| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 101 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 07-06-2553    อ่าน 11089
 BOSCH เล็งเป้าผู้นำอาเซียน ชูธง "เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ" กรุยทาง

BOSCH แบรนด์สินค้าเทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศเยอรมนีที่มีอายุยาวนานถึง 124 ปี มีบริษัทในเครือทั่วโลกรวมกว่า 300 บริษัท กำลังไล่ล่าเป้าหมายยอดขายในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือมียอดขายรวมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 42,000 ล้านยูโร

สำหรับ ประเทศไทย แบรนด์ "BOSCH" เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเข้ามารุกตลาด ครั้งแรกเมื่อปี 2534 มีผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่มหลัก คือ 1) เครื่องมือไฟฟ้า 2) อะไหล่ยานยนต์ 3) ระบบรักษาความปลอดภัย และ 4) บรรจุภัณฑ์ โดยก่อนหน้านี้ในงาน แสดงสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง "สถาปนิก"53" บ๊อชได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่คือเครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์มาเปิดตัวเป็นครั้งแรก

ล่า สุด BOSCH ได้จัดทริปสื่อมวลชนจากประเทศแถบอาเซียนและเอเชียบินลัดฟ้าเยือนเมือง เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ร่วมงานแถลงข่าวที่ถือเป็นบิ๊กอีเวนต์ของบริษัท โดยข้อมูลส่วนใหญ่บ๊อชให้น้ำหนักกับการเปิดเกมรุกตลาด "เครื่องมือไฟฟ้า" (power tool) และแนวทางขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ความรับผิดชอบของ "ดร.เคลาส์ ธูนิก" ผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องมือไฟฟ้าบ๊อชประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า "บ๊อช" เป็นผู้นำตลาดเครื่องมือไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีส่วนแบ่งตลาดติด 1 ใน 3 อันดับแรกทุกประเทศ โดยประเทศไทยบ๊อชก็มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจากแบรนด์ MAKTEC และ MAKITA จากญี่ปุ่น

มอตโต้ "เทคโนโลยีเพื่อชีวิต"

บ๊อช ระบุว่าในแต่ละปีบริษัทใช้งบฯ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 8% ของรายได้รวม โดยในภูมิภาคอาเซียนมีศูนย์กลาง การอาร์แอนด์ดีตั้งอยู่ใน 3 ประเทศ คือ จีน อินเดีย และมาเลเซีย ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ที่เป็น "นวัตกรรม" ออกสู่ตลาดเฉลี่ยปีละกว่า 100 รายการ

จากนโยบายบริษัทที่ ต้องพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับการลอกเลียนแบบสินค้า ส่งผลให้ ปี 2552 ที่ผ่านมา บ๊อชมีสัดส่วนยอดขายที่มาจากสินค้าใหม่ 37% เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ที่มีสัดส่วน 14% อย่างไรก็ตาม ภายใต้ สโลแกน Invented For Life (เทคโนโลยีเพื่อชีวิต) บ๊อชได้ใส่เรื่องการพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเข้าไปด้วย

นโยบายดังกล่าว สะท้อนจากการพัฒนาเทคโนโลยี "แบตเตอรี่" มาเป็นแบบ "ลิเทียมอิออน" ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ ข้อดีคือสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยสารโซเดียมไดออกไซด์ซึ่งเป็นอันตรายต่อ สุขภาพได้ 40% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่รุ่นเก่าประเภทนิกเกิลแคดเมียม และยังสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นเฉลี่ย 40% ต่อการชาร์จไฟแต่ละครั้ง

ซื้อ ผลิตภัณฑ์แถม "ประกันภัย"

การชูเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและ สุขภาพยังรวมถึงการพัฒนาระบบ "ลดแรงสั่นสะเทือน" มาใช้กับผลิตภัณฑ์สว่านไฟฟ้า เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อระยะเวลาการทำงาน ประกอบกับในยุโรปมีการออกหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมมาตรฐานแรงสั่นสะเทือนใน อุปกรณ์ต่าง ๆ

ส่วนการขยายตลาดในประเทศไทย ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2553 บ๊อชจะเปิดตัวแคมเปญ "Health & Safety" โดยแถม "ประกันอุบัติเหตุ" ให้กับลูกค้าฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี (นับจากวันลงทะเบียนรับสิทธิ์) เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องมือไฟฟ้า ที่ร่วมแคมเปญจำนวนประมาณ 17-18 รายการ จากทั้งหมดกว่า 70 รายการ อาทิ เครื่องเจียนขนาดใหญ่ สว่านโรตารี่สำหรับเจาะคอนกรีต ฯลฯ ล่าสุดบ๊อช อยู่ระหว่างการหารือกับบริษัทที่จะเข้ามา รับทำประกันภัย

ยอด ขายไทย "โตเหนือเป้าหมาย"

ข้อมูลจากบ๊อชระบุด้วยว่า สถานการณ์ยอดขายสินค้ากลุ่มเครื่องมือไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนช่วง 4-5 เดือนแรกที่ผ่านมา ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากภูมิภาคนี้มีการฟื้นตัว จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้รวดเร็วกว่า ส่วนตลาดในประเทศไทยสามารถทำยอดขายได้เติบโตสูงกว่าเป้าหมาย

อย่าง ไรก็ตาม เริ่มมีสัญญาณว่า ยอดขายตามร้านดีลเลอร์ต่าง ๆ ในช่วงเดือนพฤษภาคมเริ่มชะลอตัวลงบ้างหลังจากเหตุการณ์จลาจล จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องมีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อส่งเสริมการขาย ในรูปแบบการออกบูท "โรดโชว์" ตามร้านดีลเลอร์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 07-06-2553 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.