Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เมธา จันทร์แจ่มจรัส 1 ปี "ไมนด์แมป" มือปืนค่ายพฤกษาฯ |
|
สัมภาษณ์พิเศษ
เมธา จันทร์แจ่มจรัส ในวัย 45 ปี กับเส้นทางสายมือปืนรับจ้างวงการ อสังหาริมทรัพย์ ผู้บริหารวัยเริ่มหนุ่มใหญ่ที่เพิ่งจะตัดสินใจลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทมหาชน "แสนสิริ" มานั่งทำงานในระนาบเบอร์ 2 (ระนาบเดียวกันมี 5 คน) ของจัดสรรมหาชนอีกค่าย "พฤกษา เรียลเอสเตท" เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2552
เวลาผ่านพ้น 1 ขวบปีเศษ ๆ ได้เวลาที่ "ประชาชาติธุรกิจ" นัดสัมภาษณ์พิเศษ เพื่อรีเช็ก "ไมนด์แมป" ของเขาบนเส้นทางการเติบโตของค่ายพฤกษาฯ หรืออีกนัยหนึ่ง บนเส้นทางการเติบโตของอาชีพดีเวลอปเปอร์ของเขาเองด้วย เพราะตอนอยู่แสนสิริ พอร์ตในมือ มีมูลค่า 7 พันล้านบาท แต่วันนี้พฤกษา เรียลเอสเตท "ส่งมอบ" ความฝันที่ท้าทายด้วยเป้าภายใน 8 ปีจะเป็นบริษัทอสังหาฯแสนล้าน
- 1 ปีในบริษัทพฤกษาฯ
ช่วงแรกที่มองคือขยายธุรกิจในต่างประเทศ ผมดูแลตลาดอินเดีย มัลดีฟส์ กับมีอีกทีมที่ดูทางเวียดนาม ช่วงต้นปีทำสัญญา 2 เมืองที่มุมไบ เชนไน เดินหน้า ไปหมดแล้ว ช่วงนี้อยู่ในช่วงเริ่มที่จะมองหาที่ดินทำโครงการ ส่วนที่มัลดีฟส์เร็ว ๆ นี้ คงให้ข่าวเป็นทางการ เปิดตัวโครงการแรกตอนนี้เตรียมพร้อมพรีบุ๊กกิ้ง
ส่วนอื่น ๆ นอกเหนือจากตลาดต่างประเทศ คือ ดูคอร์ปอเรตมาร์เก็ตติ้ง "การตลาดองค์กร" ตอนต้นปีมีการทำ รีแบรนดิ้งพฤกษาฯเปิดตัวโลโก้ใหม่
- เนื้องานคอร์ปอเรตมาร์เก็ตติ้ง
สิ่งที่ต้องทำต่อด้วยสาเหตุที่การตลาด จะเป็นสายงาน SBU (Strategic Business Unit) แต่ละสายงานทำของตัวเอง ต้องเชื่อมโยงให้แต่ละแบรนด์เข้าสู่ภาพลักษณ์องค์กร เพราะถ้าต่างคนต่างทำจะไม่สะท้อนว่า "จุดร่วม" ของพฤกษาฯ ถามว่าอะไรบ้าง ซึ่งก็คือ 1.น่าเชื่อถือ 2.มีคุณภาพ 3.สิ่งที่เราสามารถดีลิเวอร์ให้ลูกค้าได้ตามเวลา ไม่มีดีเลย์ 4.ระดับการให้บริการ
แบรนดิ้งตัวใหม่จะเชื่อมโยงพฤกษาฯ ในอดีตคนจะมองว่าเก่งทางด้านก่อสร้าง เป็นบริษัทก่อสร้าง วิศวกร เรื่องการควบคุมต้นทุนต่ำ วันนี้ได้รับการถ่ายทอดและบ่งบอกออกมาว่า เป็นบริษัทชั้นนำ อินเตอร์ฯ มีเรื่องความพึงพอใจของลูกค้า น่าเชื่อถือ และเติบโตมั่นคงแข็งแรง
- ไมนด์แมปกับงานที่รับผิดชอบอยู่
ตอนเข้ามาร่วมงาน เรามองเรื่องความท้าทาย แนวทาง เราปักหมุดอินเดียตลาดใหญ่ ลักษณะพื้นฐานการทำดูเหมือนจะยากกว่าบ้านเรา การพัฒนาอสังหาฯ เขาล้าหลังกว่าบ้านเรา แต่ถามว่าอนาคตค่อนข้างจะมีศักยภาพมาก เราสามารถ นำจุดแข็งพฤกษาฯไปเติม จึงมองเป็นเรื่องโอกาส
