|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| คำสัญญา รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ ฟื้นเชื่อมั่น/แก้มาบตาพุด/ทบทวนเปิดเสรี รง.น้ำตาล |
|
การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 5 ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จำนวน 8 ตำแหน่ง หนึ่งในนั้นคือ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พร้อมกับให้สัมภาษณ์แนวนโยบายผลักดันโครงการสำคัญ ๆ เรื่องเร่งด่วน และการทบทวนการดำเนินการของกระทรวงอุตสาหกรรม ภายหลังการรับตำแหน่งใหม่
นายชัยวุฒิระบุว่า ภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการมี 4 เรื่องหลัก คือ 1) การเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนที่ กำลังจะเข้ามาลงทุน หลังเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง 2) เร่งแก้ปัญหาโครงการลงทุนในมาบตาพุด เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่สามารถเดินหน้าการลงทุนต่อไปได้ สร้างความเชื่อมั่นการลงทุนในอนาคต 3) เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีความยั่งยืนอยู่รอดได้อย่างถาวร และ 4) การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยให้เป็นระบบยั่งยืน ผู้ประกอบการอยู่ร่วมกับชุมชนได้ ไม่เน้นเฉพาะรายได้เพียงอย่างเดียว ต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ผู้ประกอบการ นักวิชาการ ชาวบ้าน พร้อมกับบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพจริงจังอย่างต่อเนื่อง ข้อบังคับดีอยู่แล้วแต่ต้องปฏิบัติให้ดีขึ้น
สำหรับยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนปี 2553 มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 500,000 ล้านบาท แม้การลงทุนช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาชะงักไปบ้างจากผลกระทบทางการเมือง ซึ่งจากที่ดูตัวเลขเบื้องต้นของยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนก็เกือบ 200,000 ล้านบาท โดยเห็นว่า การทำงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่นโยบายคือ ต้องให้ความมั่นใจและเป็นผู้นำในการทำงาน ซึ่งการที่บีโอไอขยายมาตรการ ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายจะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น เห็นได้จากปลายปีที่ผ่านมามียอดส่งเสริมการลงทุนสูงกว่าเป้าหมายจาก 400,000 ล้านบาท เป็น 720,000 ล้านบาท
ในส่วนของการขอขยายกำลังการผลิตและย้ายโรงงานน้ำตาล ที่มีในส่วนที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และที่ยังค้างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นพิจารณาใหม่ จะต้องพิจารณาถึงการทับซ้อนของพื้นที่ รวมถึงปัญหาการแย่งวัตถุดิบ และวางแผนที่ ที่ 47 โรงงานน้ำตาลเดิม และโรงงานใหม่จะยังคงระยะห่างของรัศมีตั้งโรงงานแต่ละแห่ง 80 กิโลเมตรหรือไม่ รวมถึงพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะมีการเปิดเสรีการตั้งโรงงานหรือไม่ เนื่องจากการเปิดให้โยกย้ายกำลังการผลิตมากถึง 11 โรง เท่ากับเป็นการเปิดเสรีซึ่งมองว่า อุตสาหกรรมอ้อยเป็นอุตสาหกรรมการเกษตรที่มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมามีการวางแผนเป็นอย่างดี แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามสถานการณ์ด้วย โดยจะนัดหารือกับนายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) อีกครั้งหนึ่ง
ด้านโครงการเหล็กต้นน้ำมองว่าเป็นโครงการที่ดี เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องต่าง ๆ มีนโยบายที่จะเดินหน้าต่อ แต่ตอนนี้ติดอยู่ที่สถานที่ ซึ่งต้องลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้ได้เสียก่อน ส่วนเรื่องโควตาน้ำตาลพิเศษ 1 ล้านกระสอบที่กระทรวงพาณิชย์ขอไปจัดสรรนั้นต้องมาดูว่าก่อประโยชน์ต่อประชาชนได้จริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายชัยวุฒิยอมรับว่า รู้สึกหนักใจเสมอกับการทำงานในตำแหน่งใหม่ แต่พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่มี และขอความร่วมมือจากข้าราชการให้จริงจัง จริงใจ ซื่อสัตย์สุจริตในการทำงาน ในสัปดาห์หน้าจะเริ่มทยอยออกไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานในสังกัด เพื่อมอบหมายนโยบายต่อไป และจะเชิญนายสรยุทธ์ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม มาให้ข้อมูลการดำเนินการของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ผ่านมา ร่วมถึงปัญหามาบตาพุดที่นายสรยุทธ์ดูแลอยู่ สำหรับการแต่งตั้งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรมคนใหม่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-06-2553
|
|
|
|
|
