|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "เม เจอร์"ผุดซูเปอร์ลักเซอรี่คอนโดฯ โปรเจ็กต์นำร่องกลางทองหล่อดักไฮโซกระเป๋าหนัก |
|
"เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์" รุกตลาด คอนโดฯไฮเอนด์ต่อเนื่อง ซุ่มผุดไพลอต โปรเจ็กต์เจาะตลาดซูเปอร์ลักเซอรี่เป็นครั้งแรก บนที่ดิน 300 ตารางวา ทำเลไข่แดงซอยทองหล่อ ทั้งโครงการมีแค่ 10 ยูนิต เคาะขายเริ่มต้น ตร.ม.ละ 1.5 แสนบาท เผยคอนเซ็ปต์กลับหัวกลับหาง ผลักพื้นที่ส่วนกลางเข้าไปอยู่ในห้องชุดทั้งหมดดักลูกค้าเศรษฐีกระเป๋าหนัก
นาย สุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวคอนโดฯระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ใน ทำเลทองหล่อบนที่ดินประมาณ 300 ตร.ว. พัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ทั้งโครงการมีจำนวนเพียง 10 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 200-300 ตร.ม. ราคาขายต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ 1.5 แสนบาท มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท โดยมีบริษัทลูกบริษัท เมเจอร์ เรียลลิตี้ จำกัด (MJR) เป็นผู้พัฒนาโครงการ คาดว่าจะเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการในปี 2554
โครงการนี้ถือเป็นไพล อตโปรเจ็กต์ของกลุ่มเมเจอร์ฯที่จะทำออกมาทดลองตลาดในเซ็กเมนต์ใหม่ หากประสบความสำเร็จจะเป็นรูปแบบโครงการที่สามารถพัฒนาต่อยอดไปยังโปรเจ็ก ต์ใหม่ ๆ ในอนาคต
"คอนเซ็ปต์โครงการมาจากการสะสมข้อมูลที่ได้คุย กับลูกค้าโดยตรง เป็นข้อมูลอินไซด์ที่หาไม่ได้จากงานวิจัย ซึ่งลูกค้าจะบอกตามตรงว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร เช่น สิ่งที่ไม่ชอบสำหรับการอยู่คอนโดฯ คือ เรื่องค่าส่วนกลางที่ลูกค้ามองว่าเป็นภาระหนักที่ต้องจ่ายโดยไม่จำเป็น เราจึงนำโจทย์นี้มาพัฒนาเป็นโปรดักต์ที่รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ รูปแบบคือการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางที่จำเป็นเข้าไปอยู่ในห้องชุด ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนสรูม"
แนวโน้มคอนโดฯลักเซอรี่ประเมิน ว่า เป็นตลาดที่มีศักยภาพและยังมีดีมานด์อยู่อีกมาก เนื่องจากพบว่าตลาดคอนโดฯไฮเอนด์มีซัพพลายใหม่ออกมาไม่มากประมาณ 2,000-3,000 ยูนิต/ปี ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดคอนโดฯทั่วไป
ใน แง่ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรระหว่างคอนโดฯลักเซอรี่กับคอนโดฯทั่วไปก็ยังมี ช่องว่างราคาที่ห่างกันไม่มากนักประมาณ 10% เท่านั้นเมื่อเทียบกับตลาดเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ พบว่าคอนโดฯ ลักเซอรี่กับคอนโดฯทั่วไป ราคาขายต่างกันถึง 20-30% จึงเป็นโอกาสในการทำตลาด
"หลังผ่านเหตุการณ์จลาจลคิดว่าเริ่มดีขึ้น ดูจากจำนวนลูกค้าวอล์กอินและ ยอดขายที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่การทำตลาดลักเซอรี่จะเหนื่อยมากกว่าการขายคอนโดฯ ต้องตอบคำถามเยอะเพราะเป็นลักษณะเฉพาะที่จะต้องสนองความต้องการของลูกค้าให้ จริง ๆ ส่วนทำเลจะเกาะกลุ่มอยู่ในย่านซีบีดี สีลม สาทร สุขุมวิท"
นาย สุริยนกล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้บริษัทจะเปิดตัวใหม่อีก 2 โครงการในช่วงไตรมาส 3/53 ในทำเลสีลมและพหลโยธิน บริเวณร้านจิตรโภชนาเดิม เนื้อที่ประมาณ 2.5 ไร่ โดยมีต้นทุน ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวราคาตารางวาละ 2.7 แสนบาท เฉพาะค่าแลนด์แบงก์ตกประมาณ 780 ล้านบาท จะพัฒนาโครงการเป็นแบบมิกซ์ยูส 2 อาคารประกอบด้วย คอนโดฯกว่า 400 ยูนิต ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละ 1 แสนบาท, สำนักงานให้เช่าเนื้อที่กว่า 20,000 ตารางเมตร และ คอมมิวนิตี้มอลล์อีก 2,000-3,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
"จุดขายอยู่ที่ทำเลที่ตั้ง โครงการและการออกแบบเอ็กซ์คลูซีฟดีไซน์ คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือนสิงหาคมนี้"
สำหรับประมาณการรายได้ในปี นี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท โดยบริษัทมีห้องชุดที่โอนเพื่อรับกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯที่เพิ่งหมดลงไป เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน รวมกันประมาณ 200-300 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-07-2553
|
|
|
|
|
