทุนแพงขึ้น"
คาดสินเชื่อบ้านปี53 พุ่ง 3.4 แสน ล.
ขณะ ที่นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า สถิติ 9 เดือนแรกของปี 2553 สถาบันการเงินทั้งระบบปล่อยสินเชื่อบ้านไปแล้วกว่า 2.81 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของ ปีก่อนที่ทำได้ 2.2 แสนล้านบาท โดยปี 2553 ทั้งปีคาดว่าสินเชื่อกู้ซื้อบ้านปล่อยใหม่ทั้งระบบจะอยู่ที่ 3.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่สินเชื่อปล่อยใหม่ทั้งปีอยู่ที่ระดับ 3.18 แสนล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-01-2554
|
|
|
|
|
