|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| วัสดุ ชิงเค้ก"รถไฟฟ้าสีม่วง-น้ำเงิน" มูลค่าตลาดท่วม3.6หมื่นล้านบิ๊กแบรนด์ส่งซิกลุย |
|
ผู้ประกอบการวัสดุจ้องตาไม่ กะพริบงานประมูลรถไฟฟ้าสีม่วง-น้ำเงินหลังประเมินพบมูลค่าความต้องการใช้ วัสดุ 2 โครงการทะลุ 3.6 หมื่นล้านบาท กลุ่ม SCG ฟันธงตลาดครึ่งปีหลังเป็นบวก ส่งสัญญาณพร้อมลุยแข่งราคา กระเบื้อง "อาร์ซีไอ-ดูราเกรส" ทำการบ้านผ่านผู้รับเหมาเรียบร้อยแล้ว วัสดุกลุ่มย่อยอะลูมิเนียมคอมโพสิตขอโหนกระแสด้วยคน
เมกะโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลทยอยประมูลทำให้ ตลาดวัสดุก่อสร้างเริ่มคึกคักขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อรับกับดีมานด์ที่ผู้รับเหมาจะต้องใช้ในการก่อสร้าง ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) สีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ, หัวลำโพง-บางแค) สีแดง (บางซื่อ-รังสิต) รวมระยะทาง 76 กิโลเมตร
สี ม่วง-น้ำเงิน ค่าวัสดุ 3.6 หมื่น ล.
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงทั้งโครงการ วัสดุก่อสร้างหลักที่จะใช้มี "คอนกรีต" (รวมเสาเข็ม) รวม 3 สัญญา จำนวนรวม 9.6 แสนคิว ราคาเฉลี่ยคิวละ 4,000-5,000 บาท มูลค่ารวมประมาณ 3,840 ล้านบาท
ส่วน "เหล็กเสริมคอนกรีต" รวม 3 สัญญา จำนวนรวม 140,000 ตัน ราคาตันละ 32,000-35,000 บาท รวมมูลค่า 4,480 ล้านบาท "เหล็กรูปพรรณ" รวม 3 สัญญาจำนวนรวม 37,900 ตัน ราคาเฉลี่ยตันละ 65,000-70,000 บาท รวม 1,423 ล้านบาท
ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสี น้ำเงินที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังเปิดประมูลค่าก่อสร้างอยู่ที่ 52,257 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าวัสดุก่อสร้างที่ประเมินไว้ 26,330 ล้านบาท ปริมาณวัสดุที่จะใช้แยกเป็นคอนกรีต 898,946 คิว เหล็กเส้น 99,697 ตัน เหล็กเส้นอัดแรง 11,771 ตัน เหล็กรูปพรรณ 11,206 ตัน แกรนิต 85,666 ตารางเมตร กระเบื้อง 25,980 ตารางเมตร อะลูมิเนียม 26,644 ตารางเมตร ลิฟต์ 77 ชุด บันไดเลื่อน 114 ชุด รางเหล็ก 138,526 เมตร
SCG ส่งสัญญาณลุยแน่
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCG เปิดเผยว่า ครึ่งป หลังน่าจะเห็นความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างปรับตัวดีขึ้นจากการที่โครงการ ขนาดใหญ่เริ่มออกประมูลแล้ว เช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยเฉพาะปูนซีเมนต์คาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5% แม้ว่าราคาขายในประเทศปรับตัวลดลงเฉลี่ยประมาณ 7-8% จากราคาขาย 1,700 บาท/ตัน มาอยู่ที่ 1,600 บาท/ตัน เนื่องจากการประมูลงานยังน้อย ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดสูง
นายธีรยุทธ รักษ์ตระกูล ผู้จัดการขายในประเทศ บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด ในเครือซิเมนต์ไทย ผู้ผลิตฉนวนใยแก้ว "ตราช้าง" กล่าวว่า บริษัทสนใจเสนอราคาสินค้าป้อนรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยใช้วิธีให้ร้านตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้เสนอราคาแทน โดยโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงคาดว่าน่าจะมีความต้องการใช้ฉนวนกันความ ร้อนและกั้นเสียงเกือบ 1 แสนตารางเมตร
ซีซีพี ชี้ "คอนกรีตผสมเสร็จ" แข่งเดือด
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี หรือ "ซีซีพี" เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ซีซีพีได้เซ็นสัญญากับ บมจ.ซิโน-ไทยฯ ผู้รับเหมารถไฟฟ้าสายสีม่วง (สัญญาที่ 2) ล่าสุดการเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บริษัทก็ให้ความสนใจเข้าร่วมเสนอราคาคอนกรีตด้วยเช่นกัน
"การประมูล รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คาดว่า ภายหลังทราบผลผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลแล้ว ประมาณเดือนมิถุนายนก็น่าจะเริ่มมีการประมูลซื้อขายคอนกรีต โดยเชื่อว่าผู้ผลิตคอนกรีตทุกรายต่างก็อยากได้งานนี้ แต่การเสนอราคาแข่งขันคงต้องคำนึงถึงปัจจัยราคาน้ำมัน หิน ทราย และเหล็กด้วย"
กระเบื้องแบเบอร์ แข่งเสนอราคากันแล้ว
นาย ณัฎฐ์ บรรทัดฐาน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายงานขาย บมจ.โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม ผู้ผลิตกระเบื้องแบรนด์ "อาร์ซีไอ" กล่าวว่า บริษัทได�ื่นเสนอราคาขายกระเบื้องให้กับผู้รับเหมาหลายราย ล่าสุดสายสีน้ำเงินเสนอราคาให้กับ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, ช.การช่าง, ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (STECON) ซึ่งมีผู้ผลิตแข่งขันหลายราย ขึ้นกับผู้รับเหมาจะเลือกรายไหน
"ที่ ผ่านมาบริษัทเคยได้งานของรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรก รถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายไปตากสิน สายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน"
นาย สุทิน ยุทธนาวราธร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บมจ.สหโมเสค อุตสาหกรรม ผู้ผลิตกระเบื้องปูพื้นแบรนด์ "ดูราเกรส-ลีลา-ยูเอ็มไอ" กล่าวว่า บริษัทให้ความสนใจเข้าร่วมเสนอราคากระเบื้องในงานก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย (ม่วง แดง น้ำเงิน)
วัสดุย่อยขอแจมเค้กด้วย
นายกศิ ปัญญ์ ศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม จำกัด ผู้แทนจำหน่ายแผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิตแบบไส้กลางกันไฟแบรนด์ "มิตซูบิชิ" จากญี่ปุ่นกล่าวว่า บริษัทสนใจเสนอราคาวัสดุป้อนให้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง คาดว่ามีมูลค่ารวมกว่า 180 ล้านบาท หรือ 7.6 หมื่นตารางเมตร โดยเชื่อว่าจะมีผู้สนใจเสนอราคาสินค้าหลายราย เนื่องจากมีผู้ประกอบการในตลาดกว่า 30 ราย |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 03-05-2553
|
|
|
|
|
