| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 85 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 25-01-2553    อ่าน 11293
 ช.การช่าง ขี่หลัง (ปี) เสือ ''ปีนี้รายได้งานประมูลรัฐจะเพิ่มเป็น 85%''

"ช.การ ช่าง" หลังคว้า งานใหญ่แห่งปี 2552 เมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าสายสีม่วง "บางซื่อ-บางใหญ่" กำไว้ในมือ 1 สัญญา มูลค่า 14,292 ล้านบาท นับเป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าแต่ละก้าวย่างของเมกะเพลเยอร์รับเหมารายนี้จะมี "น้ำเลี้ยง" หรือรายได้ไม่ขาดสาย ภายหลังจากท่อน้ำเลี้ยงเหือดแห้งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

เปิดศักราชใหม่ 2553 บี๊กบอส ช.การช่าง "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" ส่งสัญญาณประมูลงานใหม่แบบไม่มียั้ง ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ "เสี่ยปลิว" คาดหวังสูง จะทำให้ "ช.การช่าง" เติบโตขึ้นทั้งรายได้และงานในมือ

- ตลาดรับเหมาปี"53

ผมมอง ว่าตลาดรวมปีนี้ดีกว่าปี 2552 และ 2551 ในแง่ของรับเหมาทั่วไป เพราะมีงานที่รัฐบาลผลักดันออกมามากมาย ทั้งโครงการไทยเข้มแข็ง รถไฟฟ้า ทางด่วน รถไฟทางคู่ โครงการที่เริ่มทยอยออกประมูลแล้วก็มี อย่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ค่าก่อสร้างกว่า 5 หมื่นล้านบาท ก็ประกาศขายแบบแล้ว รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต อีก 6 หมื่นกว่าล้านบาท จะขายแบบเร็ว ๆ นี้ ส่วนใหญ่เป็นโครงการของรัฐบาลมากกว่างานภาคเอกชน

- ปีนี้งานราชการโตขึ้นมาก

ใช่ เทรนด์ตลาดรับเหมาจะไปโตในงานโครงการภาครัฐ ซึ่งรายได้รวมของช.การช่างมีสัดส่วนงานราชการอยู่ประมาณ 80% ปีนี้น่าจะขึ้นไปถึง 85%

- ประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

บริษัท จะเข้ายื่นประมูลงานทั้ง 5 สัญญา กำลังดูรายละเอียดเงื่อนไขในทีโออาร์ว่ากำหนดยังไงบ้าง ต้องมีจอยต์เวนเจอร์กับใครหรือไม่ แต่โดยศักยภาพของบริษัทเราสามารถยื่นประมูลคนเดียวได้อยู่แล้ว แต่ต้องดูเงื่อนไขการประมูลควบคู่ไปด้วย

- คาดหวังจะได้กี่สัญญา

เราอยากจะได้ทุกสัญญานะ แต่คงแข่งขันกันเยอะ ถ้าถามถึงความคาดหวังก็คาดว่าจะได้อย่างน้อย 1 สัญญา

- ประเมินผลกำไรอย่างไร

กำไร จากงานก่อสร้างปีนี้จะดีขึ้น คิดว่าไม่น้อยกว่า 10% เพราะปีที่แล้ว ในช่วงต้นปีจะมีเอฟเฟ็กต์จากต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวแพงขึ้น ทั้งน้ำมัน เหล็ก ทำให้ปีที่ผ่านมาได้กำไรน้อยอาจจะต่ำกว่า 10% แต่ปีนี้เทียบกับต้นปีที่แล้ว สถานการณ์ผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย ต้นทุนลดลงมาพอสมควร ทั้งเหล็ก น้ำมัน และค่าขนส่ง ทำให้การทำงานสะดวขึ้นเยอะ

- มีงานรอเซ็นสัญญาปีนี้กี่โครงการ

ไตร มาส 1 งานรอเซ็นสัญญาของบริษัทก็จะมีงบฯไทยเข้มแข็งในโครงการสร้างเขื่อนของกรมชล ประทาน วงเงิน 1,800 ล้านบาท โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเอกชนรายย่อย (SPP) มูลค่า 4,000 ล้านบาท

