Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ปูนอินทรีสนใจโปรเจ็กต์ทวาย ขอศึกษาเพิ่มเติมเงื่อนไขลงทุน |
|
"กลุ่ม โฮลซิม" ผู้ถือหุ้นหลักใน"ปูนซีเมนต์นครหลวง" สนใจลงทุนโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในโปรเจ็กต์ทวายเมืองพม่า "จันทนา สุขุมานนท์" แย้มขอลงลึกรายละเอียดเงื่อนไขการลงทุนและแหล่งวัตถุดิบ ชี้ตลาดซีเมนต์เจอผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม คาดอัตราเติบโตชะลอตัวลงเหลือ 5-8% จากประมาณการเดิม 10%
นางสาวจันทนา สุขุมานนท์ รองประธานบริหารลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปูน "อินทรี" ซึ่งมี "กลุ่มโฮลซิม" จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้ถือหุ้นหลักในสัดส่วน 33% กล่าวว่า บริษัทได้รับมอบหมายจากกลุ่มโฮลซิมในฐานะผู้ถือหุ้นหลักให้ศึกษารายละเอียด ในการร่วมลงทุนโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ภายในโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย สหภาพพม่า โดยโครงการดังกล่าวเป็นเมกะโปรเจ็กต์ซึ่งมีทั้งท่าเรือน้ำลึก โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และนิคมอุตสาหกรรมฯที่ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทยได้รับสัมปทานจากสหภาพพม่าให้เป็นผู้ พัฒนาโครงการแต่เพียงรายเดียว และกำลังมองหาผู้ร่วมทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างการจัดตั้งโรงงานผลิตปูน ซีเมนต์
ก่อนหน้านี้ปูนซีเมนต์นครหลวงเคยศึกษาตลาดในสหภาพพม่า พบว่ามีศักยภาพพอที่จะตั้งโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ได้ แต่จะตัดสินใจเข้าไปลงทุนหรือไม่ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ เงื่อนไขการลงทุน และแหล่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
"เมื่อ เร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งพูดคุยกับคุณเปรมชัย (กรรณสูต) ประธานอิตาเลียนไทยเกี่ยวกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายมาบ้าง เบื้องต้นทราบจากอิตาเลียนไทยว่า แหล่งวัตถุดิบอยู่ห่างจากบริเวณพื้นที่โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายประมาณกว่า 100 กิโลเมตร จึงต้องรอพิจารณาอีกระยะ ประกอบกับในการลงทุนโรงงานปูนซีเมนต์ขั้นต่ำจะต้องมีกำลังผลิต 1 ล้านตันต่อปี ใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท"
นางสาวจันทนากล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ประมาณการว่าภาพรวมตลาดมีอัตราเติบโตประมาณ 5-8% จาก ปีก่อนที่มีความต้องการใช้ซีเมนต์ 25-26 ล้านตัน ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่ลดลงจากช่วงต้นปีที่เคยประมาณการว่าตลาดจะมีอัตรา เติบโตประมาณ 10% เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้ความต้องการใช้ซีเมนต์ในช่วงนี้ลดลง
ส่วน แนวโน้มตลาดในปีหน้าบริษัทยังคงประมาณการอัตราเติบโตที่ 10% โดยมีปัจจัยบวกคือ การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่น่าจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการใช้ซีเมนต์ ส่วนปัจจัยลบคือ ความไม่แน่นอนในสถานการณ์การเมือง
สำหรับผล ประกอบการบริษัทในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมามียอดขายรวม 5,051 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 2% แต่มีกำไรสุทธิ 582 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 21% ล่าสุดทางที่ประชุมคณะกรรมการได้อนุมัติแผนการลงทุนขยายโรงงานปูนซีเมนต์ มอร์ตาร์ (ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป) จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 3 แสนตัน เพิ่มเป็น 5 แสนตัน ใช้งบฯลงทุน 450 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2555 |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 02-12-2553
|
|
|
|
|