|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อสังหาฯต้นเดือน พ.ย. 2553 ชั่วโมงนี้ "ใคร ๆ" ทำก็สำเร็จ ! |
|
เพิ่ง จะเปิดตัวโครงการใหม่ คอนโดมิเนียมแบรนด์ "RYTHM" 3 ทำเล มูลค่ารวมกว่า 9.6 พันล้านบาท คล้อยหลังได้แป๊บเดียว ค่าย AP (บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์) รุกประชิดติดพันด้วยโครงการแนวราบกับทาวน์เฮาส์แบรนด์ "บ้านกลางเมือง" ซีรีส์ใหม่แกะกล่อง เวอร์ชั่น "S-Sense" 3 ทำเล มูลค่าโครงการรวมกันกว่า 5 พันล้านบาท
ค่าย AP บุกทาวน์เฮาส์ "S-Sense"
โล เกชั่นที่ปูพรมคราวนี้เป็นบ้าน"กลางเมือง" จริง ๆ คือ อ่อนนุช/วงแหวน พระราม 9-ลาดพร้าว/สาทร-ตากสิน เคาะราคาเริ่มที่ยูนิตละ 3 ล้านต้น ๆ ดีเดย์พรีเซล 6-7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทำไมต้อง S-Sense Series "คุณมิ่ง" วิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาดของ AP แจกแจงข้อมูลว่า ทาวน์เฮาส์แบรนด์บ้านกลางเมืองสอบผ่านความสำเร็จจากซีรีส์ Urbanion ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา วันนี้ S-Sense จะเติมเต็มกลุ่มเป้าหมายครอบครัวคนเมืองรุ่นใหม่ให้มากขึ้นไปอีก ด้วยดีไซน์ฟังก์ชั่นที่มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น รองรับครอบครัวที่ขยายใหญ่ขึ้น
มีอะไรใหม่...ฟังก์ชั่นแรกสุดที่มี การปรับเพิ่มคือ Thai Style Kitchen ขยายพื้นที่ครัวไทยให้กว้างขึ้นและเป็นสัดส่วน เพื่อรองรับการปรุงอาหารที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน และพื้นที่ Double Storage ห้องเก็บของขนาดใหญ่ 2 ห้องจุใจ บริเวณใต้บันไดชั้น 1 และชั้น 2 เป็นต้น
"กิมมิก" ที่ค่าย AP มั่นใจว่าเป็นจุดชูโรงก็คือ "ทำเล ทำเล และทำเล" โดย S-Sense ทั้ง 3 ทำเลอยู่ในจุดศูนย์กลางโครงข่ายคมนาคม ทั้งทางด่วน-โครงการรถไฟฟ้า "...ทำเลที่ตั้งแบบนี้ การันตีได้ถึงมูลค่าเพิ่ม ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน"
ข้อมูลติดปลายนวม คือผลประกอบการ 10 เดือนแรก ค่าย AP ทำยอดขายรวมกว่า 14,000 ล้านบาท จาก 13 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 22,000 ล้านบาท ในช่วง 2 เดือนของปี ยังมีโครงการรอ เปิดตัวอีก 7 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดฯ ราคา 1 ล้าน แบรนด์ aspire 2 ทำเล (งามวงศ์วาน-พระราม 4) และแนวราบอีก 5 โครงการ มูลค่าที่รอเปิดตัว ประมาณ 13,530 ล้านบาท
"แสนสิริ" นิวไฮ-ตุลาคมฟัน 6.3 พัน ล.
