|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ชาย นิด โง้วศิริมณี พลิกโมเดลอสังหาฯรับ "รถไฟฟ้าสายสีม่วง" |
|
สัมภาษณ์
เป็นดี เวลอปเปอร์รายแรก ๆ ที่เข้าไปบุกเบิกพัฒนาโครงการในโซนตะวันตก โฟกัสทำเลเมืองนนท์ โดยเฉพาะ ไล่ไปตั้งแต่ถนนรัตนาธิเบศร์ บางใหญ่ บางบัวทอง รวมทั้งราชพฤกษ์ ทำเลสุดฮอตที่บูมต่อเนื่องหลายปีติดต่อกันจนถึงขณะนี้ ถือเป็นการปักธงรอล่วงหน้าเพื่อซื้ออนาคตนานกว่าสิบปี
จากที่เคยมี ที่ดินในมือหนึ่งพันไร่เศษ เกือบ 2 พันไร่ หลังทยอยนำมาพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ขายให้กับลูกค้า รวมแล้วหลายต่อหลายโครงการ คิดเป็นจำนวนยูนิตรวมทั้งสิ้นกว่า 5 พันยูนิต บวกกับตัดขายที่ดินบางส่วนให้กับนักธุรกิจนักลงทุนรายอื่น ขณะเดียวกัน ก็กว้านซื้อที่ดินเพิ่มเข้ามาใหม่ ถึงตอนนี้ "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ภายใต้การนำของบิ๊กบอส "ชายนิด โง้วศิริมณี" ยังมีที่ดินเหลืออยู่ในมือรวมแล้วกว่า 700 ไร่ ถือเป็นแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ในทำเลนี้
ทันทีที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ตอกเสาเข็มก่อสร้าง ไม่แปลกที่ยักษ์พัฒนาที่ดินรายนี้จะส้มหล่น หลังจากเคยลุ้นแล้วลุ้นอีกมานับครั้งไม่ถ้วน กว่าฝันจะเป็นจริง เพราะเป็นไปได้สูงที่รถไฟฟ้าสายนี้จะให้โชค "เพอร์เฟค" หลายต่อ ทั้งมูลค่าที่ดินที่มีแนวโน้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกมาก เช่นเดียวกับตัวโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและเปิดขาย ซึ่งจะมีจุดขายและมูลค่าเพิ่มขึ้น ผลพวงจากอานิสงส์รถไฟฟ้า
ในฐานะ เป็นผู้จุดประกายในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯ แนวเส้นทางรถไฟฟ้า "ชายนิด" มองภาพการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าว่า จะทำให้พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัย การเดินทาง วิถีชีวิตของคนเมืองเปลี่ยนไปจากเดิมมาก และเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
"ชาย นิด" บอกว่า หากจะมองภาพในอนาคตข้างหน้าว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วง รวมทั้งแอร์พอร์ตลิงก์ที่จะเปิดให้บริการปีนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน ด้านใดบ้าง สายสีม่วงที่กำลังก่อสร้าง เห็นผลชัดว่าลูกค้าที่แวะเข้าเยี่ยมโครงการของเพอร์เฟค มีจำนวนเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ โดยดูจากจำนวนลูกค้าที่แวะเข้าไซต์โครงการในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง 7 โครงการ เฉพาะรัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ บางใหญ่ มี 5 โครงการ และที่จะเปิดในปีนี้อีก 2 โครงการ
สำหรับโครงการเดิมพบว่าลูกค้า ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้าง และจะสร้างเสร็จปี 2557 ซึ่งแนวเส้นทางจะไปทางทิศตะวันตก ต่างจากแอร์พอร์ตลิงก์ที่จะช่วยเรื่องการท่องเที่ยวและการเดินทางในทิศตะวัน ออก จะทำให้เศรษฐกิจกรุงเทพฯ เศรษฐกิจไทยดีขึ้น สายสีม่วงจะช่วยเรื่องการเดินทางของประชาชนมากกว่าเศรษฐกิจ เพราะผ่านชุมชนเยอะ ทำให้ชุมชนบ้านจัดสรรเดินทางสะดวก
"ผมมองว่า การเปลี่ยนแปลงจะเปลี่ยนเร็ว คือราคาที่ดินเพิ่มขึ้น สอง ประชากรในทำเลนั้น หรือที่จะย้ายเข้าไปจะมีมากขึ้น เนื่องจากพื้นที่รัตนาธิเบศร์มีถนนเชื่อมต่อสมบูรณ์แบบมากขึ้น อย่างราชพฤกษ์ที่ตัดเข้าสีลม และอีกสายที่เกาะไปกับสายเหนือไปต่อจากแจ้งวัฒนะแล้วไปทางเหนือ ประกอบกับโรงงานในโซนนี้มีน้อย เพราะฉะนั้นชุมชนจะน่าอยู่ ที่อยู่อาศัยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว จะเห็นศูนย์การค้าเริ่มไปทางทิศตะวันตก ตั้งแต่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เอสพลานาด โฮมเวิร์ค โฮมโปร ฯลฯ ไปหมด รวมทั้งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยด้วย"
