|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ร้อง เรียนประมูลระบบ BTS ''อ่อนนุช-แบริ่ง'' ''อิตาเลียนไทย'' วัดใจ กทม. |
|
ทำท่าจะฉลุย แต่สุดท้าย ก็ส่อแววสะดุด สำหรับการประมูลจัดซื้อพร้อมติดตั้งงานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) รถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง 5.25 กิโลเมตร มูลค่า 2,635 ล้านบาท ของกรุงเทพมหานคร
แม้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เจ้าของโครงการจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบิ้องต้น (พีคิว) และข้อเสนอทางด้านเทคนิค โดยไฟเขียวให้กับผู้รับเหมาทั้ง 3 ราย คือ 1.บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ 2.กิจการ ร่วมค้าระหว่างบริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด และบริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด และ 3.บริษัท ชุนโว (ประเทศไทย) จำกัด
อิตาเลียนไทยแฉ "ชุนโว" ขาดคุณสมบัติ
ยังไม่ทันจะกดปุ่มเคาะราคา กทม.ก็มีงานเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว หลัง "อิตาเลียนไทย" ของเสี่ย "เปรมชัย กรรณสูต"ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง เพราะเป็น 1 ใน 3 รายที่ผ่านคุณสมบัติรอบแรก
โดย 8 มีนาคมที่ผ่านมา "อิตาเลียนไทย" ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนและเสนอให้ผู้บริหาร กทม.เลื่อนการเคาะราคาออกไปจากกำหนดเดิม 11 มีนาคมนี้ โดยระบุว่า "ชุนโว" ขาดคุณสมบัติและไม่มีความพร้อมที่จะรับงานมูลค่าสูงถึง 2,635 ล้านบาท ดังนั้น จึงต้องการให้ทบทวนให้รอบคอบ
เพิ่มทุนเป็น 200 ล้านก่อนประมูล 4 วัน
โดยตั้งข้อสังเกตเริ่มตั้งแต่เรื่องทุนจด ทะเบียนและผู้ถือหุ้นของ "ชุนโว" ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2549 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท ต่อมา 2 มีนาคม 2552 ได้เพิ่มทุนเป็น 2 ล้านบาท และล่าสุดเพิ่งจะเพิ่มทุนเป็น 200 ล้านบาท เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ก่อนยื่นเอกสารการประมูลแค่ 4 วัน เพื่อเป็นไปตามทีโออาร์ที่ กทม.กำหนดว่าผู้ประมูลต้องมี ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท
หนังสือร้อง เรียนได้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท ชุนโว โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับบริษัท ชุนโว (ประเทศไทย) ซึ่งจดทะเบียนวันเดียวกัน ที่ตั้งและรายชื่อกรรมการบริษัทเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยชุนโว โฮลดิ้งส์ ถือหุ้นในบริษัทชุนโว (ประเทศไทย) 199,999,800 บาท แต่มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 แสนบาท