ค่าย จัดสรรแบรนด์หรู "บมจ.แสนสิริ" "เศรษฐา ทวีสิน" กรรมการผู้จัดการใหญ่ เพิ่งประกาศความสำเร็จกับสถิติยอดขาย "นิวไฮ" ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา เพียงเดือนเดียว ทำยอดขายรวมกว่า 6,300 ล้านบาท
"มีผลวิจัยหลายชิ้น ที่ระบุตรงกันว่าดีมานด์กับซัพพลายยังอยู่ในภาวะสมดุล ผมอยากให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ยังไม่น่ากังวลเพราะผู้ประกอบการก็ระมัดระวังในการพัฒนาโครงการอยู่แล้ว"
สิ่ง ที่เขาชวน "มองต่างมุม" ก็คือผลสำรวจประชากรศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าตัวเลขสมาชิกในครอบครัวมีขนาดที่เล็ก ลง ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีแนวโน้มการแยกครอบครัวสูงขึ้น นั่นหมายความว่า "ความต้องการ" ที่อยู่อาศัยก็น่าจะเพิ่มตามไปด้วย
วกเข้าหาแผน ธุรกิจไตรมาส 4 ค่าย แสนสิริ "เศรษฐา" ยอมรับว่า ตอนแรก ไตรมาส 4 รวม 3 เดือน ตั้งเป้ายอดขายไว้เพียง 9,000 ล้านบาท แต่ในเมื่อเดือนตุลาคมทำนิวไฮกว่า 60-70% ของเป้า ดังนั้น บริษัทจึงมองการทำตลาดเชิงรุก เพื่อต่อยอดจังหวะการขายให้มีความต่อเนื่อง
นำ ไปสู่การเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 11 โครงการรวด มูลค่ารวมกว่า 18,900 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 7 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 2 โครงการ กว่า 2,800 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ กว่า 1,100 ล้านบาท
ภาวะที่บิ๊กแบรนด์โหมเปิดตัวโครงการอย่างคึกคัก "เศรษฐา" มองบวกว่า จะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอสังหาฯไทยต่อเนื่องยาวอีก 1-2 ปีหน้า
"สะใภ้ค่ายสิงห์" ถึงเวลารายงานตัว
ไม่ ใช่เพียงแค่บิ๊กแบรนด์ แต่คนที่มี "แต้มต่อ" ทางธุรกิจก็ให้ความสนใจอยากจะลงสังเวียนธุรกิจพัฒนาที่ดินไม่ขาดสาย รายล่าสุดปรากฏชื่อของ "นุ่น" วรนุช ภิรมย์ภักดี วันนี้ไม่ได้มาในบทบาทของนางเอกละครชื่อดัง หากแต่สวมบทดีเวลอปเปอร์ "บริษัท ทเวลฟ์ เอสเตท จำกัด" ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท จัดตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
"คุณนุ่น" มาในแบบสไตล์พอเพียง พัฒนา คอนโดฯโลว์ไรส์แท่งแรกในชีวิต แบรนด์ "The Peace" ทำเลในซอยลาดพร้าว 15 สูง 7 ชั้น บนที่ดินขนาด 182 ตารางวา เพียง 27 ยูนิต ใครซื้อไปก็ต้องบอกว่าเป็นห้องชุด unique สุด ๆ พื้นที่ใช้สอย 37-116 ตร.ม. เคาะราคาพรีเซล 7.8-7.9 หมื่นบาท/ตร.ม. มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท
ถึงแม้ตอนนี้จะมียอดขายแล้ว 50% แต่เอ็มดีสะใภ้เบียร์ตราสิงห์ก็ยังออกตัวว่า ตั้งเป้าปิดการขายไว้โน่นเลย...กลางปี 2554
"ส่วน ตัวชอบธุรกิจอสังหาฯอยู่แล้ว ซึ่งการตัดสินใจมาทำธุรกิจนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นมือใหม่ในวงการ แต่ก็ได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างรอบคอบ รวมทั้งได้พันธมิตรบริษัท แปลนเอสเตทมาช่วยบริหารโครงการ"
ดังที่ เกริ่นไว้แล้วว่า "คุณนุ่น" เป็นดีเวลอปเปอร์พอเพียง สไตล์การพัฒนาทำแบบค่อยเป็นค่อยไป แผนธุรกิจที่วางไว้ คือพัฒนาโครงการในระดับความถี่ 2 ปี ต่อ 1 โครงการ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 11-11-2553
|
|
|
|
|