เฉพาะรัตนาธิ เบศร์ เพอร์เฟค มีที่ดิน 700 ไร่ ถ้ารวมกับที่แบ่งขายให้กับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะมีพันไร่เศษ มีข้างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยอีกประมาณ 400 ไร่ นอกนั้น 400 กว่าไร่ อยู่ย่านบางใหญ่ และบางบัวทองอีก 300 กว่าไร่ เพราะเป็นผู้บุกเบิกรายแรก ขายไปแล้วซื้อเพิ่ม ถือเป็นแลนด์ลอร์ดที่มีต้นทุน ที่ดินถูกที่สุด ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จาก รถไฟฟ้ามากที่สุด มีบ้านที่ขายและโอนไปแล้วราว 5 พันหลัง
ด้วยเหตุนี้ภายใน 3 ปีจากนี้ไปก่อนที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะก่อสร้างแล้วเสร็จ "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" จึงตั้งเป้าขายบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทั้งโครงการเดิมและที่จะเปิดตัวใหม่เฉพาะโซนนี้ปีละ 4 พันล้านบาท ภายใต้แบรนด์ที่มีอยู่เดิม อย่างเพอร์เฟค เพลส, เพอร์เฟค พาร์ค, เดอะ วิลล่า ฯลฯ
"ถ้าถามว่าเราจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิด ขึ้นในอนาคตอย่างไร เรามีที่ดินแปลงใหญ่ติดริมน้ำเจ้าพระยา อยู่แปลงหนึ่ง ก็อาจทำเป็นคอนโดฯ ริมเจ้าพระยา แต่ระหว่างนี้จะพัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ไปเรื่อย ๆ เพราะเรา ก็อยากมีที่ดินเหลืออยู่ตอนรถไฟฟ้าเสร็จ ไม่ใช่ขายไปทั้งหมด"
อย่างโปรเจ็กต์ในฝัน เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ของ "เพอร์เฟค" อย่างเมืองมหา วิทยาลัย ที่ค่ายนี้กำลังเร่งสานฝันให้เป็นจริง
"อัน นี้เราต้องหารือกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต้องมีความร่วมมือกันอาจจะออกแบบและวางผังร่วมกัน เป็นการพัฒนารูปแบบใหม่"
รูป แบบโครงการจะเป็นอาคารที่พักอาศัยสูงไม่เกิน 8 ชั้น อาจจะพัฒนาเพื่อขาย หรือลงทุนผ่านพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์แล้วปล่อยเช่าในลักษณะเป็นหอพัก จะเป็น รายได้ประจำของบริษัทในอนาคตตามแผนที่วางไว้ปีนี้จะทำที่เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอแบค รามคำแหง รวมทั้งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยใช้แบรนด์ "ยูนิลอฟ" จะเป็นอสังหาฯรายใหญ่รายแรกที่เข้าไป จากเดิมที่ผู้ลงทุนจะเป็นรายเล็ก ๆ
นอกจากการออกแบบที่เน้นความแตก ต่างและทันสมัยแล้ว ฟาซิลิตี้ที่เราให้ก็จะมีมากขึ้น ทำให้คุณภาพการศึกษาของนักศึกษาดีขึ้น มีพื้นที่แอ็กทิวิตี้ ร้านค้า อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ห้องสมุด สระว่ายน้ำ ซึ่งรายเล็ก ๆ ให้ไม่ได้ เป็นการเอาระบบเมืองนอกมาใช้ แบ่งอาคารชาย-หญิง มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยจะมีโมเดลมาตรฐานเดียวกันในทุก ๆ มหาวิทยาลัยที่จะเข้าไปลงทุน โดยจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารจัดการ
รวม แล้วปีนี้เพอร์เฟคจะลงทุนโครงการใหม่ทั้งหมด 14 โครงการ แยกเป็นบ้านเดี่ยว 4 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ คอนโดฯ 5 โครงการ ซึ่งรวมยูนิลอฟด้วย 3 โครงการ มูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านบาท โดยยังชูจุดขาย หนึ่ง เรื่องทำเล ที่จะเน้นอยู่ในแนวรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดฯ สอง งานก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างต้องมีคุณภาพ เพื่อการเติบโตยั่งยืน สาม ราคาต้องสมเหตุสมผล ไม่แพงเกินไป และสี่ ฟาซิลิตี้ให้เหนือกว่าคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นสโมสร ทะเลสาบ และพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ ที่ดึง เข้ามา ล่าสุด คือการจับมือกับ 10 พันธมิตร ทั้งสถาบันการเงิน เอไอเอส โฮมรีโนเวชั่น เฟอร์นิเจอร์ ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ
ไม่ได้เป็นพันธมิตรแค่ชั่ว คราว แต่จะทำแบบยั่งยืน เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 18-03-2553
|
|
|
|
|
