|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "โอลิมปิคฯ"เขย่าตลาดหลังคา ชูรุ่น"ดูโอโทน"กระตุกดีมานด์ |
|
"โอ ลิมปิคกระเบื้องไทย" ส่งหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ใหม่รุ่น "ดูโอโทน" 2 เฉดสีในแผ่นเดียวกระตุ้นดีมานด์ วิเคราะห์ ภาพรวมตลาดปีนี้มีโอกาสเติบโต 8-10% คาดปัญหาน้ำท่วมกระทบกำลังซื้อช่วงสั้น
นายปิยะพร กลันทกพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโส รับผิดชอบกลุ่มสินค้ากระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ บริษัท โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด ผู้ผลิตกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ตรา "ห้าห่วง" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์แบบไตรลอน รุ่น "ดูโอโทน" ที่มี 2 เฉดสีในแผ่นเดียวเป็นรายแรกในตลาด มีราคาขายเฉลี่ย 160 บาทต่อตารางเมตร ใกล้เคียงกับกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ รุ่นไตรลอน (3 ลอน) เฉดสีเมทัลลิก และรุ่นไตรลอนคูลที่มีคุณสมบัติสะท้อน ความร้อนได้ดี
"เรา พยายามพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด อย่างกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์สีดูโอโทนช่วยให้หลังคาดูเด่น มีมิติเฉดสีมากขึ้น อย่างในช่วงต้นปีหน้า เราจะมีเฉดสี ดูโอโทนใหม่ ๆ ออกมาเพิ่มขึ้น เช่น เฉดสีแดง เฉดสีส้ม เฉดสีน้ำตาล"
เหตุผลที่ตลาด กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์โดยรวมไม่ค่อยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา มากนัก อาจเป็นเพราะตลาดรวมมีอัตราเติบโตไม่หวือหวา เฉลี่ยปีละ 3-5% มาโดยตลอด ยกเว้นในปีนี้ที่คาดว่าตลาดรวมน่าจะมีอัตราเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยคือประมาณ 8-10% หรือมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2552 ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ จนทำให้ภาพรวมตลาดหดตัวลง ส่วนแนวโน้มในปีหน้าวิเคราะห์ว่าภาพรวมตลาดน่าจะกลับมาเติบโตในอัตรา 3-5% เช่นเดิม
นายปิยะพรกล่าวต่อว่า ในช่วงเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ตลาดกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ชะลอ ตัวลง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้า โดยเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ถือว่ามีผลกระทบในวงกว้างและส่งผลกระทบต่อภาค การเกษตรในต่างจังหวัดซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เจอกับภัยแล้งและล่าสุดก็เจอปัญหาน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ อย่างไรก็ตามจากผลกระทบที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะกระทบกำลังซื้อในช่วงสั้นคือ ไม่เกิน 1-2 เดือน หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นปีซึ่งเป็นฤดูการขาย ตลาดก็น่าจะกลับสู่ภาวะปกติ
ส่วนยอดขายกลุ่มสินค้ากระเบื้องหลังคา ไฟเบอร์ซีเมนต์ในปีนี้ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ โดยปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 40% หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดขายจากกระเบื้องหลังคาแบบลอนคู่ 3,200 ล้านบาท และกระเบื้องหลังคาแบบไตรลอน 800 ล้านบาท โดยเฉพาะกระเบื้องหลังคาแบบไตรลอนปีนี้มีอัตราเติบโตถึง 60% |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 11-11-2553
|
|
|
|
|