พร้อมระบุว่า บริษัท ชุนโว โฮลดิ้งส์ มีผู้ถือหุ้น 3 ราย ผู้ถือหุ้นหลัก 2 ราย คือบริษัท เบเกอร์ ทิลลี่ เมเนจเมนท์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท ถือหุ้น 510 หุ้น มูลค่าหุ้น 510,000 บาท หรือ 51% บริษัท โมเดิร์น ทอป กรุ๊ป ลิมิเต็ด ซึ่งจดทะเบียนที่บริติช เวอร์จิน ไอซ์แลนด์ ถือหุ้น 489 หุ้น มูลค่า 489,000 บาท หรือ 48.9% ทั้ง ๆ ที่มีที่อยู่เพียงตู้ไปรษณีย์ ซึ่งตรวจสอบได้ยาก หากมีปัญหาหรือข้อพิพาทเกิดขึ้นจะมีปัญหาในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ข้อมูล เชิงเจาะลึกระบุว่า ทั้ง 2 บริษัทไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดซื้อและ ติดตั้งงานระบบเดินรถตามทีโออาร์ ไม่มี ผลงานในไทย ส่วนที่อ้างถึงบริษัท ชุนโว คอนสตรัคชั่น แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอมเพนิ ลิมิเต็ด สัญชาติฮ่องกงนั้น ก็เพื่ออ้างอิงผลงานให้สามารถเข้ายื่นประมูลได้เท่านั้น
แม้ บริษัท ชุนโว คอนสตรัคชั่นฯ จะร่วมทุนกับ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ขณะนี้กำลังมีปัญหาในการดำเนินงานร่วมกันและอาจบานปลายถึงขั้นมีข้อพิพาท เนื่องจากบริษัท ชุนโว คอนสตรัคชั่นฯ ไม่ยอมนำเงินมาวางแบงก์การันตีตามที่ตกลงไว้กับ บมจ.ยูนิคฯ และไม่ได้เข้ามาร่วมก่อสร้างโครงการแต่อย่างใด
สจส.ชี้ไร้ปัญหา เคาะราคา 18-19 มี.ค.นี้
ด้านแหล่งข่าวจาก สจส.กล่าวว่า ผู้บริหาร สจส.พิจารณาข้อร้องเรียนของ "อิตาเลียนไทย" แล้ว และมีมติว่า คำร้องฟังไม่ขึ้น โดยให้เหตุผลว่า บริษัท ชุนโว (ประเทศไทย) เพิ่มทุนก่อนยื่นซองประมูล ไม่น่าจะทำให้เกิดความเสียหาย เพราะคุณสมบัติเป็นไปตามทีโออาร์ และชี้ว่า หากกำหนดให้ใช้ผลงานเฉพาะในประเทศไทย จะมีแค่ 2 ราย คือ "อิตาเลียนไทย" และ "ช.การช่าง" เท่านั้น ซึ่งปิดกั้นเกินไป
อย่างไรก็ตาม สจส.ได้ส่งข้อร้องเรียน ให้สำนักกฎหมายของ กทม.พิจารณาแล้ว คาดว่าวันที่ 18-19 มีนาคมนี้น่าจะเคาะราคาได้ เพื่อให้งานก่อสร้างเดินหน้า เพราะต้องให้งานแล้วเสร็จตามที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. ตั้งเป้าจะเปิดบริการวันที่ 15 พฤษภาคม 2554 เนื่องจากต้องใช้เวลา ติดตั้งและทดสอบระบบการเดินรถราว 1 ปี
หวั่น BTS "ตากสิน-บางหว้า" ซ้ำรอย
อีกโปรเจ็กต์ที่กำลังมีปัญหาคล้าย ๆ กัน คืองานจัดซื้อพร้อมติดตั้งงานโครงสร้าง พื้นฐานและงานระบบเดินรถโครงการ รถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีลม จากตากสิน-บางหว้า 5.3 กิโลเมตร วงเงิน 5,915 ล้านบาท ที่ กทม.เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างทีโออาร์ 2 ครั้งแล้ว และผู้รับเหมาร้องเรียนเช่นเดียวกันว่า ข้อกำหนดเปิดกว้างเกินไป หลัก ๆ คือไม่กำหนด ทุนจดทะเบียน แต่ต้องจดทะเบียนในไทย ไม่กำหนดว่าต้องใช้ผลงานกี่ปี แต่ให้ใช้ ผลงานด้านออกแบบ ติดตั้งงานโครงสร้างพื้นฐานสัญญาเดียว มูลค่าไม่น้อยกว่า 2,500 ล้านบาท ที่สำคัญ หากเป็นบริษัทต่างชาติ ก็ให้ใช้ผลงานของบริษัทต่างประเทศ หรือบริษัทในเครือยื่นประมูลได้
จึงถูกมองว่า ทีโออาร์งานนี้มีแนวโน้มเอื้อผู้รับเหมาต่างชาติมากกว่างานระบบอ่อนนุช-แบ ริ่ง เหมือนล็อกสเป็กไว้แล้ว โดยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงการรับเหมาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้บริหารระดับสูงใน กทม.หนุนหลังชุนโวฯให้ได้งานเหมือนงานติดตั้งระบบไปแบริ่ง
ทำให้เป็น อีกครั้งที่ต้องจับตาดูผู้ว่าฯ กทม.จะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 22-03-2553
|
|
|
|
|
