Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
กทม.ปั้นศูนย์เชื่อม"รถไฟฟ้า-BRT" ขอพื้นที่หมอชิต23ไร่-ธนารักษ์โยนลูก"กรณ์"ชี้ขาด |
|
กทม.ร่อน หนังสือขอใช้พื้นที่หมอชิตเก่า 23 ไร่ ขยายเดโป้จอดรถไฟฟ้าบีทีเอส "หมอชิต-สะพานใหม่" และรถบีอาร์ที "หมอชิต-ศูนย์ราชการ-เมืองทองธานี" ด้านกรมธนารักษ์โยนลูก "กรณ์ จาติกวณิช" ชี้ขาดหวั่นปัญหาข้อกฎหมาย เหตุจากยังเคลียร์ปัญหากับ "ซันเอสเตท" ไม่จบ เผยจะนำโปรเจ็กต์เดิมมาปัดฝุ่นพัฒนาเชิงพาณิชย์เป็นคอมเพล็กซ์ครบวงจร มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กทม.ได้ทำหนังสือถึงกรมธนารักษ์เพื่อขอใช้พื้นที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต เก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นเดโป้หรือศูนย์ซ่อมบำรุง และอู่จอดรถไฟฟ้าบีทีเอส ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เพื่อนำมาขยายพื้นที่ในส่วนของเดโป้ รองรับกับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส สายหมอชิต-สะพานใหม่ และรถเมล์ชิดเกาะกลาง หรือบีอาร์ที สายหมอชิต-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ-เมืองทองธานี ที่ กทม.มีแผนจะก่อสร้างในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีเป้าหมายจะให้เป็นศูนย์ต่อเชื่อมรถไฟฟ้า และรถบีอาร์ที
"เราทำ หนังสือหารือเรื่องนี้ไปที่กรม ธนารักษ์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอฟังคำตอบ ก่อนจะหารือกันในรายละเอียด คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แม้ตัวที่ดินยังมีปัญหาคาราคาซังอยู่กับบริษัทซันเอสเตท (บริษัทบางกอกเทอร์มินอล) และมั่นใจว่ากรม ธนารักษ์จะเคลียร์ปัญหาได้"
ด้าน นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรม ธนารักษ์ กล่าวว่า ได้รับหนังสือและข้อหารือที่ กทม.จะขอใช้พื้นที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิตเก่า เพื่อขยายเดโป้แล้ว แต่ยังไม่ได้ให้คำตอบว่าจะให้ กทม.ใช้พื้นที่ได้หรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เนื่องจากกรมธนารักษ์เองมีแผนจะนำที่ดินบริเวณดังกล่าวมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์ มูลค่าโครงการรวม 18,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่พยายามผลักดันมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และล่าสุด ครม.ให้นำกลับมาจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และทำประชาพิจารณ์ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ที่ดินบริเวณ สถานีขนส่งหมอชิตมีทั้งหมด 40 ไร่ ปัจจุบันบีทีเอสใช้ทำเป็น เดโป้จอดรถไฟฟ้า และใช้เป็นที่จอดรถฟรีสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสอีก บางส่วน เหลืออยู่อีก 23 ไร่ กทม.จึงต้องการจะขอนำส่วนนี้มาขยายเดโป้ จึงต้องดูว่า รมว.คลังมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ขณะเดียวกันกรมธนารักษ์ยังมีข้อผูกพันกับบริษัทซันเอสเตท จึงต้องพิจารณาว่าหากนำที่ดินผืนนี้มาให้ กทม.ใช้ประโยชน์ จะมีปัญหาด้านข้อกฎหมายกับคู่สัญญาเดิมคือซันเอสเตทหรือไม่
นายเทวัญ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาโครงการนี้ได้มีการลงทุนก่อสร้างฐานรากไปแล้ว บางส่วน โดยมีคู่สัญญาหลายฝ่ายทั้ง บีทีเอสซี กทม. กรมธนารักษ์ และบริษัทซันเอสเตทที่ประมูลได้สิทธิในการพัฒนาไปช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งบริษัทซันเอสเตทเคยยื่นขอให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดข้อพิพาท โดยเรียกค่าเสียหายกับกรมธนารักษ์มาแล้ว วงเงิน 8,300 ล้านบาท แต่ยังไม่มีการตัดสินเนื่องจากบริษัทขอถอนเรื่องออกไปก่อน เพราะเห็นว่ากรมธนารักษ์กำลังจะเสนอ ครม.อนุมัติให้พัฒนาโครงการต่อ
โดยยังจะยึดรูปแบบและแนวคิดในการพัฒนาโครงการเหมือนเดิม คือพัฒนาในรูปคอมเพล็กซ์แบบมิกซ์ยูส มีการใช้ประโยชน์พื้นที่แบบผสมผสานครบวงจร ขนาดความสูง 5 ชั้น ประกอบด้วย โรงแรมขนาด 450 ห้อง พื้นที่ร้านค้าย่อย ศูนย์การแสดงสินค้าขนาดใหญ่ พื้นที่ 47,114 ตร.ม. สถานีขนส่งรถประจำทางของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) สำนักงานให้เช่า ศูนย์การค้า ค้าปลีกค้าส่ง ศูนย์แสดงนิทรรศการ ศูนย์กลางสินค้าโอท็อป สถานที่ราชการ โรงเรียนกวดวิชา เป็นต้น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 21-09-2552
|
|
|
|
|