|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| กำลัง ซื้อตลาดรับสร้างบ้านฟื้น โตทุกเซ็กเมนต์-บิ๊กแบรนด์ยอดทะลุเป้า |
|
คอลัมน์ Home Builder new
ธุรกิจ รับสร้างบ้านในปีเสือออกสตาร์ตท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่วิเคราะห์กันว่าน่าจะ ผ่านพ้นจุดต่ำสุดและกำลัง ไต่ระดับขึ้น แต่ลึก ๆ แล้วปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลัง ซื้อโดยรวมของผู้บริโภค ซึ่งธุรกิจหลากหลายสาขาต่างประสบปัญหาไม่น้อยหน้ากัน
"ประชาชาติ ธุรกิจ" สำรวจความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประกอบการ รับสร้างบ้านช่วงไตรมาสแรกปีนี้ พบว่า ส่วนใหญ่มียอดขาย (จองและเซ็นสัญญา) ตามเป้าที่วางไว้ สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านโดยเฉพาะในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตลาดยังเติบโตทุกเซ็กเมนต์
"คอมแพคโฮม-บางกอกเฮ้าส์ฯ" ยอดพุ่ง
โดยกลุ่มผู้ประกอบการที่รับ ปลูกสร้างบ้านราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเซ็กเมนต์ระดับล่างของธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่ต้องแข่งขันโดยตรงกับกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งมีผู้เล่นในกลุ่มนี้ ไม่มากนัก จากการสำรวจยอดขาย "คอมแพคโฮม" และ "บางกอกเฮ้าส์ บิวเดอร์" ช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา ถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์
เพราะ "คอมแพคโฮม" ในเครือซีคอนมียอดขายสะสมถึง 93 ล้านบาท จาก เป้าหมายทั้งปี 400 ล้านบาท เท่ากับว่าช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ มียอดขายเกินกว่าเป้าเกือบ 40% ถือเป็นอัตราเติบโตที่หวือหวาพอสมควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในการเข้าร่วมออกบูทงาน Home Builder Focus 2010 เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่คอมแพคโฮมสามารถทำ ยอดจองสร้างบ้านในช่วงจัดงาน 3 วัน ได้ 36 ล้านบาท
เช่น เดียวกับ "บางกอกเฮ้าส์ บิวเดอร์" ในเครือบิวท์ทูบิวด์ ที่มียอดขายสะสม 108 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 350 ล้านบาท หรือมียอดขายเกินกว่าเป้า 86% โดยในงาน Home Builder Focus 2010 บางกอกเฮ้าส์ฯปั้นยอดจองได้เกินความ คาดหมาย ถึง 52 ล้านบาท
ทั้ง "ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์" ผู้อำนวยการใหญ่คอมแพคโฮม และ "สุธี เกตุศิริ" เอ็มดีบางกอกเฮ้าส์ บิวเดอร์ ต่างให้ความเห็นในทำนองเดียวกันว่า เหตุผลที่ตลาดปลูกสร้างบ้านราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท เติบโตดี น่าจะมาจากเป็น กลุ่มที่มีความจำเป็นต้องปลูกสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยในช่วงนี้จริง ๆ ต่างจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างบ้านระดับกลางหรือบน ซึ่งส่วนใหญ่มีบ้านพักอาศัยอยู่แล้ว เมื่อสถานการณ์การเมืองหรือเศรษฐกิจไม่แน่นอนก็จะชะลอการตัดสินใจออกไปก่อน
บ้าน ระดับกลาง-บนมาแรง
มาที่ตลาดสร้างบ้านระดับกลางถึงบน ระดับราคาตั้งแต่ 2.5-5 ล้านบาท และ 5-15 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ มีผู้เล่นจำนวนมาก อาทิ ซีคอน, รอแยลเฮ้าส์, สหสุธา, ทรี.ดี.เฮ้าซิ่ง, แนเชอรัลโฮม, โฟร์พัฒนา, โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์, 89 โฮมบิลเดอร์, มีนบุรีรับสร้างบ้าน, ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป ฯลฯ ตลาดนี้แม้จะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง แต่ ส่วนใหญ่ทำยอดขายในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ได้เป็นที่น่าพอใจ
เริ่ม จาก "ซีคอน" มียอดขาย 175 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 800 ล้านบาท หรือมียอดขายสูงกว่าเป้าในช่วง 2 เดือนแรก 31% "รอแยลเฮ้าส์" มียอดขายประมาณ 150 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 900 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้า "สหสุธา" มียอดขาย 29 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 100 ล้านบาท สูงกว่าเป้า 74% "ทรี.ดี.เฮ้าซิ่ง" มียอดขายแล้วประมาณกว่า 40 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 120 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 100% "แนเชอรัล โฮม" มียอดขาย 12 ล้านบาท จาก เป้าทั้งปี 60 ล้านบาท สูงกว่าเป้า 20%
"89 โฮมบิลเดอร์" มียอดขายแล้วประมาณ 5 หลัง จากเป้าหมายทั้งปี 25-30 หลัง ใกล้เคียงเป้าที่วางไว้ ส่วน "ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป" เจ้าของแฟรนไชส์ธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกภายใต้ชื่อ "ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์" มียอดขายแล้วประมาณ 90 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 600 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อยเท่านั้น
"โฟร์ พัฒนา" มียอดขายประกอบด้วยยอดจองและเซ็นสัญญาที่เกิดขึ้นในปีนี้ 133 ล้านบาท จากเป้ายอดรับรู้รายได้ทั้งปี 320 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ "โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์" มียอดขายประกอบด้วยยอดจองและเซ็นสัญญาที่เกิดขึ้นในปีนี้ 20 ล้านบาท จากเป้ายอดรับรู้รายได้ทั้งปี 80 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
ตลาด ซูเปอร์ไฮเอนด์โตต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มบ้านระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ ที่มี ผู้เล่นไม่มากนัก เพราะเป็นงานก่อสร้างบ้านในลักษณะเทลเลอร์เมดตามความต้องการลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นบ้านระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับ "ดิเอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์" สามารถทำยอดขายช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ประมาณ 46 ล้านบาท (2 ยูนิต) จากเป้าทั้งปี 280 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้า
เช่นเดียว กับ "มาสเตอร์แปลน 101" ที่มียอดขายแล้ว 60 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 330 ล้านบาท คือ ไตรมาสแรก 60 ล้านบาท ไตรมาสสอง 100 ล้านบาท ไตรมาสสาม 120 ล้านบาท และไตรมาสสุดท้าย 50 ล้านบาท โดยล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าที่คาดว่าจะปลูกสร้างบ้านราคาประมาณ 20 ล้านบาท จึงมีโอกาส ทำยอดขายในไตรมาสแรกได้ทะลุเป้า
จากปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้น เป็นที่สังเกตว่าในช่วงต้นปี บริษัทรับสร้างบ้านเกือบทุกรายล้วนทำยอดขายได้น่าพอใจ แต่แนวโน้มธุรกิจนับจากนี้ยังต้องติดตามว่า การชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจปลูกสร้าง บ้านมากน้อยแค่ไหน
โดยเฉพาะกับกลุ่มบ้านระดับกลาง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการสร้างบ้านหลังใหม่เพื่อทดแทนหลังเก่า ที่หากมีปัจจัยลบมากระทบก็อาจทำให้ชะลอการตัดสินใจออกไปเพื่อ รอดูสถานการณ์ สรุปแล้วยังต้องลุ้นไม่ให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมาคอยบอนไซธุรกิจ เหมือนหลายปีที่ผ่านมา
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 01-04-2553
|
|
|
|
|
