|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| นับถอยหลังยุบเลิก "บสท." "อีก 5 เดือนอยากได้ผลงานสัก 1.6 หมื่นล้าน" |
|
10 ปีก่อตั้งของ บสท. (บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย) ที่นับถอยหลังเพื่อจะต้องยุบเลิกองค์กรตามกฎหมายจัดตั้งใน วันที่ 8 มิถุนายน 2554 ปรากฏว่าผลงานทั้งบริหารจัดการ "เอ็นพีแอล" (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) และ "เอ็นพีเอ" (สินทรัพย์ รอการขาย) ปีนี้ ทำสถิติ "นิวไฮ" สูงสุดในรอบ 9 ปีเศษ ด้วยผลดำเนินงานประมาณ 2.2-2.3 หมื่นล้าน
"เราแถลงข่าวได้เลยไม่ต้องรอเดือนมกราคม เพราะทำผลงานล่วงหน้าแล้ว 1 ปี ทะลุกว่า 200 %" คำกล่าวเปิดประเด็นของผู้บริหารหมายเลข 1 "พี่อ้อย" จุไรรัตน์ ปันยารชุน กรรมการผู้จัดการของ บสท.
ในโอกาสเยี่ยมคารวะผู้บริหาร บสท. ของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา "พี่อ้อย" เปิดข้อมูลผลดำเนินงาน ณ 30 พฤศจิกายน 2553 เริ่มจาก บสท.รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ทั้ง "เอ็นพีแอล-เอ็นพีเอ" เบ็ดเสร็จ (มูลค่า ตามบัญชี) รวม 774,973 ล้านบาท มาจากสถาบันการเงินภาครัฐ 81.03% (627,983 ล้านบาท) และสถาบันการเงินภาคเอกชน 18.97% (146,990 ล้านบาท)
มี ผลดำเนินงานที่สำคัญช่วง ปี 2548-2553 มี 2 ตัวที่ต้องตามไปดูคือ "เงินรับชำระจากการปรับโครงสร้างหนี้" พบว่า ปี 2548 รับชำระ 27,756 ล้านบาท มียอดสะสม (ปี 2544-2548) จำนวน 80,458 ล้านบาท ปี 2549 เงินรับชำระ 16,628 ล้านบาท ยอดสะสม 97,086 ล้านบาท
ปี 2550 รับชำระ 14,930 ล้านบาท ยอดสะสม 112,016 ล้านบาท ปี 2551 รับชำระ 17,564 ล้านบาท ยอดสะสม 129,580 ล้านบาท ปี 2552 รับชำระ 15,427 ล้านบาท ยอดสะสม 145,007 ล้านบาท ปี 2553 (ณ 30 พฤศจิกายน) รับชำระ 18,141 ล้านบาท ยอดสะสม 161,635 ล้านบาท
อีกตัวคือ "ผลงานจำหน่ายเอ็นพีเอ" หรือขายทรัพย์ทอดตลาด แบ่งเป็น ปี 2548 จำหน่ายได้ 8,487 ล้านบาท ยอดสะสม (ปี 2544-2548) 14,364 ล้านบาท ปี 2549 จำหน่าย 6,999 ล้านบาท ยอดสะสม 21,363 ล้านบาท ปี 2550 จำหน่าย 7,601 ล้านบาท ยอดสะสม 28,964 ล้านบาท
ปี 2551 จำหน่าย 10,226 ล้านบาท ยอดสะสม 39,191 ล้านบาท ปี 2552 จำหน่าย 12,472 ล้านบาท ยอดสะสม 51,662 ล้านบาท ปี 2553 (ณ 30 พฤศจิกายน) จำหน่าย 20,716 ล้านบาท ยอดสะสม 72,378 ล้านบาท
นำข้อมูลมาฉายใหม่ระหว่างปี 2548 ถึงปัจจุบัน เพื่อย้ำหมุดว่า บสท.มีผลงานจำหน่ายเอ็นพีเอสูงที่สุดในระบบ เป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปีเต็ม
