| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 131 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 06-05-2553    อ่าน 11358
 สื่อ สารความไว้ใจลูกค้า เคล็ด (ไม่) ลับ "สุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ" สร้างแบรนด์ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์

คอลัมน์ Home Builder Interview




ถือเป็น หนึ่งในบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความชัดเจนในการจับกลุ่มลูกค้ามากที่สุดราย หนึ่ง สำหรับบริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด ที่เลือกโฟกัสเฉพาะลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างบ้านระดับไฮเอนด์ไปจนถึง ซูเปอร์ไฮเอนด์ ซึ่งมีราคาหลังละ 100 ล้านบาท

โดยหนึ่งในผลงานที่ ช่วยสร้างชื่อ คือบ้านสไตล์คลาสสิก ราคา 217 ล้านบาท ที่ผ่านสายตาในละครเรื่องทัดดาวบุษยา เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่ากันว่ากลุ่มลูกค้าดิ เอ็ม เพอเร่อร์ เฮ้าส์ ส่วนใหญ่ให้ความเชื่อถือ ในตัวบริษัท มีหลายรายที่ยินดีจ่ายเงินค่าปลูกสร้างบ้านให้กับบริษัท จำนวน 10-20 ล้านบาท ทันทีที่เซ็นสัญญาปลูกสร้างบ้าน

แล้วอะไรทำให้ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ มาถึงจุดนี้

"ผมว่าเป็นเพราะผลงานที่เราทำให้ ลูกค้าเหนือกว่าสิ่งที่เขาต้องการ ในการปลูกสร้างบ้านแต่ละหลัง เรามีการประชุมทีมกันตลอด และมีรีพอร์ตแบบละเอียด ส่งให้ดูต่อเนื่อง"

สุ รัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

เอ็มดีบริษัทรับสร้างบ้านหรูเล่าว่า หลังจากได้พูดคุยกับเพื่อนในวงการรับ สร้างบ้านด้วยกัน ทำให้ฉุกคิดได้ว่า บริษัทน่าจะสื่อสารเรื่องความน่าเชื่อถือที่ลูกค้ามีต่อบริษัท เพื่อสร้างแบรนด์อะแวร์เนส (การรับรู้แบรนด์) ออกไปในวงกว้าง

เพราะ ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา ยังมีผู้บริโภคบางรายที่มีคำถาม หรือมีความไม่มั่นใจอยู่ลึก ๆ ว่า การสร้างบ้านราคา 50 ล้านบาท 100 ล้านบาทที่ผ่านมา เป็นเพียงการเคลมผลงานหรือไม่

"ตอนนี้เรา กำลังออกแบบแอดโฆษณาใหม่ ที่มีลูกค้าของเรามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ เพื่อสื่อสารลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านกับเรา มีตัวตนจริง"

โดยตลอด ระยะเวลากว่า 20 ปี มีลูกค้าปลูกสร้างบ้านที่มีขนาดและราคาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก 5 ล้านบาท เป็น 10, 20, 50, 100, 217 ล้านบาท และล่าสุดคือบ้านของลูกค้าในย่านสุขสวัสดิ์ ราคา 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นหลังที่มีมูลค่า (ก่อสร้างและตกแต่ง) สูงที่สุด นับตั้งแต่เคยรับงาน และประมาณเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทจะพาลูกค้าบินไปประเทศอิตาลี เพื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์ ด้วยตัวเอง และกำหนดส่งมอบบ้าน

อย่างไรก็ตาม "สุรัตน์ชัย" บอกว่า ถึงวันนี้ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ไม่ได้โฟกัสว่าจะต้องสร้างบ้านที่มีขนาดใหญ่ และ ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเป็นสถิติ แต่สิ่ง ที่ต้องการคือขยายเซ็กเมนต์ลงมามากขึ้น

เป้าหมายคือกลุ่มลูกค้าที่ ต้องการ ปลูกสร้างบ้านระดับราคา 15-25 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอยเฉลี่ย 700-800 ตารางเมตร โดยเป็นการเลือกจากแบบบ้านมาตรฐาน ที่บริษัทมีอยู่ แทนที่เริ่มต้นนับหนึ่งออกแบบบ้านขึ้นใหม่เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทพยายามทำตลาดมาได้ระยะหนึ่ง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ในระดับที่คาดหวัง

"ที่ผ่านมาทุกปี เรามียอดขายเติบโตจากมูลค่างานต่อหลังที่เพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนหลังที่รับงานต่อปียังคงที่ เรามองว่า ถ้าขยายเซ็กเมนต์ได้ จะทำให้บริษัท หมุนรอบการสร้างได้เร็วขึ้นด้วย"

ประมาณการว่า ปัจจุบันการปลูกสร้างบ้านหลังใหญ่ ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 30 ล้านบาท บริษัทต้องใช้เวลาเฉลี่ย 18-24 เดือน แต่ถ้าเป็นกลุ่มบ้านมาตรฐาน ระดับราคา 15-25 ล้านบาท เวลาในการก่อสร้าง น่าจะสั้นลงเหลือ 12-18 เดือน

"สุ รัตน์ชัย" บอกต่อว่า นอกจาก แผนการดำเนินธุรกิจ การสร้างและพัฒนา "คน" ก็เป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ เพราะรับสร้างบ้านเป็นธุรกิจที่เข้าง่าย แต่จะทำให้เติบโตต่อเนื่องนั้นยากเพราะต้องอาศัยการมีทีมงานที่ดี

สำ หรับดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ณ วันนี้ กำลังมาถึงก้าวที่ต้องสร้างบุคลากร เจเนอเรชั่นที่ 3 เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป โดยเริ่มทยอยรับพนักงานใหม่ ระดับอายุไม่เกิน 30 ปี เข้ามาบ้างแล้ว แต่อาจต้องใช้เวลาอีก 3-5 ปีในการเทรนนิ่ง

เพราะงานปลูกสร้างบ้าน ต้องสอนแบบ Learning by Doing คือการเรียนรู้ จากการลงมือทำจริง และเชื่อว่าในที่สุด การทำธุรกิจรับสร้างบ้านจะต้องกลับมาที่เรื่อง "โปรดักชั่น" (การผลิต) และ "การพัฒนาคน"

เพราะโปรดักชั่นที่มี คุณภาพเท่านั้น จึงจะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืน
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-05-2553 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.