|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สายสีแดง "บางซื่อ-รังสิต" สะดุด เอกชนเมินประมูลรื้อย้าย 12 ชุมชน |
|
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
ใกล้ งวดเข้ามาทุกขณะ สำหรับการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต วงเงินลงทุนกว่า 75,000 ล้านบาท บิ๊กโปรเจ็กต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
แม้จะเคลียร์ปัญหาเรื่องทีโออาร์ประกวดราคาลงตัว ในการขอรวมขั้นตอนการคัดเลือกคุณสมบัติผู้รับจ้าง (พีคิว) กับขั้นตอนการประกวดราคาเข้าด้วยกัน และขอปรับปรุงเงื่อนไขการกำหนดให้ผู้รับจ้างต่างชาติต้องร่วมประมูลโครงการ (สัญญางานโยธา) ร่วมกับผู้รับจ้างไทย
แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะถึงขณะนี้ ร.ฟ.ท.ยังไม่ได้ผู้รับเหมาที่จะมารื้อย้าย สิ่งกีดขวางตลอดระยะทาง 26 กิโลเมตร จากบริเวณสถานีบางซื่อ ก.ม.6+000.00 ถึงสถานีรังสิต ก.ม.32+350.00 ในแนว เส้นทางรถไฟสายเหนือ
ล่าสุด ร.ฟ.ท.กำลังประกาศเชิญชวน หาผู้รับเหมามารื้อย้ายเป็นครั้งที่ 2 หลัง ครั้งแรกล้มเหลวเพราะมีมายื่นแค่รายเดียว จึงต้องยกเลิกการประมูลไปโดยปริยาย
สาเหตุที่มีผู้รับเหมาสนใจประมูล โครงการนี้น้อยราย เพราะข้อจำกัดเรื่องวงเงินค่าจ้างที่คิดเหมาเบ็ดเสร็จ ทั้งค่าจ้างและค่ารื้อย้ายสำหรับผู้บุกรุกที่ ร.ฟ.ท. เจียดมาให้แค่ 69,183,600.00 บาท
ขณะที่การรื้อย้ายมีจำนวนมาก ตามข้อมูลบัญชีการสำรวจผู้บุกรุกตลอดแนวเส้นทาง 12 ชุมชน ประมาณ 1,379 หลัง (สำรวจเมื่อธันวาคม 2551) เพิ่มขึ้นจากยอดเดิมที่บริษัทที่ปรึกษาสำรวจไว้ 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนตึกแดง ชุมชน หลักหก ชุมชนเลียบทางรถไฟใกล้สถานีคลองรังสิต และชุมชนคอกวัว รวม 411 หลังคาเรือน แต่ยอดยังไม่นิ่ง
ตามเงื่อนไข ของ ร.ฟ.ท.ผู้รับจ้างจะต้องสำรวจข้อมูลด้วยตนเองใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังเซ็นสัญญาจ้าง ที่สำคัญต้องรื้อย้ายอาคาร สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินของ ผู้บุกรุกให้แล้วเสร็จครบถ้วนตลอดพื้นที่โครงการ ภายในกำหนดระยะเวลา 450 วัน นับแต่วันที่มีหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน
โดย มีผู้บุกรุกตลอดแนวเส้นทางที่จะต้องรื้อถอนและขนย้าย แยกเป็นรายการผู้บุกรุกตามบัญชีเดิม 11 รายการ 1,225 หลัง คือ 1.โรงเก็บของ 53 หลัง 2.เพิงจอดรถ 153 หลัง 3.ที่พักอาศัยทั่วไป 1 ชั้น 654 หลัง 4.ที่พักอาศัย 2 ชั้น ไม้ผนังสังกะสี 21 หลัง 5.ที่พักอาศัย 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ 16 หลัง 6.ร้านค้าคละแบบ 125 หลัง 7.อาคารคอนกรีต 1 ชั้น + ร้านค้า 48 หลัง 8.อาคารไม้ 1 ชั้นหลังคาสังกะสี + ร้านค้า 82 หลัง 9.ห้องน้ำผนังสังกะสี 19 หลัง 10.ลานจอดรถคอนกรีต 5 หลัง และ 11.อาคารคอนกรีต 1 ชั้น ที่พักอาศัย 49 หลัง
นอกจากนี้ยังมีรายการ ผู้บุกรุกบัญชี เพิ่มเติม 154 หลัง อีก 5 รายการ คือ 1.โรงเก็บของ 1 หลัง 2.เพิงจอดรถ 9 หลัง 3.ที่พักอาศัยทั่วไป 1 ชั้น 136 หลัง 4.อาคารไม้ 1 ชั้น หลังคาสังกะสี และ ร้านค้า 1 หลัง และ 5.ห้องน้ำผนังสังกะสี 7 หลัง
แหล่ง ข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ร.ฟท.กังวลว่าจะมีผู้รับเหมาหรือเอกชนสนใจยื่นประมูลน้อยราย เพราะวงเงินค่าจ้างน้อยไป แต่คงจะเพิ่มให้ไม่ได้เพราะได้รับจัดสรรจากรัฐบาลมาแค่นี้ หากจะขอเพิ่มจะต้องทำเรื่องขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่มเติมซึ่งต้องใช้เวลา ขณะที่โครงการนี้กระทรวงคมนาคมเร่งให้เปิดประมูลโดยเร็ว หลัง ล่าช้ามานานเกือบร่วมปีแล้ว โดยจะเปิดขายแบบภายในเดือนมีนาคมนี้
ทั้ง นี้ ร.ฟ.ท.จะต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขการกู้เงินขององค์การความร่วมมือ ระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ซึ่งมี ข้อกำหนดเกี่ยวกับแนวทางการให้ความ ช่วยเหลือด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่มีชุมชนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง จึงให้ ร.ฟ.ท.ดำเนินการรื้อย้ายให้แล้วเสร็จ ก่อนจะให้ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่เพื่อเริ่มงานก่อสร้าง โดยผู้รื้อย้ายจะต้องประกันผลงาน และป้องกันไม่ให้มีผู้บุกรุกกลับเข้าพื้นที่โครงการได้อีกภายในเวลา 365 วัน นับจากวันที่มีการตรวจรับงาน
หากเป็นไปตามแผนขายแบบเดือน มีนาคมนี้ กว่าจะได้ผู้รับเหมาใช้เวลาประมาณ 1 ปี คาดว่าจะเซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนเมษายนปีหน้า ใช้เวลา 4 ปี แล้วเสร็จปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559
รูปแบบของโครงการดังกล่าวจะ ก่อสร้างทั้งยกระดับและระดับพื้นดิน สำหรับโครงสร้างยกระดับจะเริ่มตั้งแต่สถานีบางซื่อถึงดอนเมือง 19.2 กิโลเมตร แล้วลดระดับเป็นระดับดินไปจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการที่สถานีรังสิต ระยะทาง 7.1 กิโลเมตร โดยจะมีรั้วกั้นตลอดแนวเส้นทาง มี 8 สถานี คือ บางซื่อ จตุจักร บางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ การเคหะ ดอนเมือง รังสิต และสถานีอนาคต คือ วัดเสมียนนารี และหลักหก
ด้านการเดินรถจะเป็น รถไฟชานเมือง รูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า สามารถรองรับการเดินรถไฟ 3 ระบบในโครงสร้างเดียวกัน คือ ระบบรถไฟทางไกล ระบบรถไฟชานเมือง และระบบรถไฟขนส่งสินค้า มีโครงข่ายต่อเชื่อมกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่สถานีบางซื่อ |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 11-02-1553
|
|
|
|
|
