|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ฟื้นเซ็นทรัลเวิลด์-สยามสแควร์ ครบเครื่องระบบป้องกันไฟ-ก่อการร้าย |
|
ถูกกันให้เป็นพื้นที่เขตเพลิงไหม้เป็นเวลา 45 วัน เพื่อรอพิสูจน์ขนาดพื้นที่จะเข้าข่ายประกาศเป็นเขตเพลิงไหม้ตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่ หากพื้นที่ถูกเพลิงไหม้เกิน 1 ไร่หรือ 50 หลังคาเรือน นับจากอาคารถูกไฟไหม้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
3 โซนพร้อมลงทุนรีโนเวต
ล่าสุดอาคาร 3 แห่งในย่านราชประสงค์ "ห้างเซ็นทรัลเวิลด์-เซน-บิ๊กซี-บริเวณสยาม-ตลอดจนพื้นที่สยามสแควร์ซอย 4-5-6" ทางกรมโยธาธิการ ตัดสินให้พ้นจากสภาพเขตพื้นที่เพลิงไหม้ ไม่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงเขตเพลิงไหม้
โดยผลการตรวจสอบของ กทม. พบว่า "ห้างสรรพสินค้าเซนและศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์" บริเวณโดยรอบเขตเพลิงไหม้ พื้นที่รวมทั้งสิ้น 6 ไร่ 2 งาน 73 ตารางวา ด้านทิศเหนือติดอาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทิศตะวันออกติดถนนราชดำริ กว้าง 30 เมตร ทิศใต้ติดถนนพระรามที่ 1 กว้าง 24 เมตร และทิศตะวันตกติดอาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์
"ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ" บริเวณถูกเพลิงไหม้มีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ 85 ตารางวา มีอาณาเขตโดยรอบทิศเหนือติดที่ดินเอกชน ทิศตะวันออกติดที่ดินขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ทิศใต้ติดโรงแรมอโนมาและทิศตะวันตกติดถนนราชดำริ กว้าง 30 เมตร
"สยามสแควร์ ซอย 4-5-6" บริเวณถูกเพลิงไหม้ มีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ 37 ตารางวา ด้านทิศเหนือติดอาคารเอกชน ทิศตะวันออกติดอาคารพาณิชย์ในศูนย์การค้าสยามสแควร์และถนนอังรีดูนังต์ กว้าง 30 เมตร ทิศใต้และทิศตะวันตกติดอาคารพาณิชย์ในศูนย์การค้าสยามสแควร์
นับจากนี้ทางเจ้าของตึกทั้ง 3 แห่ง สามารถเข้าไปปรับปรุงได้แล้ว ล่าสุด "บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา" หรือ CPN ได้ส่งแผนการปรับปรุงอาคาร "ห้างสรรพสินค้าเซน-เซ็นทรัลเวิลด์-บิ๊กซี" ให้กทม.พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดใช้เวลาปรับปรุงไม่น้อยกว่า 6 เดือนถึง 1 ปี
เซน-เซ็นทรัลเวิลด์ ทุ่ม 1,500 ล้าน
"การุณ จันทรางศุ" วิศวกรออกแบบ กล่าวว่า ทาง CPN ได้ยื่นขออนุมัติปรับปรุงใหม่จากสำนักการโยธากทม. ในส่วนโครงสร้างภายนอกยังคงเดิม แต่ใส่ระบบภายในให้ไฮเทคมากขึ้น อาทิ ระบบความปลอดภัย ระบบป้องกันการก่อการร้าย ฯลฯ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้อาคาร
โดย "ห้างสรรพสินค้าเซน" ผลจากถูกไฟโหมกระหน่ำไหม้อยู่หลายชั่วโมง ได้รับความเสียหายมากสุด โครงสร้างตั้งแต่ชั้น 1-7 รวมพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร ยุบตัวลงมา คาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงนานเป็นพิเศษ ประมาณ 14 เดือน
