| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 134 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 17-05-2553    อ่าน 11799
 เล็ก พริกขี้หนู เจนนิสา คูวินิชกุล ทายาทพันล้าน ''เอ็ม ที อลูเม็ท''

สัมภาษณ์

เอ่ยถึง อุตสาหกรรมหนัก หลายคน มักคิดว่า ซีอีโอ มักเป็นผู้ชายวัยเคร่งขรึม เพศหญิงที่ดูบอบบาง อ่อนโยน คงรับไม่ไหว และทำไม่ได้ เมื่อธุรกิจต้องเจอกับ "แรงกดดัน"

วันนี้ "ประชาชาติธุรกิจ" ขอลบภาพความคิดเก่า ๆ เพื่อร่วมเปิด "มุมมอง" กับทายาทธุรกิจ "MT ALUMET" บริษัท ผู้ผลิตอะลูมิเนียมชั้นนำของประเทศไทย เธอมีชื่อว่า "เจนนิสา คูวินิชกุล"

สาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ดูสดใส วัย 29 ปี คนนี้ โปรไฟล์ไม่ธรรมดา เพราะเธอจบด้านบริหารธุรกิจ จาก Harvard Business School ที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา และเป็นศิษย์เก่า จุฬาฯ จบเมื่อปี 2544 เธอเลือกเรียนแต่บริหารธุรกิจมาตลอด เพราะใจรัก และต้องการปูฐานความรู้สำหรับการสืบทอดธุรกิจของครอบครัว

ปัจจุบัน "เจนนิสา" นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอ็ม ที อลูเม็ท จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2535 ธุรกิจที่เธอ ดูแล เป็นอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมที่นำมาอัดขึ้นรูป ถือเป็นวัสดุที่กำลังมาแรง เพราะ สวยและน้ำหนักเบา เป็นที่นิยมของตลาด บ้านจัดสรร และตกแต่งภายใน ที่ต้องการใช้โครงสร้างใหม่ ๆ แบบคิดนอกกรอบ

"จริง ๆ แล้ว ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่า เกือบทุกมิติของการใช้ชีวิตในบ้านและ นอกบ้าน ทุกคนคือลูกค้าของแจน (ชื่อเล่นเธอ) เพราะอะลูมิเนียมเกี่ยวข้อง ไปหมด ทั้งตัวบ้าน การตกแต่ง แผ่นระบายความร้อนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ และเครื่องบิน รวมถึงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมอีกหลายรูปแบบ โดยมีโรงงานของเราเอง ตั้งอยู่ที่ย่านบางนา-ตราด"

ราคาซื้อขายวัสดุ "ต้นน้ำ" ประเภทนี้ เจนนิสาบอกว่า "ในวงการจะคิดเป็น "ตัน" โดย 1 ตัน เท่ากับ 1,000 กิโลกรัม ปัจจุบันราคาซื้อขายจะอยู่ที่ 2,400 เหรียญสหรัฐ ถือเป็นราคาขาขึ้นของอะลูมิเนียม แม้ที่ผ่านมาจะเกิดภาวะตลาดผันผวนตามวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง แต่แนวโน้มแล้ว ถือว่าเป็นธุรกิจมีอนาคต"

ดังนั้น เธอจึงไม่พลาดโอกาสที่จะขอ โชว์ฟอร์มความเป็น MT ALUMET ในรูปแบบใหม่ ๆ โดยเธอได้ออกบูทงานสถานิก"53 ที่ผ่านมา

"แจนอยากคิด ต่าง และอยากหาอะไรใหม่ ๆ มาเติมเต็มให้กับวงการวัสดุบ้านเรา อยากให้บ้านเมืองเราสวยเหมือนเมืองนอก ในเมื่อแจนมีธุรกิจนี้ในมือแล้ว ก็ยอมรับ นะคะ ว่าตอนนี้อยากเพิ่มขีดความสามารถไปสู่อุตสาหกรรมที่หลากหลาย คิดว่าถึงเวลาแล้วค่ะ เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว บริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่องรีดอะลูมิเนียม กำลัง 1,800 ตัน และยังสร้างโรงงานพ่นเคลือบอีก ฉะนั้น เราต้องพยายามขยายตลาด ให้มากที่สุดทั้งในและนอกประเทศ"

ปีนี้ เธอจึงตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 10-15% ด้วยฐานบิลลิ่งต่อปี ประมาณพันล้านบาท และวางเป้าหมายไว้ว่า "เอ็ม ที อลูเม็ท" จะต้องรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้อย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับการดูแลเอาใส่ใจพนักงาน องค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ๆ เพื่อให้ทุกมิติก้าวเติบโตไปพร้อมกัน

