Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
นวัตกรรมบ้าน ''S-Sense'' สร้างแต้มต่อ 41 ปี ธารารมณ์ |
|
"ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์" บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รุ่นเก๋าที่อยู่ในวงการมานานถึง 41 ปี
กำลังเดินเกมสร้าง "แต้มต่อ" ให้กับโครงการบ้านเดี่ยวที่ถือเป็นพอร์ตรายได้หลักของบริษัท
นับ ตั้งแต่ช่วงต้นปีธารารมณ์ฯได้เปิดตัวแบบบ้านรุ่นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "S-Sense" ที่ประกอบด้วยหลักการ 4 อย่าง คือ space saving security และ special selection โดยพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่ถือเป็นจุดเด่นของแบบบ้านรุ่นใหม่
ภายในโครงการ "พาร์คเวย์ ชาเลต์" ย่านสุขาภิบาล โปรเจ็กต์ใหญ่ที่มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่
"ประชา ชาติธุรกิจ" มีนัดสัมภาษณ์พิเศษ "วสันต์ เคียงศิริ" กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ที่พัฒนาโครงการมาแล้ว 30 โปรเจ็กต์ ตลอดระยะเวลา 41 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
"ถ้าเป็นเรื่องการลงทุน ธารารมณ์ฯอาจค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ แต่ถ้าเป็นเรื่อง อื่น ๆ เรามีนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องแน่นอน อย่างปีนี้เรามีการพัฒนาแบบบ้านใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ S Sence"
ขยายความบ้านคอนเซ็ปต์ S Sence ของแท้ต้องประกอบด้วยหลักการ 4 อย่าง คือ space saving security และ special selection
เริ่ม จาก "space" หรือพื้นที่ใช้สอยสำหรับโครงการพาร์คเวย์ ชาเลต์ ได้ลอนช์บ้านตัวอย่างรุ่นใหม่ 2 แบบ คือ เนื้อที่ 50 ตารางวา และ 65 ตารางวา อย่างบ้าน 50 ตารางวา สามารถออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้มากถึง 193 ตารางเมตร จากทั่วไปอยู่ในระดับ 150-160 ตารางเมตร
ส่วนบ้าน 65 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 245 ตารางเมตร จากทั่วไปไม่เกิน 200 ตารางเมตร โดยเพิ่มขนาดบ้านให้ใหญ่ขึ้นและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยบริเวณใต้หลังคาสามารถ ตกแต่งเป็นมุมดูทีวีหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ได้
"ภายใต้เนื้อที่เท่า กัน คิดว่าบ้านของเราน่าจะมีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดแล้ว อย่างบ้านรุ่น 50 ตาราวา เราปรับตำแหน่งบันไดให้มาอยู่กึ่ง ๆ กลางตัวบ้าน จากเดิมจะอยู่ ชิดผนังด้านใดด้านหนึ่ง ข้อดีคือสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้านหลังบันได และบริเวณโครงสร้างบ้านได้สามารถออกแบบเป็น ช่องเก็บของได้ด้วย"
คอนเซ็ปต์ "saving" เป็นการสานต่อจากแคมเปญ Go Green เมื่อ 2 ปีก่อน โดยบ้านทุกหลังจะใช้วัสดุประหยัดพลังงานและใส่ใจเรื่องสุขภาพ อาทิ ระบบหลังคาระบายความร้อนช่วยลดการใช้พลังงาน สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ บัลลาสต์ประหยัดไฟ ฯลฯ
