| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 128 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 21-06-2553    อ่าน 11091
 Sank Cost 7,500 ไร่ ขุมทรัพย์ร่วมทุน "การเคหะฯ+เอกชน" ?

คอลัมน์ สดจากเวที




เวิร์กช็อปหัวข้อ "การจัดทำโครงการร่วมลงทุนระหว่างการเคหะแห่งชาติ และภาคเอกชน" นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามของรัฐวิสาหกิจ "กคช." ในการบริหารจัดการทรัพย์รอการพัฒนา หรือ Sank Cost ซึ่งหมายถึงที่ดินกว่า 7,500 ไร่ ที่ต้องแบกภาระต้นทุนบวก ดอกเบี้ยกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ในปัจจุบัน

คีย์คอนเซ็ปต์การจัดการ Sank Cost มี 2 ออปชั่น คือ กคช.หยิบที่ดินมาพัฒนาเองส่วนหนึ่ง กับออปชั่นเชิญชวนภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนภายใต้ รูปแบบ PPP (Public Private Partnership) นำไปสู่การทำความรู้ความเข้าใจขนานใหญ่ โดยมีวิทยากรรับเชิญจาก 3 สมาคมเสาหลักวงการอสังหาริมทรัพย์

แนะตั้ง "บริษัทลูก" เพื่อความคล่องตัว

"ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมาการดำเนินงานของ กคช.มีปัญหา ในด้านรูปแบบการพัฒนาและการตลาด โดยเฉพาะผลิตสินค้าออกมามากกว่าดีมานด์ที่มีอยู่จริงในตลาด หากต้องให้ ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนต้องปรับวิธีการและรูปแบบการพัฒนาใหม่ เพื่อให้ปิด การขายได้เร็วขึ้น

"การสร้างความสนใจให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน สิ่งที่ต้องมีคือการสนับสนุนจากภาครัฐเหมือนในต่างประเทศ ที่สำคัญ ต้องมองด้วยว่าที่ดินที่มีอยู่ในมือมีจุดแข็งหรือไม่ อย่าเริ่มหาทางออกด้วยวิธีการ ร่วมทุนเพียงทางเดียว ให้มองด้วยว่า กคช.มีศักยภาพที่จะทำได้เองก่อนเพราะการร่วมทุนไม่ใช่คำตอบสุดท้าย" มุมมองแบบเข้มข้นของผู้บริหารพฤกษาฯ

"อิสระ บุญยัง" นายกสมาคมธุรกิจ บ้านจัดสรร มองต่างมุมว่า เอกชนมองว่าที่ดินเปล่าของ กคช. น่าจะมีโอกาสที่เอกชนจะเข้าไปร่วมลงทุนมากที่สุด เมื่อเทียบกับโครงการที่มีสิ่งปลูกสร้างแต่ กคช.จะต้องตัดสินใจขายที่ดินเปล่า ในราคาตลาด ไม่ใช่ราคาต้นทุนบวก ดอกเบี้ยซึ่งจะทำให้ราคาขายสูงกว่าราคาตลาด

อีกแนวทางหนึ่งคือการตั้งบริษัทลูก=ขึ้นมาดำเนินการในรูปแบบของบริษัท เช่นเดียวกับบริษัทกรุงเทพธนาคม บริษัทลูกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อให้ง่ายและมีความคล่องตัวในการร่วมทุน

เอกชนสนที่ดินเปล่าทำคอมมิวนิตี้มอลล์

ส่วน "กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา" นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ให้ทรรศนะว่า ที่ดินเปล่าน่าจะมีความเหมาะสมที่จะนำมาพัฒนามากที่สุดโดยอาศัย กคช.มีจุดแข็งตรงที่เป็น หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ มีความได้เปรียบเอกชนตรงที่สามารถขออนุญาตก่อสร้างได้เร็วกว่าเอกชน และเข้าไปพัฒนาโครงการในบางพื้นที่ที่เอกชนทำไม่ได้

"ปัญหาของ กคช.ขณะนี้คือที่ดินส่วนใหญ่ราคาแพงกว่าที่ดินในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบในการพัฒนา เช่น ขายที่ดินบางแปลงให้กับเอกชนเพื่อสร้างเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ เพื่อเป็นแม็กเนตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินใกล้เคียง"

"กิตติพล" ยังได้เรียกร้องด้วยว่า ภาครัฐควรมีมาตรการสนับสนุนทางด้านภาษีและดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ซื้อ แต่หาก ขายที่ดินไม่ได้จริง ๆ ควรจัดพอร์ตการขายโดยนำที่ดินทำเลดีกับที่ดินทำเลไม่ดีมาจัดกลุ่มขายเป็นแบบแพ็กเกจเพื่อถัวเฉลี่ยให้สามารถระบายสต๊อกที่ดินได้แบบยกแปลง
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 21-06-2553 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.