สิ่งที่เจนนิสาปรารถนาและคาด หวังมาก คือการขยายธุรกิจในรูปแบบที่สร้างสรรค์ หรือการแตกตัวสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง และรองรับตลาดในอนาคต อาทิ การตั้งบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์หน้าตาสวยงาม น้ำหนักเบา มาป้อนตลาดเฉพาะ เนื่องจากเมืองไทยกำลังพัฒนาสู่ความเป็น Creative Economy หรือระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การจะพัฒนาสินค้าใหม่สักชิ้น สินค้านั้นต้องดูดีและโดดเด่น ในเรื่องของการใช้งาน เช่นเดียวกับ เฟอร์นิเจอร์เมืองนอกที่ไม่ใช่แค่สวย อย่างเดียว แต่ต้องนั่งสบายด้วย

"ที่ เราเปิดบูทงานสถาปนิก เพราะเราอยากโชว์นวัตกรรมอะลูเนียม และถ่ายทอดแรงบันดาลใจในการออกแบบที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเน้นคอนเซ็ปต์แบบใหม่ ๆ ที่สะท้อนถึงการใช้วัสดุ ประเภทนี้ ผ่านงานออกแบบ สรรค์สร้างอาคาร และทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ก็ได้ตามจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด"

ฉะนั้น ปีนี้เธอเลยขอระเบิดไอเดียเป็นครั้งแรก ด้วยบูทอะลูมิเนียมที่สร้างสูงถึง 8 เมตร ดูสะดุดตา บอกถึงความล้ำสมัยของวัสดุที่ใช้ ว่าเป็น "วัสดุแห่งอนาคต"

ทั้งยังสร้าง "กิมมิก" ดึงดูดผู้คน ด้วยการทำโครงสร้างบูทให้เป็นรูป "โลโก้" ของ MT ALUMET ที่ดูเรียบหรูและไฮเทค สร้างความต่างในงานได้สมใจเธอ !

นอกจากนี้ ทายาทพันล้านยังสรรหา สิ่งใหม่ที่อินเทรนด์ไปกับยุคลดโลกร้อน ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ "สี" ที่ต้องการใช้ทาทาบวัสดุอะลูมิเนียม โดยมีสีให้เลือกถึงล้านสี และเป็นอะลูมิเนียมที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100%

ถามถึงชั่วโมงบินและชั่วโมงการทำงาน เจนนิสาตอบทันทีว่า "แจนบ้างานค่ะ ทำงานได้เยอะ มีพลังมาก และชอบทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียว ปกติไม่ได้แต่งตัวสวยแบบนี้ทุกวันนะคะ บางวันก็สวมบทเป็นสาวโรงงาน แต่งตัวลุย ๆ เพราะต้องขลุกอยู่ในโรงงานด้วย ตอนนี้กำลังเซตระบบอยู่ เติมโน่นนิด เพิ่มนี่หน่อย คิดว่าอีกไม่นาน ธุรกิจคงเข้าที่ค่ะ"

"ส่วน ชั่วโมงบินนั้น ก่อนมาช่วยงานที่บ้าน แจนเคยทำงานที่บริษัท เกล็นคอร์ และซิตี้กรุ๊ป ในฮ่องกงมาก่อน จากนั้นก็ไปทำที่บริษัท แม็คคินซี แอนด์ คอมพานี ในสิงคโปร์ ส่วนตัวคิดว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิตที่ดีมาก ๆ ได้เรียนรู้ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจที่ปรึกษา เรียนรู้ทั้งเรื่องคน วัฒนธรรม รู้ถึงกระบวนการคิด และการตัดสินใจ ว่าต้องทำยังไง เปรียบแล้วก็เหมือนตอนที่เรียนอยู่ Harvard ซึ่งเป็น อีกหนึ่งประสบการณ์ที่แจนจะไม่ลืมเลยค่ะ"

จากผลพวงของเส้นทางการ ศึกษาและการทำงาน ทำให้ "เจนนิสา" พูดได้ถึง 5 ภาษา คือไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น จีนกลาง และจีนกวางตุ้ง

ก่อนจากกัน สาวคนรุ่นใหม่เล่าให้ฟังว่า "ครั้งหนึ่งเคยมีลูกค้าฝรั่งมาติดต่อเรื่องงาน แถมพูดจาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเราเป็นเจ้าของ มีอำนาจการตัดสินใจ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เพราะเขาเห็นแจนเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่งตัวธรรมดา ๆ แต่เขาถามอะไรมา แจนตอบได้หมด จนเขาถามว่า เราเรียนจบที่ไหน แจนก็บอกว่า Harvard Business School เท่านั้นแหละ ฝรั่งนิ่งเงียบไป 5 วินาที" เธอเล่าด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ

วัน นั้น เธอเลยปิดดีลกับลูกค้ารายนี้ได้เร็วเกินคาด !
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ  ] วันที่ 17-05-2553 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.