- ประมาณการรายได้

ปีนี้เนื่องจากมี งานประมูลออกมามาก เราตั้งเป้าไว้จะได้งานใหม่เข้ามาประมาณ 30,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับปีที่แล้ว เรามีงานในมือ 20,000 ล้านบาท รวมเป็น 50,000 ล้านบาท ถือว่ามากที่สุดในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผลประกอบการ ปี 2553 มากกว่าปี 2552 ไม่ต่ำกว่า 20% จากประมาณการรายได้มากกว่า 13,000-14,000 ล้านบาท ส่วนกำไรประมาณเท่าไรยังพูดไม่ได้ ต้องรอแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯก่อน เพิ่มขึ้นแน่นอน มีปันผลให้ผู้ถือหุ้น ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไร

- แผนการลงทุนปีนี้

บริษัท เตรียมเงินลงทุนประมาณ 1,600 กว่าล้านบาทสำหรับขยายกิจการและลงทุนโครงการใหม่ เงินลงทุนส่วนหนึ่งมาจากการขายหุ้นบริษัทน้ำประปาไทยฯ 600 กว่าล้านบาท และอีกส่วนมาจาก การเพิ่มทุน 1,000 ล้านบาท คิดว่า พอเพียงแล้วสำหรับการลงทุนใหม่ในช่วง ปี 2553-2554

โดยโครงการใหม่ ๆ กลุ่ม ช.การช่าง จะเข้าไปลงทุนถือหุ้นโครงการก่อสร้าง เขื่อนไซยะบุรี และเขื่อนนำงึม 2 ใน สปป.ลาว ซึ่งเขื่อนไซยะบุรีเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่มาก ต้องใช้ทุนจดทะเบียน ถึง 30,000 ล้านบาท ในเบื้องตันสัดส่วน ถือหุ้นโครงการนี้ กลุ่ม ช.การช่าง น่าจะถือสักครึ่งหนึ่งประมาณ 15,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นพันธมิตรและ รัฐบาลลาว

ในแง่พันธมิตรโครงการนี้ จะมีทั้ง ในประเทศและต่างชาติ ตอนนี้มีผู้เสนอตัวร่วมทุน 5-6 ราย ทั้งไทย ญี่ปุ่น และจีน เราอยากจะได้สัก 3 รายก็พอ ซึ่งเขื่อน ไซยะบุรีเป็นโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ กำลังการผลิต 1,260 เมกะวัตต์ มีขนาดใหญ่กว่าเขื่อนน้ำงึม 2-3 เท่า ถือว่าเป็นโครงการใหญ่สุดของ ช.การช่างในรอบ 38 ปีที่ก่อตั้งบริษัทมา

ในเรื่องกรอบเวลา ถ้าเป็นไปตามโปรแกรมโครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่กลางปี ประมาณไตรมาส 3 และ 4 เริ่มจัดการ ด้านการลงทุนและก่อสร้างได้ โดยทาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้า ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี ค่าก่อสร้างประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มขายไฟได้หลังสร้างเสร็จ

- ความคืบหน้าโครงการน้ำบาก 1-2

ยัง ไม่มีกำหนดเซ็นสัญญา เนื่องจากราคาไฟยังต่ำและคอสต์สูงกว่า ต้องชะลอไปก่อนและหันมาทำเขื่อนไซยะบุรีก่อน อาจจะยังไม่ได้เซ็นปีนี้ สาเหตุที่เลื่อน เพราะไซยะบุรีได้ค่าพลังไฟฟ้าราคาถูกกว่า เป็นสัมปทานจากรัฐบาลลาว 27 ปี หลังจากสร้างเสร็จ บวกอีก 8 ปี ก็เท่ากับ 35 ปี ทำให้มีความคุ้มค่าการลงทุนกว่าน้ำบาก และสร้างรายได้ระยะยาวให้บริษัท ส่วนที่น้ำงึมจะเสร็จเร็วกว่ากำหนด 3 เดือน คาดว่าจะเริ่มขายไฟได้ปลายปีนี้

- เน้นลงทุนโครงการสัมปทานมากขึ้น

ใช่ เพราะมีรายได้แน่นอนและระยะยาว แต่ก็ยังไม่มากมีสัดส่วนประมาณ 10-20% ของรายได้รวมที่มาจากธุรกิจโครงการสัมปทาน เช่น สัมปทานเดินรถใต้ดิน ทางด่วน เขื่อนใน สปป.ลาวเพื่อขายไฟฟ้าให้กลับ กฟผ.

แต่รายได้หลักของ ช.การช่าง ยังเป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจากการประมูลงานรัฐบาลไทย 80-90%
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-01-2553 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.