|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ ต่อยอด "ดิเอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์" ลุยสถาปัตยกรรมคลาสสิกครบวงจร |
|
"ดิ เอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์" บริษัทรับสร้างบ้านระดับไฮเอนด์กำลังก้าวเข้าสู่สเต็ปใหม่ ภายใต้สโลแกน "Trust Classic Trust The Emperor House" (สถาปัตยกรรมคลาสสิกที่เหนือใคร เชื่อใจดิเอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์) สื่อความหมายถึงการเป็นบริษัทที่พร้อมลุยงานที่เป็นสถาปัตยกรรมคลาสสิก "ทุกรูปแบบ"
การไปสู่เป้าหมายที่ท้าทายมากขึ้น เกิดจากมุมมองในธุรกิจรับสร้างบ้าน ทั้งในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดระดับไฮเอนด์ ซึ่ง "สุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิเอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด มองว่า การวางตำแหน่งสินค้าแต่ละบริษัทเริ่มชัดขึ้น ภายใต้ภาวะการแข่งขัน ดิเอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์จึงต้องหาจุดยืนที่สร้างความต่างจากคู่แข่ง
"Trust Classic Trust The Emperor House ยากนะกว่าจะเค้นเป็นสโลแกนออกมาได้เพื่อโพซิชั่นบริษัทให้ชัดเจน ก่อนหน้านี้เคยมีนักการตลาดและคอนซัลต์แนะนำว่าทำไมเราไม่ทำบ้านสไตล์โม เดิร์นคอนเทม โพรารี่ด้วย แต่ยืนยันว่าเราขอโฟกัสเฉพาะสไตล์คลาสสิก" สุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ หรือ "คุณอ้วน" ให้สัมภาษณ์ "ประชาชาติธุรกิจ"
"สุ รัตน์ชัย" ขยายความว่า การเลือก โพซิชั่นตัวเองแบบนี้ เป็นเพราะบริษัทอยู่ในธุรกิจมานานกว่า 20 ปี แต่ลูกค้ากลุ่มที่ต้องการปลูกสร้างบ้านสไตล์คลาสสิกกลับโตขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการพิสูจน์ว่าลูกค้ากลุ่มนี้เป็นฐานลูกค้าที่แน่นอน อย่างในตลาดสร้างบ้านระดับไฮเอนด์ ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ถ้าเป็นลูกค้าที่ต้องการบ้านสไตล�คลาสสิก เชื่อว่าต้องมี 50% ของบ้านทั้งหมด
แผนงานในปีหน้า จึงมุ่งไปที่การทำไดเร็กต์เซลหนังสือ "บ้านคู่บารมี" ที่เป็นการรวบรวมแบบบ้านต่าง ๆ ผลงานของบริษัท
"สุ รัตน์ชัย" อธิบายว่า ในแง่ธุรกิจรับสร้างบ้าน สิ่งที่บริษัทต่างจากผู้เล่นราย อื่น ๆ คือบริษัทแทบไม่มีงานปลูกสร้างบ้านที่มีราคาต่ำกว่า 20 ล้านบาท ถ้านับเฉพาะงานโครงสร้างบ้าน ไม่รวมวัสดุตกแต่งพื้นฐานอย่างกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ก็อยู่ในระดับ 18-19 ล้านบาทแล้ว แต่ถ้ารวมด้วย บ้านที่สร้างจะมีราคาเกินกว่า 20 ล้านบาททั้งหมด ขณะที่รายอื่น ๆ ที่จับลูกค้าระดับไฮเอนด์เหมือนกัน ลูกค้ากลุ่มใหญ่ยังเป็นบ้านราคา 10-20 ล้านบาท
จากสถิติบ้านดิเอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์ที่มีราคาก่อสร้าง ตกแต่งภายใน และงานภูมิทัศน์ สูงสุด 5 อันดับแรก ทุกหลังล้วนมีราคาเกินกว่า 140 ล้านบาททั้งสิ้น ได้แก่ 1) บ้านราคา 250 ล้านบาท ย่านราษฎร์ บูรณะ 2,800 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 5 ไร่ 2) บ้านราคา 217 ล้านบาท ในย่านมีนบุรี 3,000 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 7 ไร่
3) บ้านราคา 164 ล้านบาท ในย่านพุทธมณฑล 2,000 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 9 ไร่ 4) บ้านราคา 145 ล้านบาท ในย่านปากน้ำ 1,600 ตารางเมตร บนเนื้อที่ 4 ไร่ และ 5) บ้านราคา 142 ล้านบาท ในย่านแจ้งวัฒนะ 2,200 ตารางเมตร เนื้อที่ 2 ไร่
ในปีหน้า บริษัทแพลนงานจะนำบุคลากรระดับซีเนียร์จนถึงผู้จัดการไปศึกษาดูงานที่อิตาลี ประเทศที่เปรียบเสมือนเป็นปรมาจารย์ของงานสถาปัตยกรรมคลาสสิก และไปดูโรงงานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชิ้นละ 1 ล้านบาท ว่าเขาทำกันอย่างไร
