|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สำรวจ ผลกระทบ ธุรกิจรับสร้างบ้าน ม็อบการเมืองฉุดลูกค้า เลื่อนจอง-เซ็นสัญญา |
|
กว่า 1 เดือนที่ม็อบเสื้อแดงเคลื่อนพลมาปักหลักในย่านใจกลางเมืองท่ามกลาง ความคาดหวังของนักธุรกิจที่อยากเห็นการชุมนุมยุติลงโดยเร็ว
เพราะนับ จากเดือนเมษายนที่ผ่านมา แทบทุกธุรกิจเริ่มออกมายอมรับว่าได้รับ ผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงธุรกิจรับสร้างบ้าน ล่าสุด "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการรับสร้างบ้านถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าในขณะนี้
เริ่มจาก "วิบูล จันทรดิลกรัตน์" อ็มดี "สหสุธา" นายกสมาคมธุรกิจ รับสร้างบ้านระบุว่า ที่ผ่านมาเริ่มมีลูกค้า บางรายที่ต้องการปลูกสร้างบ้านราคา ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ขอชะลอออกไป อาจเป็นเพราะลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ต้องขอสินเชื่อจากแบงก์ เมื่อสถานการณ์ไม่ดีจึงเกิดความวิตกกังวลเป็นผลให้คาดการณ์ว่าตัวเลขยอดขาย ในช่วงไตรมาส 2 อาจจะ ไม่ดีนัก เนื่องจากกำลังซื้อน่าจะซึม ๆ ไประยะหนึ่ง
ส่วน "สุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ" เอ็มดีบริษัทรับสร้างบ้านหรู "ดิเอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์" ระบุว่า บรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้มีความสำคัญกับการตัดสินใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมามีลูกค้าเริ่มแสดง ความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางรายวางเงินจองแล้ว แต่พอจะต้องเซ็นสัญญา ก็ขอรอดูเหตุการณ์อีกพักหนึ่ง
อาจเป็นเพราะลูกค้าดิเอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ทุกรายมีบ้านของตัวเองอยู่แล้ว เมื่อเกิดความไม่มั่นใจก็ขอชะลอออกไปก่อน ทำให้บริษัทเป็นกังวลว่าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อาจส่งผลกระทบให้ภาค ธุรกิจ โดยรวมลดการใช้งบฯจัดกิจกรรมการตลาดเพราะไม่มั่นใจว่าจะได้ผลหรือไม่
สอด คล้องกับ "ปราโมทย์ ธีรกุล" เอ็มดี "โฟร์พัฒนา" ที่จับกลุ่มลูกค้า ปลูกสร้างบ้านระดับบน ระบุตรงกันว่า สถานการณ์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เหมือนเจอ "สองเด้ง" เพราะตามปกติ ในเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีวันหยุดเยอะอยู่แล้ว ปีนี้มาเจอสถานการณ์ซ้ำเรื่องผลกระทบที่ได้รับจากการชุมนุมเพิ่มขึ้นอีก
ทั้ง นี้ ลูกค้าโฟร์พัฒนาแยกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือกลุ่มที่ต้องการปลูกสร้างบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท ถือว่าตลาดนิ่งมาก จากปกติมีปริมาณลูกค้าใหม่ที่ติดต่อสอบถามเข้ามาทางโทรศัพท์ (traffic phone) เฉลี่ยเดือนละ 15-30 ราย ปรากฏว่าเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีปริมาณลูกค้าติดต่อเข้ามาไม่ถึง 10 ราย
และยังพบว่ามีลูกค้าที่ ถึงกำหนดจะต้องเซ็นสัญญาจำนวน 4 ใน 20 ราย หรือ 20% ได้ขอชะลอออกไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนอีกกลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มที่ปลูกสร้างบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป พบว่าถ้าลูกค้า อยู่ระหว่างการติดต่อ ก็มีท่าทีไม่รีบร้อนสรุปรายละเอียด
ด้าน "พันธุ์เทพ ทานชิติกุล" เอ็มดี "เมคเคอร์โฮม" ระบุว่า บรรยากาศที่เกิดขึ้นขณะนี้ถือว่าไม่ดีนัก โดยกลุ่มลูกค้าที่อยู่ระหว่างการพูดคุยพบว่าไม่ค่อยติดต่อเข้ามาถี่เหมือน เดิม ส่วนลูกค้าใหม่ไม่ต้องพูดถึง เพราะในขณะนี้ถือว่าไม่มีติดต่อเข้ามาเลย
อย่าง ไรก็ตามเชื่อว่ากลุ่มที่ต้องการ ปลูกสร้างบ้านระดับราคา 7-10 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มีความพร้อมในเรื่องการเงิน หากมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจก็อาจช่วยกระตุ้นให้ตัดสินใจจองสร้างบ้านในช่วงนี้ ได้
สุดท้าย "ศุภิชชา ชัยพิพัฒน" ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรับสร้างบ้าน "ซีคอน" และ "คอมแพคโฮม" ระบุว่า สำหรับกลุ่มลูกค้า ซีคอนที่ต้องการปลูกสร้างบ้านราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป มีประมาณ 4-5 รายจากทั้งหมดที่ขอเลื่อนการเซ็นสัญญาออกไป หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ส่วนลูกค้าคอมแพคโฮม ที่เป็นบ้านราคาไม่เกินกว่า 2 ล้านบาท เมื่อถึงกำหนดยังคงมาเซ็นสัญญาตามปกติ
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยัง ส่งผลกระทบถึงการวางแผนจัดกิจกรรมการตลาดในช่วงนี้ โดยก่อนหน้านี้บริษัทกำหนดจัดกิจกรรมพาลูกค้าเยี่ยมชมโรงงานผลิต ชิ้นส่วน (เสา-คาน) สำเร็จรูปสำหรับก่อสร้างบ้าน สุดท้ายก็ต้องเลื่อนออกไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
เพราะการ จัดกิจกรรมการตลาดในช่วงนี้ไม่ว่าใครก็ต้องคิดหนักและวางแผนเยอะขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-05-2553
|
|
|
|
|
