|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ถนน4เลนสะดุดตอ"เขาใหญ่โมเดล" จับตาต้นทุนน้องใหม่โผล่"งบฯฟื้นฟูสองข้างทาง" |
|
กรมทางหลวงหวั่นโครงการขยายถนน 4 เลนทั่วประเทศสะดุด หากรัฐบาลใช้ถนนเขาใหญ่เป็นโมเดลงานสร้างทางจะลำบาก-ยุ่งยากขึ้น แถมต้องตั้งงบฯฟื้นฟูเพิ่มเติม จากอดีตไม่เคยมี เผยปี"54 มี 19 โครงการ มูลค่า 1 หมื่นกว่าล้านส่อแววล่าช้า ชี้มี 3 โปรเจ็กต์มีสิทธิ์สะดุด สายพัทลุง-ตรัง สายพิษณุโลก-หล่มสัก และชุมพร-ระนอง
นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แม้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 ที่ผ่านมาจะมี เป้าหมายลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้างถนนในพื้นที่อนุรักษ์และบริเวณใกล้เคียง หลังเกิดปัญหากรณีการขยายถนนในพื้นที่อุทยานเขาใหญ่ แต่ในความเห็นของตนมองว่ามติดังกล่าวน่าจะใช้เฉพาะกับถนนสายดังกล่าว ส่วนสายอื่น ๆ ควรจะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป จะใช้ถนนเขาใหญ่เป็นบรรทัดฐานไม่ได้ มิฉะนั้นจะกระทบการทำงานของกรม และทำให้หลาย ๆ โครงการล่าช้าไปอีก ที่สำคัญกรมใช้แนวทางก่อสร้างนี้มานานแล้ว และยึดข้อกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ มาตลอด
"หากทุกโครงการจะให้มีการฟื้นฟูสองข้างทางหลังสร้างเสร็จเหมือนกรณีของถนนเขาใหญ่ก็จะต้องตั้งงบประมาณส่วนนี้เพิ่ม เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีงบฯส่วนนี้ นอกจากงบฯบำรุงทางที่จะได้รับจัดสรรทุกปีอยู่แล้ว"
กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับถนนเขาใหญ่ทำให้กรมเป็นห่วงว่าหลายโครงการที่จะก่อสร้างในปีงบประมาณ 2554 จะมีปัญหาด้วย เพราะจากโครงการก่อสร้างถนนใน ปี 2554 ทั้งหมด 19 โครงการ ค่าก่อสร้างรวม 10,580 ล้านบาท มี 3 โครงการที่จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นโครงการเร่งรัดขยายทางจาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร คือ 1.ทางหลวงหมายเลข 4 สายพัทลุง-ตรัง (ช่วงเขาพับผ้า) ในพื้นที่อุทยานเขาปู่เขาย่า ระยะทาง 10 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 560 ล้านบาท 2.ทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-อ.หล่มสัก ตอน 2 ในพื้นที่เขตอุทยานทุ่งแสลงหลวง 75 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,360 ล้านบาท 3.ทางหลวงหมายเลข 4 สายชุมพร-ระนอง ตอน 1 อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 16 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 600 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายถนนหมายเลข 304 (กบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย) ซึ่งคาบเกี่ยวอุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบก่อสร้าง ช่วง ก.ม. 26-29 โดยต้องพิจารณาร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติจะก่อสร้างรูปแบบใดไม่ให้กระทบต่อการเชื่อมโยงผืนป่าบริเวณทับลานตามที่คณะกรรมการมรดกโลกต้องการ ซึ่งมี 5 ทางเลือก คือ 1.อุโมงค์ทางหลวงผ่านเขา 2.ทางยกระดับ 3.อุโมงค์ทางหลวงชนิดตัดดินแล้วถมกลับ 4.ทางเชื่อมต่อผืนป่าแบบผสมผสาน 5.ทางเชื่อมผืนป่าสำหรับสัตว์ข้ามทางหลวงเป็นแห่ง ๆ
"ส่วนช่วง ก.ม. 44-57 มีแผนจะขยายเป็น 4 ช่องจราจร ต้องหยุดโครงการก่อน รอการตัดสินใจจากกรมอุทยาน เมื่อกรมศึกษารูปแบบเสร็จจะส่งให้กรมอุทยานตัดสินใจ หากไม่เห็นด้วยก็คงต้องยกเลิกโครงการ"
สำหรับโครงการขยายถนนเขาใหญ่ ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างทำแผนฟื้นฟูร่วมกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชตามมติ ครม. และให้ผู้รับเหมาระงับการก่อสร้างไปก่อน
ในแผนจะดำเนินการฟื้นฟู เช่น ปลูกต้นไม้ขนาดกลางให้เต็มพื้นที่ โดยกำหนดรายละเอียดของชนิด ขนาดของต้นไม้ ตำแหน่งที่ปลูก ปลูกหญ้าแฝก ทำทางกัดเซาะในเขตทาง เป็นต้น ส่วนช่วงต่อขยายจาก ก.ม. 10-16 กรมได้ยกเลิกโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้มติ ครม.วันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา 6 ข้อ กรณีการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 2 ต่อเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 8.1 กิโลเมตร มีดังนี้
1.ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตัดต้นไม้ไหล่ทางบนถนนธนะรัชต์ ระหว่าง ก.ม.ที่ 2-10+100
2.ให้ ทส.จัดทำแผนฟื้นฟูระบบนิเวศ ช่วง ก.ม.ที่ 2-10+100
3.กำหนดให้พื้นที่โดยรอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และป่าอนุรักษ์ใกล้เคียงซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติให้เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 45 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 โดยให้ ทส.ทำการศึกษาและกำหนดมาตรการคุ้มครอง สิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาโดยด่วน
4.ให้ยุติการก่อสร้างส่วนต่อขยายจาก ก.ม.ที่ 10 -16 และให้นำต้นไม้ที่ตัดไปแล้วมาใช้ประโยชน์เฉพาะในอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่เท่านั้น 5.ให้ ทส.ไปพิจารณาระยะเวลาเกี่ยวกับการดำเนินการในการศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE)
6.สำหรับพื้นที่อื่นๆ ที่จะดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงทางหลวง เส้นทางลำลองและทางอื่นใดต่อไปในอนาคตให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 17-06-2553
|
|
|
|
|