"สิ่ง ที่บ่งบอกว่าเป็นสถาปัตยกรรมคลาสิกได้ คืองานบัวปูนปั้ว งานเซาะร่องผนังขนาดใหญ่โต การไปดูงาน ก็ไปเพื่อศึกษา และต้องนำมาปรับให้เข้ากับการอยู่อาศัยของคนไทยด้วย"
"สุรัตน์ชัย" บอกว่า วิชั่นที่วางไว้ คือบริษัทจะเติบโตจากมูลค่าบ้านที่สร้าง มากกว่าการขยายจำนวนลูกค้ามาก ๆ ปัจจุบันจึงกล้าเคลมว่า ถ้านับรวมเป็นทีมตั้งแต่ ทีมออกแบบ บริการ ก่อสร้าง เชื่อว่าบริษัทเป็นอันดับหนึ่งได้
โดยมี "คีย์ซักเซสแฟกเตอร์" คือฝ่ายบริการลูกค้า บริษัทมีทีมบริการลูกค้าเกือบ 20 คน ทั้งที่สร้างบ้านปีละ 5 หลัง ซึ่งพิสูจน์ว่าหัวใจธุรกิจรับสร้างบ้านคือ "งานบริการ"
"เคยเจอที่มีลูกค้าทดสอบเรา คือไปถ่ายรูปโดมที่บนบ้านและอาคารแบบต่าง ๆ มาเพียบ ทางเราก็ไปหาข้อมูลมาบ้าง เขียนอธิบายข้อดีข้อเสียโดมแบบต่าง ๆ ให้เห็น สุดท้ายลูกค้าก็ยอมรับเรา"
ปัจจุบันดิเอ็มเพอเร่อร์มีกระบวนการทำงาน ที่ปฏิบัติกันมาเป็นแบบแผนตายตัว ได้แก่ทำรีพอร์ตส่งทุกเดือน เข้าไปตรวจสอบงานทุกสัปดาห์ จัดประชุมกับลูกค้า แจ้งความคืบหน้างานทุกสัปดาห์
"ก็มีลูกค้าบางรายถามว่า ทำไมต้องประชุมถี่ขนาดนี้ ลึก ๆ ก็เป็นความภูมิใจนะ"
เหตุผล เป็นเพราะงานก่อสร้างบ้านระดับไฮเอนด์มีรายละเอียดที่ลูกค้าต้องตัดสินใจเอง เยอะ เช่น "ระบบฟ้าผ่า" ก็มีให้เลือกหลายแบบ เพราะความต้องการลูกค้าอาจไม่เท่ากัน บางคนเน้น บางคนไม่เน้นทุกขั้นตอนบริษัทจึงมีนโยบายชัดเจนว่าจะไม่ตัดสินใจแทนลูกค้า
"สุ รัตน์ชัย" เล่าว่า นอกจากลูกค้าในประเทศ ก่อนหน้านี้ บริษัทได้รับการติดต่อจากลูกค้าในประเทศลาวว่าจ้างออกแบบบ้านที่อยู่ใน หนังสือบ้านคู่บารมีให้ ก็ติดต่อเข้ามาให้ช่วยไปดูที่ดิน ค่าตั๋วทางลูกค้าออกค่าใช้จ่ายให้หมด พอได้คุยกันแล้ว เขาก็วางเงินจองค่าแบบเลย โปรเเจ็กต�นี้คาดว่าไม่เกิน 4 เดือนก็น่าจะแล้วเสร็จ เบ็ดเสร็จคิดค่าออกแบบทั้งหมดประมาณ 5 ล้านบาท
อีก ราย เป็นลูกค้าจากปากีสถาน ให้คอนซัลต์ติดต่อเข้ามา ว่าจ้างออกแบบบ้านอย่างเดียว 3 หลัง ในขณะที่มีลูกค้าอีกราย จากประเทศมาเลเซีย ที่อยู่ระหว่างพูดคุยกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับงานแบบบ้านในต่างประเทศ ถือเป็นผลพลอยได้ที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาเอง เพราะการทำงานก่อสร้างบ้านในต่างประเทศมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้คือ "ข้อกฎหมาย" ซึ่งต้องเรียนรู้กันใหม่ ตัวอย่างคือ สปป.ลาว สามารถนำเครื่องมือเข้าไปก่อสร้างได้ แต่การจะขนกลับมา ต้องแจกแจงอย่างละเอียด เช่น นำของเข้ามาเมื่อไหร่ ใครเป็นเจ้าของ ฯลฯ
อย่าง ลูกค้าอีกรายใน สปป.ลาว ที่อยู่ระหว่างเจรจา เป็นคนท้องถิ่น ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เดิมที เขาให้ทีมงานของตัวเองลองออกแบบดู แต่พยายามอยู่นานก็ไม่สำเร็จ เพราะบ้านสไตล์คลาสสิก มีรายละเอียดเยอะ สุดท้าย เขาเดินทางมาเมืองไทย เห็นผลงานก็บอกว่าให้บริษัทออกแบบและก่อสร้างให้ดีกว่า
ล่าสุด ออกแบบแล้วเสร็จ เสนอราคาค่าก่อสร้างแล้ว ตอนนี้แค่รอตัดสินใจ เพราะติดที่บ้านหลังนี้มีการออกแบบโดม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 เมตร เนื่องจากในลาวยังไม่ค่อยมีบ้านที่มีโดมแบบนี้ จึงกังวลว่าอาจจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับวัง
"บ้านหลังนี้ เราเสนอราคาเฉพาะงานโครงสร้าง ไม่รวมงานตกแต่ง 123 ล้านบาท ถึงแม้เป็นงานในต่างประเทศ ก็ถือว่าคุ้ม เพราะในแง่งานโครงสร้าง จะถือเป็นสถิติใหม่ของเรา"
ถ้าทุกอย่างโอเค โปรเจ็กต์นี้ ก็จะเป็น "มาสเตอร์พีซ" ในแง่งานโครงสร้างครั้งใหม่ของ "ดิเอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์" ที่เชื่อว่าใคร ก็ยากจะลบสถิติลงได้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 04-11-2553
|
|
|
|
|
