|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "สม ศักดิ์ โรจน์ดรงค์กุล" สู่ยุค Duplicate กำลังการผลิต ปั๊ม DNA แบบฉบับ วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค |
|
คอลัมน์ Home Builder Interview
ในกลุ่ม บริษัทรับสร้างบ้านระดับไฮเอนด์ "วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค" เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีการ ประกาศจุดยืนชัดเจนในการเป็นบริษัท รับสร้างบ้านแบบ "6 Star Luxury Services" สื่อความหมายถึงการมีบริการระดับ 6 ดาว เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพอใจสูงสุด
แม้การก้าวไปถึงจุดยืน ตามที่ประกาศไว้อาจไม่ง่ายนัก เพราะบุคลิกหรือความชอบลูกค้าแต่ละคนก็มีความแตกต่าง แต่ สำหรับผู้บริหารคนหนุ่มรุ่นใหม่วัย 30 ปลาย ๆ อย่าง "สมศักดิ์ โรจน์ดรงค์กุล" กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค จำกัด ในฐานะผู้นำองค์กรมั่นใจว่า หลังจากใช้เวลาพัฒนาเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง ถึงวันนี้วินด์มิลล์ฯได้เดินมาถึงเป้าหมาย การสร้างบริการระดับ 6 ดาว ให้กลายเป็น "DNA" ของคนในองค์กร อย่างที่ตั้งใจ ไว้แล้ว
อย่างไร ก็ตามภารกิจยังต้องดำเนินต่อไป เพราะการทำธุรกิจไม่สามารถหยุดนิ่งได้ ภาคต่อจากภาคที่แล้วของวินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค จะต้องทำให้สำเร็จคือ การถ่ายทอด DNA ให้กับทีมงานที่จะรับเข้ามาใหม่ ซึ่งเปรียบเสมือนการ duplicate (ทำสำเนา) กำลังการผลิต เพื่อสร้างความพร้อมรองรับการขยายงานแบบก้าวกระโดดในอนาคต
"ตอนนี้ เรามาเน้นเรื่องการพัฒนาทีมงานพัฒนาองค์กรอย่างเต็มที่ เรียกว่า เวลาส่วนใหญ่ในตอนนี้ทุ่มเทมาที่เรื่องการสร้างคนเกือบทั้งหมด" สมศักดิ์ กรรมการ ผู้จัดการและซีอีโอ "วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค" ให้สัมภาษณ์ "ประชาชาติธุรกิจ"
"สมศักดิ์" บอกว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราเติบโตค่อนข้างมาก สามารถทำยอดขาย 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้สามารถทำยอดขายได้แล้ว 160 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 300 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่ามีโอกาสทะลุเป้าสูง ดังนั้นเรื่องยอดขายจึงไม่ใช่ปัญหา
ตั้งแต่ ปีนี้บริษัทจึงมาโฟกัสที่การพัฒนาองค์กรให้แน่น โดยเฉพาะกับทีมงานที่รับเข้ามาใหม่ ซึ่งปัจจุบันวินด์มิลล์ฯมีทีมงาน แบ็กออฟฟิศกว่า 40 คน และจะต้องรับเพิ่มอีกกว่า 10 คน ในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ผู้จัดการโครงการ วิศวกร สถาปนิก โฟร์แมน ฯลฯ คนเหล่านี้จะต้องรับคนที่มีประสบการณ์ แต่ยังเป็นคนรุ่นใหม่อายุ อยู่ในช่วง 30 ปีขึ้นไป
สิ่งที่ต้องทำจะคล้าย ๆ กับการถ่ายสำเนา "DNA" ให้กับทีมงานใหม่ที่รับเข้ามา อย่างทีมงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบริษัทมีการเขียน Windmill Architect Master Flow ที่เปรียบเสมือน "คู่มือการทำงาน"
อย่างในงาน ก่อสร้างตั้งแต่งวดงานที่ 1 2 3 ไปจนถึงงวดงานที่ 11 ประกอบด้วย ขั้นตอนการทำแบบ, ตอกเสาเข็ม, ขึ้นเสาชั้นที่ 1, ขึ้นคานชั้นที่ 2, มุงหลังคา, ก่ออิฐฉาบปูน, ติดวงกบประตู-หน้าต่าง, งานฝ้าเพดาน-ไฟฟ้า, ติดตั้งสุขภัณฑ์, ติดตั้งดวงโคม, เก็บงานและส่งมอบบ้าน จะระบุไว้หมดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และมีบัดดี้คอยโค้ชชิ่งช่วยดูแลให้คำ แนะนำ
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นรายละเอียดที่ต้องทำซ้ำเพื่อให้เกิดการจด จำและฝังเข้าใน DNA ซึ่งโดยเฉลี่ยบุคลากรแต่ละคนคงต้อง ใช้ระยะเวลาในการสร้าง DNA ประมาณ 6-12 เดือน โดยบางส่วนเริ่มทำมาตั้งแต่ ปีที่ผ่านมา และถือเป็นภารกิจภาคต่อที่จะต้องทำให้สำเร็จ
"ความ หมายของ DNA วินด์มิลล์ฯ คือ ยกตัวอย่างเป็นงานโครงสร้าง ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องรู้หน้าที่ของตัวเองเลยว่าในแต่ละขั้นตอน ต้องทำอะไร คือรู้ว่าไมล์สโตน (ผลผลิตงานที่จะเกิดในอนาคต) ของตัวเองคืออะไร"
