|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| โร ดแมปผู้ว่าการน้ำฯ เจริญ ภัสระ อัพเกรดระบบจ่ายน้ำ-มุ่งสร้างรายได้เสริม |
|
เพิ่งผลัดใบเข้าสู่ยุคการบริหารงานของ "เจริญ ภัสระ" ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) คนใหม่ ที่เข้ามารับช่วงต่อจาก "เจริญ ชัยกิตติศิลป์" ที่เกษียณอายุไป นอกเหนือจากงาน เบื้องหน้าที่ต้องดูแลรับผิดชอบผู้ใช้น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการกว่า 1.9 ล้านรายแล้ว กปน.ยังมีงานเบื้องหลังต้องเดินหน้าขับเคลื่อน "แผนยุทธศาสตร์" การลงทุนพัฒนาระบบจ่าย น้ำประปา และหาช่องทางสร้างรายได้เสริม เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโต
โดยผู้ว่าการ กปน.คนใหม่ได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานตาม "แผนยุทธศาสตร์ ฉบับที่ 2" ที่ให้ความสำคัญ ใน 4 มิติ เริ่มจาก 1) การเงิน 2) ลูกค้า 3) กระบวนการภายใน 4) การพัฒนาองค์กร ขณะเดียวกัน ปีนี้ได้เพิ่มมิติที่ 5 คือเรื่องธรรมาภิบาลและซีเอสอาร์ (ความรับผิดชอบต่อสังคม) เช่น โครงการประปา 1 สาขา 1 โรงเรียน การดูแลน้ำประปา ให้สามารถดื่มได้ โครงการมอบเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียน ฯลฯ
ภาย ใต้แผนยุทธศาสตร์ ฉบับที่ 2 ของการประปานครหลวง หากโฟกัสในมิติ "การเงิน" และ "ลูกค้า" สำหรับมิติการเงินเป้าหมาย กปน.ในปีนี้คือการรักษาผลการดำเนินงานในแง่ "กำไร" ให้อยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมาที่ 4,500 ล้านบาท
โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 (1 ตุลาคม 2552-30 เมษายน 2553) ถือว่าทำได้เกินเป้าหมาย เพราะมีกำไรสุทธิ 3,781 ล้านบาท จากรายได้รวม 9,986 ล้านบาท เป็นผลมาจากการลดค่าใช้จ่าย และได้กำไรจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เมื่อนำไปชำระเงินกู้ต่างประเทศ
อย่าง ไรก็ตาม นอกจากรายได้จากการขายน้ำประปาแล้ว ปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ กปน.เริ่มมีรายได้เสริมจากช่องทางอื่น คือการรับวางท่อประปาตามหมู่บ้านจัดสรร การรับดูแลท่อประปาเก่าในอาคารหน่วยงานราชการ และการจัดฝึกอบรมเรื่องประปาให้กับหน่วยงานท้องถิ่น (อบจ. อบต. เทศบาล) นับจากเดือนตุลาคม 2552-เมษายน 2553 ที่ผ่านมา กปน. มีรายได้เสริมส่วนนี้แล้ว 290 ล้านบาท
หนึ่งในภารกิจที่ตั้งธงไว้ คือการลด อัตราสูญเสียจากการรั่วซึมระหว่างการจ่ายน้ำประปา เป้าหมายคือภายในปี 2560 จะต้องลดอัตราสูญเสียเหลือ 25% จากปัจจุบัน 26.5% หรือคิดเป็นปริมาณน้ำที่สูญเสียต่อวัน 1.3 ล้านคิว
โดยอยู่ ระหว่างการดำเนินงานตาม "โครงการปรับปรุงกิจการประปา" แยกเป็น 1) "แผนหลัก ครั้งที่ 7/1" การปรับปรุงอุโมงค์ส่งน้ำ และ 2) "แผนหลัก ครั้งที่ 8" การเพิ่มกำลังผลิตน้ำและเพิ่มพื้นที่บริการน้ำประปา ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ
โดยแผน 7/1 เป็นการปรับปรุงอุโมงค์ส่งน้ำเดิมที่เสื่อมสภาพ จากท่อผิวคอนกรีตเป็นท่อเหล็ก แนวการปรับปรุงท่อคือจากสามเสน-สี่พระยา และสี่พระยา-วงเวียนใหญ่ ใช้งบฯลงทุนกว่า 600 ล้านบาท
ส่วนแผน 8 เกี่ยวข้องกับการขยาย กำลังผลิต ประกอบด้วยการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำ (ขยายถังตกตะกอน) ที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์อีก 4 แสนคิว การลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำโรงงานบางเขนอีก 4 แสนคิว ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างข้อกำหนดทีโออาร์เพื่อเตรียมเปิดประมูล โดยดำเนินการเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ในปี 2554 และการลงทุนขยายถังพักสำหรับสำรองน้ำที่โรงสูบ 2 แห่ง ที่เพชรเกษมอีก 4 หมื่นคิว และราษฎร์บูรณะ 1 หมื่นคิว
ส่วนการเพิ่มพื้นที่บริการ น้ำประปา ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่จ่ายน้ำในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการอีก 2% ที่ยังไม่มีน้ำประปาใช้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ กปน.ได้ทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับ กทม. ให้ช่วยสนับสนุนงบฯ วางท่อ 50% หรือ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการวางท่อประปาในเขตพื้นที่มีนบุรี คลองสามวา ส่วนอนาคตเตรียมขยายให้ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งธนบุรี และจังหวัดนนทบุรีบางส่วน เช่น ทุ่งครุ บางขุนเทียน พุทธมณฑล ริมคลองบางกอกน้อย บางกรวย ไทรน้อย ฯลฯ
เป้าหมายคือภายในปี 2556 คนกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ต้องมีน้ำประปาเข้าถึงเต็ม 100%
ล่าสุด กปน.ยังอยู่ระหว่างจัดทำ "แผน 9" และ "แผน 10" ซึ่งจะเป็นแผนปฏิบัติงานไปจนถึงปี 2570 โดยให้ความสำคัญกับทิศทางการขยายตัว ของเมือง การมองหาแหล่งน้ำดิบแห่งที่ 3 สำหรับผลิตน้ำประปา
เพื่อเป็นการยืน ยันว่าผู้อยู่อาศัยใน กทม.และปริมณฑลจะไม่เดือดร้อนเรื่องการใช้น้ำแน่นอน |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 07-06-2553
|
|
|
|
|