"security" ซึ่งมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือภายในโครงการได้ติดตั้งซีซีทีวี (กล้องวงจรปิด) โดยรอบ และมีผู้ตรวจสอบทำหน้าที่เช็กการทำงาน รปภ.ภายในโครงการอีกชั้นหนึ่ง ส่วนภายในบ้านทุกหลังตอนนี้มีการติดตั้งระบบเตือนภัยผู้บุกรุก และกล้องวงจรปิดให้เป็นสแตนดาร์ด
"special selection" เป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ที่เลือกนำมาใส่ภายในบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการ ลูกค้า อาทิ สีที่มีคุณสมบัติกันเปื้อน ระบบตั้งเวลา เปิดปิดไฟ อุปกรณ์ภายในบ้านที่ใช้ ยูนิเวอร์แซลดีไซน์ คือคนทุกวัยในบ้านใช้ได้หมด อาทิ ฝักบัวปรับระดับได้ ประตูลูกบิดแบบมือจับเป็นก้านยาว ฯลฯ
"วสันต์" บอกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ไซเคิล" เศรษฐกิจขึ้นลงค่อนข้างเร็ว ธารารมณ์ฯจึงวางตัวเองอยู่ในตลาด "ซื้อง่ายขายคล่อง" อย่างบ้านเดี่ยวอยู่ระดับราคา 3 ล้านกลาง ๆ ไปจนถึง 8 ล้านบาท จากเดิมเคยทำบ้านราคา 10 ล้านบาท 20 ล้านบาท ก็เบรกไว้ก่อน
ส่วน "ทาวน์เฮาส์" อยู่ระดับ 2 ล้านบาทบวกลบ เพราะด้วยข้อกำหนดผังเมืองทำให้การทำทาวน์เฮาส์ราคาต่ำกว่านี้เป็นไปได้ยาก "คอนโดมิเนียม" ก็เลือกทำในทำเลรถไฟฟ้า
ปัจจุบันมี 2 โครงการ คือ "เดอะลิงค์ สุขุมวิท 50" อยู่ติดสถานีอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) และที่ขึ้นใหม่ช่วงกลางปีนี้ คือ "เดอะลิงค์ สุขุมวิท 64" ก็อยู่ติดกับส่วนต่อขยายสถานีปุณณวิถี ราคาเฉลี่ย 7-8 หมื่นบาทต่อตารางเมตร หรือยูนิตละ 2 ล้านกว่าบาท เป็น "แต้มต่อ" ในเรื่องราคา
"คอนโดฯเด อะลิงค์ก็อยู่ในตลาด ที่ซื้อง่ายขายคล่องกว่าคู่แข่ง ทำเลเราอาจอยู่ถัดเข้าไปในซอยแต่ก็มีชัตเตอร์บัสรับส่ง เฉลี่ยต่อยูนิตราคาถูกกว่าติดถนน 6-7 แสนบาทต่อยูนิต"
เมื่อคำนวณเป็นสัดส่วนรายได้ จากปี ที่ผ่านมารายได้มาจากโครงการแนวราบ/แนวสูง 60 : 40
แต่ปีนี้น่าจะปรับเปลี่ยนเป็น 70 : 30 เพราะว่าปีที่ผ่านมารายได้จากคอนโดฯเข้ามาเยอะ
เป็นเพราะธารารมณ์ฯเคยเห็นบทเรียนช่วงวิกฤตฟองสบู่มาแล้ว การทำคอนโดฯ จึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง
สิ่ง ที่เรียนรู้คือ "คอนโดฯ" เป็นโครงการที่มีความเสี่ยงมากที่สุด เพราะต้องเสียเงินค่าก่อสร้าง 100% กว่าจะได้รับโอนยูนิตแรก ส่วนบ้านเดี่ยวจะเซฟที่สุดเพราะสร้างทีละหลังได้ ขณะที่ทาวน์เฮาส์ก็เซฟ แต่ยังต้องขึ้นเป็นแถว ๆ
คอนโดฯจะมีความเสี่ยงหลายอย่าง 1) เรื่องต้นทุนวัสดุ ถึงแม้ล็อกราคากับผู้ผลิตไว้แล้ว แต่ถ้าผู้รับเหมาไม่ไหว ก็ต้องมาขอปรับราคา 2) ลูกค้าที่วางดาวน์ 10-20% เมื่อถึงเวลาโอนยังไหวอยู่หรือเปล่า แบงก์ให้ขอสินเชื่อหรือไม่
"ถามว่าทำไมไม่ปูพรมคอนโดฯไปเลย สำหรับเรามองว่าคอนโดฯเหมาะกับช่วงเศรษฐกิจดี ถ้าผันผวนต้องทำอย่างระมัดระวัง"
แต่โดยภาพรวมตลาดคอนโดฯยังฟองสบู่แน่นอน บางทำเลซัพพลายเยอะแต่ต้องแยกว่าไม่ใช่ฟองสบู่ เหตุผลคือ 2 เรื่องนี้มีความแตกต่างกันชัดเจน
ถ้า ซัพพลายมีมากราคาสินค้าจะค่อย ๆ ปรับลดลง อย่างตอนนี้มีบางทำเลเริ่มทำโปรโมชั่น และต่อไปซัพพลายใหม่ที่เข้ามาจะค่อย ๆ ปรับลดลงเอง
ตรงกันข้ามกับฟองสบู่ที่มีการปั่นราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกินความเป็นจริง |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 14-10-2553
|
|
|
|
|