|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| แคม เปญแผ่ว-บ้านขึ้นราคา หลังนาทีทอง ''ลดค่าโอน-จดจำนอง'' |
|
"เหตุผลที่ผมตัดสินใจเสนอ ครม.ให้ขยายมาตรการลดค่าโอน ค่าจดจำนองเป็นเพราะได้รับรายงานจากธนาคารพาณิชย์ว่า มีบ้านจัดสรรและคอนโดฯที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการ โอนค้างอยู่ถึง 32,000 ยูนิต ในจำนวนนี้ มีประมาณ 10,000 ยูนิต อยู่ในคิว นัดหมายกับธนาคารเพื่อจะโอนและจดจำนองแล้ว ขณะที่เดือนนี้เกิดเหตุการณ์ชุมนุมทำให้การเดินทางไม่สะดวก จึงตัดสินใจเสนอเป็นวาระจรให้ ครม.อนุมัติ"
คือเหตุผลหลักที่ทำให้ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง "กรณ์ จาติกวณิช" ตัดสินใจเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยืดอายุมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 28 มีนาคม 2553 เป็น 31 พฤษภาคม 2553 ซึ่ง ครม. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา
ผลคือ 1.การลดหย่อนค่าจดทะเบียนนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาฯ หรือการจดทะเบียนโอนที่ลดลงจากอัตราปกติ 2% เหลือ 0.01% การลดหย่อนค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ซึ่งเดิมจะสิ้นสุด 28 มีนาคมนี้ ก็จะมีผลใช้บังคับไปจนถึง 31 พฤษภาคม 2553 2.การลดหย่อนภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.11% สิ้นสุดลงภายในวันที่ 28 มีนาคม 2553 โดยไม่มีการยืดอายุให้อีก
และ 3.เพื่อให้สอดรับกับการยืดอายุ การลดหย่อนค่าโอนและจดจำนอง จากเดิมที่กรมที่ดินขออนุมัติเปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 20-21 และ 27-28 มีนาคม 2553 ก็ให้เปิดบริการในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ 29-30 พฤษภาคม 2553 แทน
เท่ากับว่าจากนี้ไปถึง 30 พฤษภาคม 2553 1.การลดค่าโอน ผู้ซื้อบ้านและ ผู้ประกอบการต้องรับภาระคนละ 0.005% หรือบ้านราคา 1 ล้านบาท รับภาระค่าโอนคนละ 50 บาท (ยกเว้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะตกลงรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง) ต่อไปอีก 2.ค่าจดจำนอง หากผู้ซื้อบ้านยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินโดยจดจำนองบ้านเป็นหลักทรัพย์ ค้ำประกัน จะเสียค่าจดจำนอง 100 บาท ต่อราคาบ้าน 1 ล้านบาทต่อไปอีก 3.จากเดิมช่วงที่มีการลดหย่อนภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.11% หากมีการซื้อขายบ้านราคา 1 ล้านบาท ผู้ประกอบการรับภาระภาษีเพียง 110 บาท หลังสิ้นสุดมาตรการ วันที่ 28 มีนาคม 2553 นี้ ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่มเป็น 33,000 บาท
เมื่อ ผู้ซื้อบ้านยังได้รับสิทธิประโยชน์ ในการลดหย่อนค่าโอนและจดจำนองขณะที่ผู้ประกอบการได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะ ค่าจดจำนอง (0.005%) แต่ต้องรับภาระจ่ายค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% หลังวันที่ 28 มีนาคม 2553 มีคำถามว่า ช่วงเวลานาทีทองที่ผู้ประกอบการ ทั้งตลาดป่าวประกาศจะมีอีกหรือไม่ ช่วง 2 เดือนจากนี้ไปถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายจริงหรือเปล่า สำคัญที่สุดคือหลัง ผ่านพ้นวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 ไปแล้ว ราคาบ้านจะปรับขึ้นมากน้อยเพียงใด
"อิสระ บุญยัง" นายกสมาคมธุรกิจ บ้านจัดสรร ให้ความเห็นว่า มติ ครม. ดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯ แม้การไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีธุรกิจเฉพาะจะถือเป็นการลงโทษผู้ประกอบการมาก เกินไป เพราะผู้ประกอบการเองก็มีภาระต้นทุนที่สูงขึ้นก็ตาม ในส่วนของผู้ซื้อบ้าน คิดว่าการยืดอายุลดค่าโอน ค่าจดจำนองออกไป จะทำให้มีเวลาในการยื่นขอ สินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพะการหาผู้กู้ร่วม ขณะที่สถาบันการเงินก็มีเวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพียงพอ จากเดิม ที่ต้องเร่งพิจารณาเพื่อให้ทันวันที่ 28 มีนาคมนี้
อย่างไรก็ตามการ ต่ออายุมาตรการมีระยะเวลาสั้นเพียงแค่ 2 เดือน ในแง่ของการลงทุนจะไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่มีผลในการกระตุ้นการลงทุนอสังหาฯด้วย ขณะเดียวกัน ผู้ซื้อที่จะได้รับประโยชน์ก็น่าจะเป็นกลุ่มที่ตัดสินใจซื้อช่วงก่อนหน้านี้ แล้วและอยู่ระหว่างรอโอน ยกเว้นกรณีตัดสินใจซื้อบ้าน-คอนโดฯพร้อมอยู่ ดังนั้น ผู้ประกอบการน่าจะโฟกัสไปที่ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นหลัก
หากจะ มองภาพที่เกิดขึ้นในช่วงจากนี้ไป คิดว่าผู้ประกอบการที่มีสต๊อกบ้านพร้อมอยู่ในมือ และมีลูกค้ารอโอน คงจัดทำแคมเปญกระตุ้นการโอนอย่างเต็มที่ เพื่อดึงกระแสเงินสดเข้ามา แต่หลัง 28 มีนาคม 2553 เป็นต้นไป แคมเปญ ลดแจกแถมน่าจะค่อย ๆ คลายความร้อนแรงลง เพราะผู้ประกอบการ มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
นอกจากจะผ่อนเรื่องการ จัดแคมเปญแล้ว คิดว่าผู้ประกอบการทั้งระบบ คงต้องปรับราคาบ้านขึ้นแน่ โดยเฉพาะรายที่สต๊อกบ้านไม่มีเหลือในมือ เพราะต้นทุนวัสดุ ราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก
ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท อสังหาริมทรัพย์อีกรายให้ความเห็นว่า หลังทราบว่ารัฐจะต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯรู้สึกดีใจมาก แต่รู้รายละเอียดแล้วแทบช็อก เพราะไม่ได้ให้ทั้งแพ็กเกจ เหมือนเดิม ตัดภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ออกไป ทำให้ผู้ประกอบการต้องรับภาระมากขึ้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 29-03-2553
|
|
|
|
|
