|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ผู้ว่าการ กทพ. ทวีสิน รักกตัญญู 9 เดือนที่เหลือ "เร่งด่วนใหม่-เพิ่มรายได้-เก็บแวต" |
|
เหลือ เวลาอีก 9 เดือน (ถึงพฤษภาคม 2554) สำหรับ "พันโททวีสิน รักกตัญญู" บนเก้าอี้ "ผู้ว่าการ" การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) หลังจากเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา โดยผู้ว่าการ กทพ. ประเมินตัวเอง "สอบผ่าน" ตามพันธสัญญา
"ผลงานบรรลุตามเป้าหมาย เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ทั้งโครงสร้างคน แก้ไขปัญหาจราจร ความรับผิดชอบต่อสังคม และปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ" ผู้ว่าการทวีสินกล่าว
แต่ก็ยอมรับว่า ด้วยเวลาจำกัด มีบางภารกิจที่อาจจะไม่ถึงฝั่งฝัน คือการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารให้เป็นธุรกิจมากขึ้น ในรูปแบบโฮลดิ้งคัมปะนี ที่วิสัยทัศน์ ผู้ว่าการหมายมั่นจะตั้งบริษัทลูกตามลักษณะของงาน เช่น เก็บค่าผ่านทาง จัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ฯลฯ
1 ปี โชว์ผลงาน "เพียบ"
ย้อนดูผลงาน ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา กทพ.มีทางด่วนเพิ่มเป็น 207.9 กิโลเมตร มีผู้ใช้ทางเฉลี่ย 1.3 ล้านคัน/วัน โครงข่ายใหม่เพิ่ม มี "สายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก" ปริมาณจราจรเฉลี่ย 142,000 คัน/วัน "สายบางพลี-สุขสวัสดิ์" (วงแหวนด้านใต้) ผู้ใช้ทางเฉลี่ย 132,713 คัน/วัน "ทางเชื่อมต่อวงแหวนด้านใต้กับบางนา- ชลบุรี" และในเดือนเมษายน 2554 "ทางเชื่อมวงแหวนด้านใต้กับวงแหวนอุตสาหกรรม" จะแล้วเสร็จ นั่นหมายความว่า กทพ.จะได้ทางเพิ่มอีก 1 สาย
ผลงานยังมีการติดตั้งระบบเก็บค่าผ่าน ทางอัตโนมัติ (ETC) และนำระบบอีซี่พาส (Easy Pass) มาใช้ ช่วยระบายจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่าน จากระบบเดิม เก็บเงินสด 450 คัน/ชั่วโมง จะเร็วขึ้นเป็น 1,200 คัน/ชั่วโมง มีสมาชิกผู้ใช้บัตรอีซี่พาส 180,000 คัน/วัน ปี 2554 คาดว่าทะลุ 3 แสนคัน/วัน
สถานะ ของ กทพ.เทียบกับปีที่แล้ว มีสินทรัพย์ "เพิ่มขึ้น" 695.49 ล้านบาท จาก 189,468.61 ล้านบาท เป็น 190,164.10 ล้านบาท หนี้สิน "ลดลง" 4,544.82 ล้านบาท จาก 97,037.31 ล้านบาท เหลือ 92,492.49 ล้านบาท "ส่วนทุน" เพิ่มขึ้น 5,240.31 ล้านบาท จาก 92,431.30 ล้านบาท เป็น 97,671.61 ล้านบาท
ขณะ ที่รายได้รวม (ถึงมิถุนายน 2553) อยู่ที่ 6,616.71 ล้านบาท (ทั้งปี 8,709.99 ล้านบาท) เพิ่ม 1,210.66 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 789.96 ล้านบาท จาก 3,528.23 ล้านบาท เป็น 4,318.19 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 420.70 ล้านบาท จาก 1,877.82 ล้านบาท เป็น 2,298.52 ล้านบาท ผลพวงจากการเปิดใช้ทางด่วนสายใหม่วงแหวนด้านใต้และรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก
นอก จากนี้ยังช่วยทำให้ กทพ.ประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้ 195 ล้าน จากการบริหารหนี้เงินกู้ที่ครบกำหนดชำระ 9,497.03 ล้านบาท ส่วนการบริหารงบประมาณลงทุนเบิกจ่ายได้ 99.44% หรือ 2,011.95 ล้านบาท จาก 2,023.21 ล้านบาท ด้านการพัฒนา บุคลากร มีรายการอบรมเพิ่มความรู้ให้พนักงาน กทพ.ยาวเหยียด ทั้งบริหาร ความเสี่ยงใน Supply Chain ระบบ CSR การบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศ
ส่วน ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้มอบพื้นที่ใต้เขตทางให้หน่วยงานต่าง ๆ นำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์รวม 333,237 ตารางวา เช่น สวนหย่อม ลานกีฬา เส้นทางลัด ทางจักรยาน เป็นต้น นอกจากนี้ได้พัฒนาเส้นทางลัดสำหรับประชาชนบริเวณถนนงามวงศ์วาน-สามัคคี คิวต่อไปจะเป็นที่ซอยศาสนา
ไฮไลต์งานในมือ 9 เดือนสุดท้าย
นับถอยหลัง 9 เดือนที่เหลือ ไม่ใช่แค่สานต่องานเก่า แต่ "ผู้ว่าการทวีสิน" ต้องเร่งสปีดภารกิจที่เป็นไฮไลต์ ได้แก่
1) เร่งรัดทางด่วนใหม่ "สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก" เข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้ พ.ร.บ.การเข้าร่วมการงานของภาครัฐและเอกชน พ.ศ. 2535 โดยให้เอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPPs
2) ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ (N1, 2, 3) ที่จะต้องเร่งทบทวนให้เสร็จโดยเร็ว
3) ปัญหาข้อพิพาทกับ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) คู่สัญญาสัมปทานในอีก 2-3 เดือนนี้ จะต้องเริ่มกระบวนการเจรจาเพื่อหาข้อยุติโดยเร็ว มีหลายแนวทาง เช่น จ่ายชดเชยด้วยเงินสด ขยายสัมปทาน
4) ปรับปรุงทางขึ้น-ลง 5 แห่ง ที่บริเวณทางแยกต่างระดับอาจณรงค์ ทางแยกต่างระดับมักกะสัน ทางแยกต่างระดับงามวงศ์วาน สถานีขนส่งหมอชิต และแยกยมราช เพื่อช่วยแก้ปัญหาจราจร
5) นำระบบการจราจรอัจฉริยะมาใช้บนทางด่วน โดยผู้ใช้บริการทางด่วนสามารถตรวจสภาพการจราจรผ่านมือถือ ติดตั้งป้ายจราจรบริเวณด่านเก็บเงินเพื่อให้ทราบสภาพการจราจรบนทางด่วน 10 จุดใหญ่ ๆ อาทิ ด่านดินแดง บางนา จตุโชติ เป็นต้น
6) ขยายช่องทางการเติมเงินบัตรอีซี่พาสผ่านธนาคารและร้านสะดวกซื้อ
7) ด้านการเพิ่มรายได้ มาจากการพัฒนาพื้นที่ใต้เขตทางนำร่อง 5 แห่ง คือ บริเวณถนนสุขุมวิท ถนนสีลม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ซอยศาสนา ถนนประดิษฐมนูธรรม ทางเข้าด่านจตุโชติ สิ้นปีประเดิม 2 แห่ง ที่สุขุมวิทและอนุสาวรีย์-ซอยศาสนา ส่วนรายได้อื่น ๆ เช่น จัดทำป้ายโฆษณาบริเวณเสาตอม่อ ให้สัมปทานเอกชนติดตั้งป้ายจราจรอัจฉริยะ
8) พยายามผลักดันภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) ทางด่วน 3 สาย คือ ทางด่วนขั้นที่ 1 ทางด่วนขั้นที่ 2 และสายเอกมัย-รามอินทรา-วงแหวนรอบนอก กลับไปให้ ผู้ใช้ทาง หลัง กทพ.รับภาระมายาวนานถึง 18 ปี (2535-2553) รวม 9,824.67 ล้านบาท กำลังลุ้นฝ่าด่าน "โสภณ ซารัมย์" เจ้ากระทรวงคมนาคมและ ครม. เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับการเมืองล้วน ๆ
"ยอมรับว่าเป็นงานหิน เพราะอยู่ที่ฝ่ายการเมือง ยังไงต้องเสนอ เพราะรับภาระมานาน ตอนนี้กำลังเสนอคมนาคมพิจารณา เมื่อปี 2551 ครม.ให้ กทพ.ติดตั้งระบบเก็บเงินอัตโนมัติให้เสร็จก่อน ถึงจะเก็บแวตได้ ตอนนี้เราทำเสร็จหมดแล้ว"
หากภารกิจนี้สำเร็จเท่ากับช่วยปลดเปลื้อง ภาระหนี้องค์กรร่วม 1 หมื่นล้านบาท แต่ผู้ใช้ทางต้องควักกระเป๋าจ่าย ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้นอีก 3 บาท
ประเด็นภาษีแวตจึงยังเป็นประเด็นที่ต้องลุ้นกันต่อไป |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 26-08-2553
|
|
|
|
|
