|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เปิดหน้าดิน "ชะอำ-หัวหิน" ดีเวลอปเปอร์โหมลงทุนต่อเนื่อง |
|
รายงาน
Together We Can แคมเปญซีเอสอาร์ขนานแท้ ที่มีเจ้าภาพคือค่ายอสังหาฯ "ชาญอิสสระ" จัดทริปชวนกันทำความสะอาดชายหาชะอำ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้เหตุการณ์จลาจลจะ "ทุบ"หม้อข้าวธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้หัวเมือง ตากอากาศรอบเมืองไทยจะมีบรรยากาศนักท่องเที่ยวมาเยือนบางตาไปบ้าง
แต่กลับพบว่า ห่างออกไประยะทาง กว่า 200 ก.ม. ทำเลชะอำ-หัวหินเป็นถิ่นที่ไม่สิ้นมนต์ขลังจริง ๆ
เพราะปรากฏมีโครงการ อสังหาริมทรัพย์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
"เจ้าสัวเจริญ" ขยับโปรเจ็กต์ 1.8 หมื่นไร่
"ชาย พานิชพรพันธุ์" ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เล่าสู่กันฟังว่า ตลาดท่องเที่ยวที่เพชรบุรีไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จากปัญหาการเมืองที่ผ่านมาจะมีบ้าง ที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างชาติหายไปในช่วงที่สถานการณ์ไม่ค่อยดี แต่มีคนไทยมาเที่ยวมากขึ้น เป็นการชดเชย ส่วนที่หายไป และตอนนี้บรรยากาศเริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว
"บรรยากาศการลงทุนที่เพชรบุรียังมีต่อเนื่อง มีการซื้อขายที่ดินเปลี่ยนมืออยู่เรื่อย ๆ ราคาขายปรับเพิ่มเล็กน้อย แต่ไม่หวือหวามากนัก เมื่อเทียบช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะที่ดิน เป็นของกลุ่มทุนรายใหญ่ไปหมดแล้ว ที่เป็นของชาวบ้านจริง ๆ แทบไม่มีเหลือแล้ว"
พ่อเมืองเพชรบุรีบอกอีกว่า ปัจจุบันที่ดินของ "เจริญ สิริวัฒนภักดี" ที่ซื้อเก็บไว้เมื่อหลายปีก่อน จำนวน 18,000 ไร่ เกาะทำเลสองฟากถนนคลองโคน-ชะอำ ติดทะเล ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล "นายาง-บางเก่า-หนองศาลา-ปึกเตียน" กำลังเกลี่ย หน้าดิน เพื่อพัฒนาโครงการที่วางมาสเตอร์แพลนไว้ ทั้งที่อยู่อาศัย และสนามกอล์ฟ
โครงการรัฐ-เอกชนดันราคาที่ดินพุ่ง
"ที่ดินของคุณเจริญ น่าจะเริ่มลงทุน ในปีนี้ และหากถนนเส้นคลองโคน-ชะอำ ของกรมทางหลวงชนบทเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการไปถึงจังหวัดระนอง จะทำให้ราคาที่ดินสองฝั่งถนนขยับราคาขึ้นอีก"
เนื่องจากต่อไป ถนนเส้นนี้จะเป็นทางลัดไปภาคใต้ ช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯเหลือแค่ 105 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถเดินทางมาถึงเพชรบุรีสะดวกขึ้น ไม่ต้องอ้อมไปเส้นเพชรเกษม แนวโน้มต่อไป จะเกิดธุรกิจใหม่ริมสองฝั่งถนน เช่น สินค้าโอท็อป เพราะจะเป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวชายทะเลทางใต้
โดยจุดเริ่มต้นอยู่บริเวณถนนสายธนบุรี-ปากท่อ (พระรามที่ 2) บริเวณกิโลเมตรที่ 73+100 วิ่งเลาะชายทะเล อ่าวไทย ผ่าน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งกรมทางหลวงชนบทกำลังจะต่อเชื่อม ออกไปยังหาดเจ้าสำราญ ปึกเตียน ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง
