|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ สู่ 1 ทศวรรษคอนโดฯ "ริชี่เพลซ" |
|
สัมภาษณ์
"ริ ชี่เพลซ 2002" บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล "อรรถบูรณ์วงศ์" ที่มีประสบการณ์ตกผลึก 9 ปีเต็ม กำลังวางเส้นทางเติบโตเพื่อสร้างบันทึกบทใหม่ที่ท้าทายด้วยการนำบริษัทเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (listing company) ภายในปี 2556
ถึงแม้ เป็นบริษัทที่มีอายุไม่มากนัก แต่สำหรับ "อาภา อรรถบูรณ์วงศ์" ประธานกรรมการ บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด ถือเป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจ มาอย่างโชกโชน เพราะนอกจากอสังหาริมทรัพย์แล้ว ปัจจุบันเธอยังมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท อรรถบูรณ์ จำกัด บริษัทร่วมทุนกับโตโยต้าเพื่อทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ส่งออกมาตั้งแต่ปี 2518
"ที่เลือกชื่อริชี่เพลซเพราะความหมายดี เพราะสถานที่ที่อยู่แล้วร่ำรวยเชื่อว่าเป็นใครก็อยากอยู่" อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ คีย์วูแมน "ริชี่เพลซ 2002" บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
"อาภา" เล่าว่า ริชี่เพลซ 2002 ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 หลังวิกฤตฟองสบู่ โดยเริ่มพัฒนาโครงการในปี 2547 ภายใต้ชื่อ "ริชชี่วิลล์ บางบัวทอง" บนที่ดิน 12 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 76 ยูนิต ขายในราคา 1.79-3 ล้านบาท หลังจากนั้นก็หันมาพัฒนาโครงการแนวสูงอย่าง "คอนโดมิเนียม" มาตลอด
แล้วอะไรที่ทำให้ผู้บริหารริชี่เพลซเลือกโตในเส้นทางนี้
"เนื่อง จากสมัยเรียนและช่วงที่ยังนั่งบริหารฟูลไทม์ในบริษัทอรรถบูรณ์ มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศเห็นคนอเมริกันย้าย ที่อยู่ไปตามที่ทำงานบ่อย ๆ ก็คิดว่านี่น่าจะเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในเมืองไทยต่อไป และทุกวันนี้ก็เป็นอย่างที่คิด จริง ๆ โดยเฉพาะผู้หญิง 2 ใน 3 ใช้ชีวิตแบบนี้ คืออยู่คอนโดฯช่วงวันจันทร์-ศุกร์ และกลับบ้านวันหยุด"
นับ ตั้งแต่ปี 2549 ริชี่เพลซก็มุ่งพัฒนาโครงการคอนโดฯเพียงอย่างเดียว เริ่มจากโครงการคอนโดฯ "ริชชี่ ทาวเวอร์" ติดโรงพยาบาลพญาไท 3 โดยซื้ออาคารเก่าสร้างค้างจากแบงก์กรุงไทยมาพัฒนาต่อ เปิดขายราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันปิดการขายแล้ว และนำมาสู่การพัฒนาโครงการคอนโดฯโปรเจ็กต์ที่ 2 ภายใต้แบรนด์ใหม่ "เลอริช สาทร-สาธุประดิษฐ์" ซึ่งถือเป็นโครงการแรกที่บริษัทพัฒนาเองตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นตึกสูง 22 ชั้น รวมทั้งหมด 422 ยูนิต รวมถึงโครงการคอนโดฯสไตล์บูติค "เลอริช สุทธิสาร" 77 ยูนิต ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและตกแต่งห้องตัวอย่าง คาดว่าจะพร้อมเปิดขายได้ภายในช่วงปลายปีนี้
"อาภา" บอกว่าในฐานะที่เป็นนักบริหารจัดการจึงเลือกใช้วิธี "เอาต์ซอร์ซ" งานหลายส่วนซึ่งมาจากประสบการณ์ที่เคย เดินทางไปดูโรงงานในต่างประเทศ เช่น โรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ในไต้หวันซึ่งใหญ่มาก แต่มีพนักงานประจำเพียงแค่ 5 คน บริษัทจึงเอาต์ซอร์ซงานต่าง ๆ อาทิ งานสำรวจ (ผังที่ดิน, เจาะดินสำรวจ) ออกแบบโครงการ ควบคุมงานก่อสร้าง ฯลฯ
โดย ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประจำรวมเกือบ 30 คน และมียอดขายในปีที่ผ่านมาประมาณ 400 ล้านบาท แต่หลังจากนี้เราคงต้องเพิ่มทีมงานด้านการตลาดและบริหารมากขึ้น เพราะเป้าหมายคือนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปี 2556 และถึงช่วงนั้นคงจะต้องมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
ส่วนแนว ทางพัฒนาโครงการนับจากนี้จะเน้นโครงการ "คอนโดฯ" ตามแนวรถไฟฟ้า และ "ทาวน์เฮาส์" ในเมืองเป็นหลัก สิ่งที่เน้นคือความซื่อตรงเรื่อง "คุณภาพสินค้า" คือถ้าพัฒนาโครงการระดับ "บี" ลูกค้าก็ต้องได้เต็มคุณภาพระดับ "บี" คือจ่าย 100 ต้องได้เต็ม 100 ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่างกรณีการซื้อที่อยู่อาศัยอาจไม่ค่อยเห็นภาพ แต่ส่วนตัวเคยทำธุรกิจจำหน่ายระบบรถเบนซ์มาก่อนจึงเน้นมากในเรื่องนี้ เพราะระยะทางเบรกกำหนดไว้เท่านี้ ก็ต้องหยุดรถให้อยู่คุณภาพต้องเต็มราคา
"อย่าง สเป็กฉากกั้นอาบน้ำในโครงการเลอริช-สุทธิสาร เดิมสถาปนิกสเป็กไว้เป็นกระจก แต่ตัวเองก็มาขอเปลี่ยนเป็นอะคริลิก แม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นก็ไม่เป็นไร"
"อาภา" ย้ำว่า นับจากนี้ริชี่เพลซต้องก้าวไปข้างหน้าแบบแอ็กเกรสซีฟมากขึ้น จากช่วงแรกที่ค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ แต่เมื่อฟ้าเปิดแล้วเรื่องก็ต้องออกจากท่าให้เร็วที่สุด เพราะการทำธุรกิจอสังหาฯจะอยู่แบบเล็ก ๆ ไม่ได้ ที่สุดแล้ววันหนึ่งก็ต้องโต
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมล่าสุด บนที่ดินแปลงใหม่ที่เพิ่งซื้อเข้ามาเนื้อที่เกือบ 4 ไร่ ติดถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี (ช่วงซอยกรุงเทพฯ-นนท์ 29) ตรงข้ามสถานีรถไฟฟ้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้า สายสีม่วง จะเป็นโปรเจ็กต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพราะเป็นอาคารสูง 31 ชั้น จำนวน 820 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท
ก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงนี้ได้ทำเซอร์เวย์อย่าง ละเอียด แต่ผลเซอร์เวย์ออกมาดีมาก ๆ ก็เลยตัดสินเสนอราคาที่ดิน แต่กว่าจะได้มาก็เหนื่อยมากกับการตระเวนดูที่ดิน
"ถึงวันนี้เรามีความมั่นใจและเชื่อว่าเศรษฐกิจก็ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้ว" อาภาทิ้งท้าย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 19-08-2553
|
|
|
|
|
