|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| วิรัช เตรียมพงศ์พันธ์ ชู ''Co Living-Co Housing'' โมเดลนำร่องสถาบันอาศรมศิลป์ |
|
สัมภาษณ์
ปี 2552 สถาบันอาศรมศิลป์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยการเปิดโมเดลนำร่องโครงการที่อยู่อาศัยทางเลือกใหม่ ภายใต้โครงการ "บ้านเดียวกัน (Co Living+Co Housing)" โดยสถาบันเป็นผู้ให้คำปรึกษาและดำเนินการอย่างมีส่วนร่วมแบบองค์รวม ทั้งจัดหาที่ดิน การตั้งเป้าหมายชุมชน การออกแบบ และจัดหาแหล่งทุนในการก่อสร้าง
ล่าสุดสถาบันอาศรมศิลป์ได้ต่อยอด แนวคิดโครงการบ้านเดียวกันโดยโฟกัส กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในเมือง โดยลอนช์คอนโดมิเนียม 2 โครงการ ในทำเลลาดพร้าว 15 และ 29 ตอบสนองความต้องการของตลาด ในชื่อ "The Co Housing @ ลาดพร้าว" อวดโฉมครั้งแรกในงานสถาปนิก"53
"วิรัช เตรียมพงศ์พันธ์" ผู้อำนวยการโครงการชุมชน อาศรมสถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม สถาบันอาศรมศิลป์ ในเครือโรงเรียนรุ่งอรุณ เล่าถึงที่มาและแผนงาน
"ไอ เดียการพัฒนาคอนโดฯในรูปแบบการมีส่วนร่วม หรือ Co Housing ถือเป็นการเสนอแนวคิดการอยู่อาศัยแบบ มีส่วนร่วมที่ต่อยอดมาจากโปรเจ็กต์แรก ที่เราพัฒนาเป็นโครงการแนวราบชื่อโครงการบ้านเดียวกัน เป้าหมายหลัก ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง และนิยม อยู่อาศัยในคอนโดฯไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบเวิร์กฮาร์ดเพลย์ฮาร์ด"
ปี นี้สถาบันอาศรมศิลป์จึงต้องการขยายแนวคิดนี้ไปในวงกว้างมากขึ้น โดยดำเนินการผ่าน 2 ทางเลือก คือ 1.พัฒนาโครงการแนวราบย่านชานเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างการมองหาที่ดิน และ 2.พัฒนา ที่อยู่อาศัยในแนวตั้ง ตามความต้องการ ของคนกรุงเทพฯยุคใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในคอนโดฯ อยู่ใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า
"หากสามารถพัฒนาที่อยู่ อาศัยตอบสนองคนกลุ่มนี้ได้ ก็จะทำให้แนวคิดการ อยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกันขยายวงกว้างมากขึ้น จะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งในตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน"
สำหรับ "The Co Housing" โปรเจ็กต์ต้นแบบ ขณะนี้สถาบันอาศรมศิลป์ในฐานะที่ปรึกษาโครงการได้เลือกที่ดินไว้แล้ว 2 แปลง แปลงแรกอยู่ในซอยลาดพร้าว 15 เนื้อที่ 153 ตร.ว. ส่วนแปลงที่ 2 อยู่ในทำเลลาดพร้าว 29 เนื้อที่ 103 ตร.ว.ทั้ง 2 โครงการจะพัฒนาเป็นอาคารสูง 6 ชั้น จำนวน 16-20 ยูนิต หรือ 4 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 30-60 ตร.ม. จุดเด่นคือเป็นโครงการขนาดเล็กมีจำนวนยูนิตน้อย ลดปัญหาเรื่องความไม่แออัด ขณะเดียวกันเมื่อจำนวนคนน้อยจะทำให้สามารถสร้างสัมพันธ์กันได้ง่ายขึ้น ราคาขายยูนิตละประมาณ 2.7 ล้านบาท
ในการพัฒนาโครงการมี 2 ทางเลือก แนวทางแรก รูปแบบการจัดการเบื้องต้น สถาบันรับเป็นที่ปรึกษาโครงการและผู้ประสานงาน ส่วนผู้พัฒนาโครงการ คือ บริษัท แปลน เอสเตท จำกัด วิธีการนี้มูลค่าโครงการจะอยู่ที่ 64 ล้านบาท อีกแนวทางหนึ่งเพื่อให้โครงการมีมูลค่าและราคาต่อตารางเมตรลดลง สถาบันจะเข้ามาช่วยในฐานะเป็นแค่ผู้ออกแบบและผู้บริหารโครงการ แต่ให้ผู้ที่สนใจรวมกลุ่มแล้วดำเนินการก่อสร้างเอง ซึ่งจะตัดกำไรในส่วนของดีเวลอปเปอร์ออกไป มีเพียง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการทำงานของสถาบัน จะช่วยให้ราคาขายต่อหน่วยของโครงการลดลง มูลค่าการลงทุนจะอยู่ที่ 50 ล้านบาท
"อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการนำร่องเราคงต้องเป็นผู้พัฒนาเอง เพื่อจะได้ดูความเป็นไปได้ว่าสังคมจะตอบรับหรือไม่ ส่วนในระยะยาวคงต้องทำในรูปขององค์กร อาจเป็นองค์กรส่วนหนึ่งของสถาบันอาศรมศิลป์ เพื่อให้มีความคล่องตัว แต่ในเบื้องต้นจะทำในนามสถาบันอาศรมศิลป์ก่อน"
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้จริง ก็ต้องมีแหล่งเงินกู้สนับสนุน ซึ่งขณะนี้ธนาคารธนชาตเสนอตัวให้การสนับสนุนเรียบร้อยแล้ว โดยใช้วิธีให้ผู้ร่วมโครงการค้ำประกันกันเองได้
"ไอเดียนี้เพิ่งจะ เปิดตัวในงานสถาปนิก"53 กรณีที่เราเป็นผู้ดำเนินการ ให้แล้วให้ผู้สนใจเป็นผู้พัฒนาโครงการเอง จะต้องจัดตั้งกลุ่มแล้วมาทำงานร่วมกันด้วยกับสถาบัน ทั้งหมดนี้สามารถเริ่มดำเนินการได้เลยเพราะตอนนี้ที่ดิน โปรดักต์ และสถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุนมีความพร้อมอยู่แล้ว เหลือเพียงให้ผู้สนใจในแนวคิดนี้เข้ามาร่วมในโครงการกับเราเท่านั้น" |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-05-2553
|
|
|
|
|
