Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
พิมพ์เขียว "สะพานบางปะกง 3" โครงข่ายใหม่ ทางลัดทะลุตัวเมืองแปดริ้ว |
|
เป็น อีกโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจ สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงแห่งที่ 3 พร้อมถนนต่อเชื่อมสาย "ง1" และ "ง2" ตามผังเมืองรวม อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ปี 2549 ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.)
หลังผลการ ศึกษาออกแบบรายละเอียดและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปัจจุบัน ทช.เร่งผลักดันให้แจ้งเกิด โดยเตรียมขอ งบประมาณปี 2555 จำนวน 11 ล้านบาท สำรวจอสังหาริมทรัพย์เพื่อจะเวนคืนที่ดินโครงการดังกล่าว
กรอบเวลา ที่ ทช.ตั้งไว้ เมื่อได้เงินคาดว่าจะใช้เวลา 8 เดือนสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะเวนคืนทั้งหมด และเข้ารื้อย้ายตั้งแต่ปลายปี 2555 ถึงกลางปี 2556 รวม 12 เดือน ถัดจากนั้นเป็นขั้นตอนขอความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ ใช้เวลาอีก 3 เดือน ประมาณต้นปี 2557 เริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง 3 เดือน และเริ่มก่อสร้างใช้เวลา 24 เดือน ตามแผนจะแล้วเสร็จต้นปี 2559
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการอนุมัติงบประมาณ ทช.ก็เตรียมแผน 2 คือ ใช้เงินกู้ เป็นแผนสำรอง
สำหรับ แนวเส้นทางโครงการพาดผ่านพื้นที่ 6 ตำบล คือ ต.วังตะเคียน ท่าไข่ บางขวัญ บ้านใหม่ บางไผ่ และคลองจุกกระเฌอ เริ่มต้น ก.ม.ที่ 74 บนทางหลวงหมายเลข 304 (สุวินทวงศ์-ฉะเชิงเทรา) ก่อสร้างถนนระดับดินขนาด 4 ช่องจราจร แนวเส้นทางจะพาดผ่านไปทางทิศตะวันออกตัดผ่านคลองท่าไข่ ทางรถไฟและทางหลวงหมายเลข 3200 (ฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว)
จากนั้น สายทางจะเบี่ยงลงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามแม่น้ำบางปะกงบริเวณด้านข้างวัดสายชล ณ รังษี ซึ่งจะสร้างเป็นสะพานข้ามไปยังอีกฝั่งและไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 304 (ฉะเชิงเทรา-บางคล้า) ก.ม.ที่ 8 จุดสิ้นสุดโครงการจะเป็นถนนระดับดินขนาด 4 ช่องจราจร รวมระยะทาง 13.10 กิโลเมตร
ใช้งบฯลงทุนทั้งโครงการ โดยประมาณ 2,406 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าสำรวจอสังหาฯ 11 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 325 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ถูกเวนคืนประมาณ 1,000 แปลง ส่วนที่เหลือ 2,070 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างและควบคุมงาน
"วิชาญ คุณากูลสวัสดิ์" อธิบดีกรมทางหลวงชนบทกล่าวว่า โครงการเมื่อก่อสร้างเสร็จจะช่วยแยกปริมาณการจราจรที่ต้องการเดินทางผ่านตัว เมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองด้านทิศเหนือเพื่อเป็นทางลัดโดยไม่ต้องผ่านตัว เมืองฉะเชิงเทรา รองรับการขยายตัวของเมืองและปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนน "สุวินทวงศ์-ฉะเชิงเทรา" กับถนน "ฉะเชิงเทรา-อ.บางคล้า"
นอกจากนี้ ยังเป็นเส้นทางที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาพื้นที่ เปิดพื้นที่พัฒนาใหม่ ๆ กระตุ้นให้การใช้ประโยชน์ที่ดินที่รกร้าง ว่างเปล่าให้มีการใช้ประโยชน์
ด้วย ปัจจุบันสภาพพื้นที่เขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำบางปะกงมีการพัฒนาค่อนข้างมาก ทำให้มีปริมาณการเดินทางสัญจรมีค่อนข้างสูง โดยผ่านสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงแห่งที่ 1 และ 2 เพื่อเดินทางไปยังเขตตัวเมืองจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ โรงเรียน โรงพยาบาล และย่านการค้า ห้างสรรพสินค้า ทำให้การจราจรหนาแน่นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
"หากโครงการนี้เสร็จจะ ช่วยระบายการจราจรได้มาก และเปิดการพัฒนาใหม่ ๆ ในโซนตะวันออกเพราะเป็นถนนตัดใหม่ที่ต่อไปจะกลายเป็นทางลัดสำหรับพื้นที่โซน นี้" วิชาญกล่าวย้ำตอนท้าย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 13-12-2553
|
|
|
|
|