"พี่อ้อย" อาจจะเพิ่งเข้าบริหาร บสท.ประมาณ 1 ปีครึ่ง แต่ผลงานระดับ "นิวไฮ" ที่ทำได้ต่อเนื่องไม่ได้เกิดจากความบังเอิญแน่นอน หากแต่ส่วนผสมจะต้องมาจากความทุ่มเทที่ "ผู้นำ" ต้องแสดงให้คนทั้งองค์กรกว่า 300 คน "มองเห็น" ทุ่มเทถึงขนาดที่ว่า ยอมสูญเสียสถิติสมาชิกดีเด่นที่เข้าประชุมโรตารี่ 100% ติดต่อกัน 13 ปี แต่พอเป็นผู้บริหาร บสท. "วันพฤหัสฯ" ทำให้ต้องเลือก คำตอบคือนั่งประชุมอยู่ในออฟฟิศชั้น 22 ตึกเอ็กซิมแบงก์
น่าสนใจว่า เวลาที่เหลืออีก 5 เดือนก่อนจะยุบเลิกองค์กร วางเป้าทำงานไว้อย่างไร
"แน่นอนว่าจะต้องผลักดันการจำหน่ายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้ได้มากที่สุด เพื่อลดหนี้สาธารณะให้สูงที่สุด"
ก่อน หน้านี้ บสท.เคยวางแผนที่จะยุบเลิกองค์กร โดยแผนการผลักดันสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยเฉพาะ "เอ็นพีเอ" เคยคิดว่าควรจะ "รวมกอง" ด้วยการนำทรัพย์เด่นหลาย ๆ เกรด ทั้งเอ-บี-ซี มารวม กองกันแล้วเสนอขายราคาเหมายกลอต แต่ผลงานระบายทรัพย์แบบ "รายชิ้น" หรือแยกชิ้น ก็พิสูจน์ตัวมันเองแล้วว่ายังมีดีมานด์รองรับ แถมไม่ต้องกังวลเรื่อง "ส่วนลด" เทียบกับการขายแบบ "รวมกอง" จะต้องมีส่วนลดล็อตใหญ่ 30-40%
ดังนั้น บสท.จึงตัดสินใจปรับกลยุทธ์หลังยุบเลิกองค์กร โดยนำเสนอการขายทอดตลาดแบบ "รายชิ้น" ต่อไป แต่ปรุงแต่งด้วยกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้มีความน่าสนใจและดึงดูดให้คนเข้ามา ประมูลซื้อมากขึ้น
นำไปสู่คำถามว่า คุณภาพเอ็นพีเอในมือ ยังมี "เกรดเอ" เหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน และพื้นที่อยู่ในกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด
"พี่ อ้อย" ยืนยันว่า เอ็นพีเอในมือยังมีเกรดเอเหลือให้ช็อปอีกพอสมควร แต่ก็ยอมรับว่าทรัพย์เริ่มจะกระจายอยู่ในต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะแปลงเจ๋ง ๆ ถูกแข่งขันประมูลซื้อไปมากโขแล้วในช่วง ที่ผ่านมา
มุมมองภารกิจ ระบายเอ็นพีเอของ บสท. ได้แนะนำให้มองอนาคตโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ-หนองคาย ปาดังเบซาร อุบลราชธานี ฯลฯ
"ต่อไปภาวะบูมของราคาที่ดินจะต้องเกิดขึ้นตามเส้นทางแนวรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเอ็นพีเอของ บสท.มีอยู่ทุกจังหวัด"
คำถามสุดท้าย เป้าหมายผลงานในช่วง 5 เดือนสุดท้าย
"ทั้ง เอ็นพีแอลและเอ็นพีเอ รวมกันอยากได้สัก 1.6 หมื่นล้านบาท อาจจะยากแต่พี่เชื่อมั่นศักยภาพคน บสท.ว่าเราทำได้" คำตอบสุดท้ายของเอ็มดี บสท.
รายงาน
ติ๊นา ประชาชาติ
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 16-12-2553
|
|
|
|
|
