Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
''วัง ทอง''ผุดเพิ่มทาวน์โฮมไอดีไซน์ เจาะลูกค้าแฟนพันธุ์แท้โซนเหนือ |
|
ตลาดทาวน์โฮม-บ้านแฝดโซนเหนือสุด ฮอต "วังทองกรุ๊ป" ลอนช์ 2 โปรเจ็กต์ใหม่แบรนด์ "ไอดีไซน์" เจาะลูกค้าแฟนพันธุ์แท้กลุ่มซื้อซ้ำ เผยตั้งงบฯซื้อที่ดินเพิ่มอีก 400 ล้านบาท พร้อมปรับรูปแบบก่อสร้าง ผสมผสานรูปแบบระบบเสา-คานและผนังสำเร็จรูป ส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้ภายใน 3 เดือน
นายปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการขยายตลาดที่อยู่อาศัยในโซนเหนือของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปรับตัวดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับเป็นช่วงที่มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐจะกำลังสิ้นสุด ลง ทำให้มีกำลังซื้อเข้ามามากแต่หลังเดือนมีนาคมและเมษายนตลาดจะชะลอการซื้อลง บ้างเพื่อเป็นการปรับฐานเข้าสู่ภาวะปกติ ตลาดโซนนี้ทาวน์เฮาส์ยังเป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องการเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภทอื่น เพราะราคาไม่แพงมากนักและสอดคล้องกับรายได้
ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิด ตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ "ไอดีไซน์ วิภาวดี" เป็นบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ติดถนนวิภาวดีฯ บนเนื้อที่ 21 ไร่ เฟสแรกพัฒนา 48 ยูนิต มูลค่าโครงการ 260 ล้านบาท ขนาดที่ดิน 40 ตร.ว. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.09 ล้านบาท ลูกค้าที่จองจะได้รับส่วนลดสูงถึง 300,000 บาท และ 2.โครงการไอดีไซน์ วงแหวน-รามอินทรา เป็นทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่ที่พัฒนาเพิ่มเติมในด้านฟังก์ชั่นการใช้สอยและรูปแบบ บ้าน โดยได้เพิ่มศิลปะแบบพ็อป อาร์ต (pop art) ให้กับผนังหน้าบ้านเพื่อเพิ่มสีสันและความโดดเด่น ตัวโครงการ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 30 ไร่ จำนวน 282 ยูนิต ขนาดที่ดิน 21 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.87 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท
ทั้ง 2 โครงการจะเน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเก่าของวังทองฯที่มีอยู่ประมาณ 20,000 ยูนิต ทั้งนี้จากข้อมูลการขาย ปีที่ผ่านมาพบว่ามีลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำสูงถึง 5% จากจำนวนหน่วยที่ขายไปประมาณ 500-600 ยูนิต/ปี ปีนี้ตั้งเป้าทำยอดขายในลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้ถึง 10% นอกจากนี้บริษัทได้ปรับรูปแบบงานก่อสร้างใหม่โดยได้นำระบบเสาคานและผนัง สำเร็จรูปมาใช้เพื่อลดระยะเวลาในการสร้างบ้านให้กับลูกค้าเหลือเพียง 3 เดือน จากเดิมที่ใช้เวลานานถึง 5 เดือน
นายปราโมทย์กล่าวด้วยว่า ในปี 2553 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่ทำได้ 1,200 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดตัวทาวน์เฮาส์มากขึ้นเป็น 70% และบ้านเดี่ยว 30% ตั้งงบประมาณซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 300-400 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 500 ล้านบาท โดยจะซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการอย่างน้อย 1-2 โครงการช่วงครึ่งหลังปีนี้ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 29-03-2553
|
|
|
|
|