ในแบบแปลนใหม่ จะทุบทิ้งพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายออกให้หมดชนิดไม่ให้เหลือซาก ขณะที่แบบการก่อสร้างใหม่จะใช้ฐานรากเดิม เพราะยังไม่เสียหายมากนัก
โดยแบบใหม่จะใส่ระบบป้องกันอัคคีภีย เช่น ระบบผนังป้องกันไฟลาม (Fire Compartment) มาตรฐานสากล เนื่องจาก "ห้างเซน" ยังใช้ระบบเก่าในแบบประตูเหล็กที่จะถูกปิดเวลาถูกไฟไหม้ ทำให้ไม่สามารถผ่านทะลุประตูเหล็กไปได้
แต่หากใช้ระบบผนังป้องกันไฟลุกลามนี้แล้ว จะมีการกั้นแบ่งส่วนอาคารให้เป็นส่วนๆ เวลาเกิดไฟไหม้จะได้ไม่ลามไปส่วนอื่นๆ ในเวลาปกติจะมองไม่เห็น แต่เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ระบบนี้จะทำงานทันที ในแบบม่านกันควัน จะพบว่าในประเทศไทยยังไม่ค่อยนำมาใช้เนื่องจากต้นทุนค่อนข้างแพง
ส่วนฝั่ง "เซ็นทรัลเวิลด์พลาซา" ที่ได้รับความเสียหายประมาณ 10,000 ตารางเมตร จะใช้ระบบเดียวกันกับ"ห้างเซน" นอกจากนี้จะมีการใส่ระบบป้องกันการก่อการร้าย "กลุ่มเซ็นทรัล" อยู่ระหว่างการพิจารณาจะมีวิธีการไหนง่ายที่สุดสำหรับการป้องกันการบุกรุกเข้ามาในพื้นที่
โดยทางกลุ่มเซ็นทรัลฯ พยายามปรับปรุงระบบต่างๆให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่มีข้อจำกัดของอาคารที่เก่าสร้างมานานอย่าง "เซน" จึงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้มาก เพราะต้องทำทุกอย่างอยู่ในพื้นฐานโครงสร้างเดิม เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการมีปัญหาด้านข้อกฎหมาย
สำหรับการปรับปรุงครั้งนี้ ทั้ง"เซ็นทรัลเวิลด์-เซน" คาดว่าจะใช้งบประมาณในการปรับปรุง 1,000-1,500 ล้านบาท
ขณะที่ "บิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ" จะใช้หลักการเดียวกันรื้อทิ้งเฉพาะพื้นที่ที่โดนเปลวไฟเสียหายบริเวณชั้น 2 ส่วนเรื่องระบบต่างๆ อาจจะมีการซ่อมแซมเล็กๆน้อย ๆ เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย เป็นต้น งบประมาณปรับปรุงอยู่ระหว่างการตีราคาจากผู้รับเหมา
สยามสแควร์ ทุบทิ้งสิ้น ก.ค.นี้
ขณะที่ "สยามสแควร์ ซอย 4-5-6" หลังจากมติคณะกรรมการควบคุมอาคารออกมาแล้ว ทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ได้ยื่นเรื่องไปที่สำนักงานเขตปทุมวัน เพื่อขอเข้าไปทุบทิ้งพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ทั้งส่วนโรงหนัง ร้านค้า 68 คูหา ทั้งหมด ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อเริ่มต้นการก่อสร้างใหม่ทั้งหมด
"คาดว่าจะใช้เวลา 45 วันในการรื้อ จากนั้นจะกั้นรั้วเพื่อไม่ให้คนเข้าไปในพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ว่าจะได้ข้อยุติเรื่องการก่อสร้างพื้นที่ใหม่เมื่อไหร่ เรามีมาสเตอร์แพลนอยู่แล้ว" แหล่งข่าวจากสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะที่การก่อสร้างรูปแบบใหม่ จากบทเรียนในครั้งนี้ จะมีการให้ความสำคัญเรื่องระบบป้องกันอัคคีภัยมากขึ้น แม้ว่าจะมีต้นทุนสูงขึ้นตามมาก็ตาม และทางคณะกรรมการควบคุมอาคารได้มีข้อเสนอแนะให้เพิ่มเรื่องระบบความปลอดภัยให้ทันสมัย รวมถึงระบบเพื่อคนพิการ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งให้มากขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-07-2553
|
|
|
|
|