"สมศักดิ์" ยอมรับว่า การพัฒนาคนถือเป็นงานท้าทาย สิ่งสำคัญคือความเอาใจใส่และต้องอาศัยทั้ง "ศาสตร์" และ "ศิลป์" อาจมีบริษัทรับสร้างบ้านรายอื่น ๆ ที่เลือกใช้ "มาร์เก็ตติ้ง" หรือ "ราคา" เป็นตัวเอก แต่บริษัทเลือกที่จะใช้ "โปรดักชั่น" เป็นตัวนำ
เบ็ดเสร็จแล้ว บริษัทคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี คือปีนี้และปีหน้า ในการพัฒนาคนใส่ DNA เข้าไป เพราะระหว่างนี้ยังต้องมีการรับคนเข้ามาเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ และในปี 2555 บริษัทก็จะมีความพร้อมในเรื่องทีมงาน เมื่อถึงจุดนั้นการมียอดขายแตะ 1,000 ล้านบาทต่อปี หรือขยายตัว 2-3 เท่าจากปัจจุบัน โดยมีบริษัทรับสร้างบ้านเพียงบริษัทเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
อย่าง ไรก็ตามรายได้คงไม่ได้มาจาก การทำธุรกิจรับสร้างบ้านเพียงอย่างเดียว อนาคตบริษัทจะมีธุรกิจ 2 ขา ที่เติบโต ไปพร้อม ๆ กัน คือ 1)ธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่ยังคงเป็นธุรกิจหลักอยู่ แต่อาจมีการ ขยายเซ็กเมนต์ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และ 2)ธุรกิจโปรเจ็กต์ ดีเวลอปเมนต์ เซอร์วิส คือการให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบโครงการ ก่อสร้าง ขาย และบริหารโครงการจนถึงส่งมอบแบบครบวงจร ซึ่งมีโอกาสที่จะได้งานที่มีมูลค่าโครงการสูงในระดับร้อยล้านบาท
แนว คิดคือเจ้าของที่ดินที่ไม่มีความชำนาญในการทำโครงการมาจับคู่กับบริษัทที่มี โนว์ฮาวการพัฒนาโครงการ เพราะวินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค ก็เกิดมาจาก "อนันดา ดีเวลลอปเมนท์" ที่เป็นบริษัทพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม (แบรนด์ IDEO) เพราะมีอนันดาฯถือหุ้นอยู่ 49% ที่ผ่านมาบริษัทจึงมีประสบการณ์รับงานออกแบบโครงการคอนโดฯบางโปรเจ็กต์ให้ กับอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ทำให้รู้เทรนด์ตลาดกลุ่มเป้าหมายคืออสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ตั้งแต่บ้านจัดสรร คอนโดฯ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บูทีคอพาร์ตเมนต์ โรงแรม หรือรีสอร์ตที่ผ่านมาก็เริ่มต้นไปบ้างแล้ว
หลังจากก่อนหน้านี้เคยมี การเจรจากับเจ้าของที่ดินในพัทยา แต่ด้วยปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองช่วงที่ผ่านมาทำให้เจ้าของที่ดินตัดสินใจ พับแผนการลงทุน อย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัทอยู่ ระหว่างออกแบบให้กับเจ้าของที่ดินรายใหม่ ซึ่งมีที่ดินในย่านศาลายา จังหวัดนครปฐม หลังจากพบกันในการออกบูทงานสถาปนิก"53 เมื่อปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยเจ้าของโครงการสนใจนำ ที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เพื่อรองรับนักศึกษาต่างชาติใน มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีนโยบายพัฒนาไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับอินเตอร์เนชั่นแนล หากทุกอย่างลงตัวคาดว่า โปรเจ็กต์นี้จะมีมูลค่าโครงการกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่างานรับสร้างบ้านหลังที่มีราคาสูงที่สุดปัจจุบันคือ 80 ล้านบาท
"สมศักดิ์" บอกด้วยว่า ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจเพิ่งผ่านพ้นมรสุมการเมือง แต่เชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยรวมในช่วงครึ่งปีหลังยังสดใส แต่ตลาดระดับไฮเอนด์ก็มีคู่แข่งเยอะขึ้น เช่นกัน
โดยปัจจุบัน วินด์มิลล์ฯมีไซต์ก่อสร้างลูกค้าทั้งหมด 12 หลัง กระจายอยู่ในเขตต่าง ๆ ทั้งหมดเป็นลูกค้าที่อยู่นอกโครงการบ้านจัดสรรของอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเร็ว ชอบสไตล์บ้านและการตกแต่งไม่ซ้ำใคร เป็นคัสตอมไมซ์เฉพาะราย คือรอได้ แต่ "...บ้านฉันต้องให้สวยไว้ก่อน"
และเชื่อว่าดีมานด์กลุ่มนี้ยังมีอีก มาก |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 01-07-2553
|
|
|
|
|