ขณะเดียวกัน จะมีโปรเจ็กต์ "ถนนคนเดิน" ที่ชะอำ โดยเลียบชายทะล ระยะทาง 1,200 เมตร บริเวณเขื่อนชลประทาน ใช้งบฯลงทุน 13 ล้านบาท เพื่อรับกับ การเติบโตด้านการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้น
"นุกูล พรสมบูรณ์ศิริ" นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ เสริมว่า ปัจจุบันการลงทุนที่ชะอำ ยังไปได้เรื่อย ๆ ไม่หวือหวามากนัก เพราะที่ดินถูกเปลี่ยนมือไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ ราคาที่ดินขยับไม่มากนัก เพราะที่ผ่านมา ราคาซื้อขายปรับเพิ่ม ไป 1 เท่าตัวแล้ว
"ปัจจุบันมีนักลงทุนในพื้นที่และจากกรุงเทพฯเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาที่พักอาศัยสไตล์รีสอร์ต ไม่เกิน 100 ห้อง การขออนุญาตก่อสร้าง ที่อยู่อาศัยมีมาตลอด โดยปีนี้ จากสถิติ ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 200 กว่าราย"
ทุนฝรั่งหลั่งไหลเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง
"วีระ ศรีวัฒนตระกูล" ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วยเติมเต็ม ข้อมูลว่า ในช่วงที่รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว มีนักท่องเที่ยวในประเทศมาพักที่หัวหินจำนวนมากไม่ขาดสาย ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจและเชื่อมั่นถึงความปลอดภัย แม้ว่าจำนวนอาจจะน้อยลงไปบ้างก็ตาม แต่ปัจจุบันเริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว
"ภาวะการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่ประจวบฯ มีชาวต่างชาติให้ความสนใจ เยอะ โดยร่วมกับคนไทย เช่น ชาวสแกนดิเนเวีย ฮอลแลนด์ ตอนนี้การลงทุนเริ่มขยายจากหัวหินไปยังปราณบุรี สามร้อยยอด และทับสะแก เพราะมีความเป็นส่วนตัวสูง"
ด้านราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉลี่ย 5-10% ขึ้นอยู่กับทำเล เช่น ที่หัวหิน ทำเลติดชายทะเล ขณะนี้ซื้อขายกันอยู่ที่ไร่ละ 40 ล้านบาท โซนสามร้อยยอด ไร่ละ 8-9 ล้านบาท ทับสะแกไร่ละ 8-10 ล้านบาท ส่วนความเคลื่อนไหวการโอนอสังหาฯ มีอย่างต่อเนื่องอย่างเดือนที่แล้ว (พฤษภาคม) อยู่ที่10 ราย ส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่และเป็นโครงการคอนโดมิเนียม
แลนด์-คิงเพาเวอร์ปักธง
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ กล่าวอีกว่า ล่าสุด มีนักพัฒนาที่ดินรายใหญ่จากกรุงเทพฯ คือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มาซื้อที่ดินติดกับสนามบินหัวหิน พื้นที่ 20 ไร่ เมื่อ 5-6 เดือนที่ ผ่านมา เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโดฯ และบ้านจัดสรร, กลุ่มคิงส์เพาเวอร์ ที่ซื้อที่ดินไว้เมื่อ 1-2 ปี มีแผนจะมาลงทุนพัฒนาโรงแรมขนาดใหญ่ติดชายทะเลหัวหิน
จากข้อมูลที่มีอยู่ ทำให้ประเมินภาพรวมการลงทุนของจังหวัดประจวบฯได้ไม่ยากนักว่าแนวโน้มเป็นเมืองที่มีศักยภาพการท่องเที่ยวสูง การคมนาคมาสะดวก ยิ่งต่อไป รัฐบาลจะสร้างรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูงมาหัวหิน จะทำให้การพัฒนามีศักยภาพและเติบโตมากยิ่งขึ้นไปอีก |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 08-07-2553
|
|
|
|
|