กลยุทธ์ เนื่องจากเราชำนาญเรื่อง การพัฒนาโครงการ ระบบก่อสร้างสำเร็จรูป ตำแหน่งที่วางไว้ในอินเดีย 1.แข่งเรื่องคุณภาพ ดีลิเวอร์ในระยะเวลาที่เร็วกว่าดีเวลอปเปอร์ที่โน่น 2.เซ็กเมนต์ เรียลดีมานด์ ตลาดกลาง-กลางล่าง เราชำนาญสินค้า เทียบเท่ากับบ้านเราราคาบ้านเดี่ยวเรียลดีมานด์จะราคา 3-5 ล้าน ซึ่งจะลดการเก็งกำไรระดับบน จะทำโปรดักต์แนวราบก่อน ส่วนคอนโดฯ ถ้าจะเข้าจะดูที่เราถนัด
โพซิชันนิ่งบริษัท เราเองจะต้องเป็นที่ยอมรับภายใน 4 ปี เป็น One Of The Most Admire Company ภายใต้งบฯ 10 ล้านเหรียญ สิ่งที่อยากจะตั้งเป้าให้เขาเห็นแล้วชื่นชมบริษัทของเรา การลงทุนที่อินเดีย มีบังคาลอร์ เชนไน มุมไบ
ส่วนไมนด์แมปในประเทศ เรื่องของ ทีมที่จะสร้าง เพราะทีมผมทีมงานใหม่ แต่โปรดักต์เซ็กเมนต์ ดูเรื่องราคาจะทับทั้งทีมที่มีอยู่แล้วของพฤกษาฯ และในท้องตลาด สิ่งที่ต้องสร้างคือความแตกต่างกับตำแหน่งตลาด เซ็กเมนต์ที่จะวางคือ 1-2 ล้าน เพราะการพัฒนาที่อยู่ในเมือง เมืองใหญ่เรื่องข้อจำกัดราคาที่ดิน
ใครบอกว่า (คอนโดฯ) ล้นๆ...ล้นก็ชั่วคราว ยังไงดีมานด์ยังมี ยังไงก็โต ต่อเนื่อง ตลาด 1-2 ล้านกลุ่มเป้าหมายเริ่มทำงาน เริ่มเก็บเงิน เป็นเฟิรสต์ไทม์ โฮมบายเออร์ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างสนับสนุนเรื่องการซื้อคอนโดฯเป็นที่แรก จากเดิมมีประเพณีและความเชื่อว่า คนอยากได้ บ้านเดี่ยวก่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่
- เราจุดชนวนสงครามราคา ?
ตอนนี้ของ (โปรดักต์) เราทำไม่ทันขาย เรื่องดัมพ์ราคาไม่ต้องหรอก ซึ่งผู้บริโภค ได้ประโยชน์ ไม่มีใครเสียหาย ก็ขอให้ แข่งกันเถอะ
- ลูกเล่นทางการตลาด
ก็อาจจะมีแคมเปญที่เราไม่เคยทำ เช่น เบเนฟิตการ์ด เราคุยกับซัพพลายเออร์วัสดุตกแต่งบ้าน เรื่องโปรโมชั่นบางที่ตั้งราคาสูงเพื่อจะลดราคาเยอะ ทำให้ส่วนลดเราเหมือนให้น้อย เช่น แอร์ 1-2 เครื่อง แต่เน็ต ๆ แล้วของที่เราให้ตั้งราคาขาย ต่ำอยู่แล้ว
- ราคาขายต่ำอยู่แล้ว มีการปรับราคา ?
เรื่องปรับราคาสำหรับพฤกษาฯ ถ้า "ปรับลง" นะครับ เช่น ราคาเท่าเดิม แต่ได้สเป็กที่ดีขึ้นนะ สินค้าพฤกษาฯ ถ้าราคาเท่ากันจะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 10-15% แต่ถ้าพื้นที่เท่ากันจะได้ราคา ถูกกว่า 10-15% อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ
- ถ้ายอดขายบริษัท 1 แสนล้าน คนอื่น จะอยู่ยังไง
โครงสร้างการแข่งขันจะเปลี่ยน ช่วง 10 ปีที่แล้วรายใหญ่มาก มีรายเดียว (แลนด์ฯ) บริษัทอสังหาฯ ที่เหลือเกาะกลุ่มอันดับ 2 จำนวน 7-8 บริษัท แต่วันนี้ภาพก็เปลี่ยนแล้ว ทางเลือกผู้บริโภคมากขึ้น ของดีมีคุณภาพ ราคาไม่แพง เริ่มมีชอยซ์มากขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 14-06-2553
|
|
|
|
|