Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เคเคแมน ธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล "อสังหาฯรายกลาง-เล็กยังแข็งแกร่ง" |
|
ธนาคาร เกียรตินาคิน จํากัด (มหาชน) หรือ KK แม้จะเป็นแบงเกอร์น้องใหม่ แต่ได้รับ การยอมรับว่าเป็น "ดาวรุ่ง" และเป็น "ขวัญใจ" ดีเวลอปเปอร์รายกลาง-รายเล็ก
ช่วงเวลา 5 ปีเศษ หลังจากยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบเมื่อปี 2548 "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์ "ธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล" กรรมการผู้จัดการใหญ่ KK ผู้อยู่เบื้องหลังพอร์ตสินเชื่ออสังหาฯ 15,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
รายกลาง-เล็ก ไม่มีสัญญาณฟองสบู่
"ธวัช ไชย" บอกว่า ภาพโดยรวมปีนี้มีช่วงดี ๆ คือ ไตรมาส 1 เพราะมีเรื่องของมาตรการกระตุ้นภาษีเข้ามาทำให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่ อาศัยได้จำนวนมาก ส่วนให้ไตรมาส 2 ที่มีผลกระทบจากเหตุจลาจลทำให้ตลาดดรอปลงไปบ้าง แต่มองว่าไตรมาส 3-4 เศรษฐกิจที่เติบโตค่อนข้างดีน่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์พลิกฟื้นกลับมา ได้
มุมมองที่น่าสนใจ คือ เขามองว่าตั้งแต่ต้นปี 2553 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเริ่ม มีความมั่นใจที่จะลงทุนโครงการเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2552 เพราะมีการเร่งซื้อที่ดินมาพัฒนาโครงการใหม่ ๆ มากขึ้น ปัจจัยบวกมาจากสัญญาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสต๊อกบ้านที่เหลือน้อย
ปัญหา คือทำให้ราคาที่ดินทุกทำเลขยับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำเลตอนนี้มีศักยภาพที่จะทำคอนโดมิเนียมได้ เช่น เกษตร-นวมินทร์ สุขาภิบาล พระราม 2 นวลจันทร์ เอกมัย-รามอินทรา งามวงศ์วาน อุดมสุข อ่อนนุช ตากสิน ท่าพระ ลาดพร้าว ฯลฯ
"ไซเคิลอสังหาฯตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังดี สามารถที่จะเติบโตไปได้แต่ก็ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนสมัยก่อน เท่าที่ดูยอดขายแต่ละโครงการเปิดตัวมาก็ขายได้ดี ส่วนปัญหาฟองสบู่ที่แบงก์ชาติส่งสัญญาณออกมาไม่ได้เห็นอะไรที่ชัดเจนมากนัก เพราะตลาด ยังมีดีมานด์รองรับ"
ดอกเบี้ยขาขึ้น "กระทบระยะสั้น"
แนว โน้มดอกเบี้ยที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง "ธวัชไชย" มั่นใจว่าจะไม่กระทบมากเท่ากับเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะกระทบมากกว่า
"ดอกเบี้ยขาขึ้นรอบนี้ไซเคิลคงปรับขึ้นอีกประมาณ 1% จากปัจจุบันขึ้นไปแล้ว 1.5% เพราะดูจากญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา ยังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจทำให้ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย หากประเทศไทยขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้มีเงินต่างประเทศไหลเข้ามาจำนวนมาก และกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งจะกระทบธุรกิจส่งออกมากกว่า"
วางเป้าเพิ่มพอร์ต 10-15%
ทิศ ทางการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้-ปีหน้า ยังเน้น ทำตลาดในกลุ่มผู้ประกอบการรายกลาง-รายเล็ก ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักเช่นเดิม พร้อมกับรักษาฐานลูกค้าเก่าที่มีกว่า 200 โครงการในมือ
สินเชื่อของ KK ไม่ได้กระจุกอยู่ในกรุงเทพมหานครเพียงเมืองเดียว หากแต่กระจายอยู่ทั่วประเทศ แบ่งเป็นพอร์ตสินเชื่อพื้นที่กรุงเทพฯ 70% ที่เหลือ 30% อยู่ในต่างจังหวัด วงเงินรวมประมาณ 10-15% ส่วนใหญ่เป็นการปล่อยสินเชื่อโครงการ แนวราบในเซ็กเมนต์ราคา 1.5-3 ล้านบาท/ยูนิต เพราะมองว่าเป็นกลุ่มตลาดที่มีดีมานด์สูงสุด และเป็นฐานใหญ่ของตลาด
"โปรดักต์ดาวเด่น" ในสายตาของ KK มองผ่านพอร์ตสินเชื่อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เขาโฟกัสมาที่โครงการทาวน์เฮาส์และบ้านแฝด ว่ามีแนวโน้มการขอสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น โดยมีสัดส่วนถึง 10-20% ของพอร์ตสินเชื่ออสังหาฯที่ปล่อยกู้อยู่
หลักสูตร KK SMART SMEs
กับ คำถามถึงบทบาทของ KK ในตลาดอสังหาฯ "ธวัชไชย" บอกว่า บทบาทธนาคารวันนี้ทำหน้าที่ให้การสนับสนุน สินเชื่อโครงการเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว แต่ต้องทำในบทบาทการพัฒนาผู้ประกอบการ นำไปสู่โครงการจัดทำหลักสูตรติดอาวุธของ KK ผ่านโครงการความร่วมมือกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง ม.ธรรมศาสตร์ หัวข้อ "การสร้างทางเลือก และการเพิ่มมูลค่า บนที่ดิน" (KK SMART SMEs) โดยมีผู้เข้ารับการอบรมมากกว่า 20 บริษัท
กรอบหลักสูตรเป็นการนำเสนอ แนวคิด เทคนิคต่าง ๆ ในการทำธุรกิจอสังหาฯ และพยายามชี้เทรนด์ใหม่ๆ อาทิ แผนการลงทุน การออกแบบ การตลาด ปัจจัยและความเสี่ยงของการพัฒนาโครงการ ฯลฯ
แน่ นอนว่าการติดอาวุธทางธุรกิจให้ดีเวลอปเปอร์รายกลาง-รายเล็ก เมื่อพวกเขาแข็งแรง "ธนาคารก็แข็งแรง" ตามด้วย แถมแข็งแรงอย่าง "ยั่งยืน" อีกต่างหาก |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 02-09-2553
|
|
|
|
|