| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 423 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 27-08-2552    อ่าน 12284
 ตลาดสนามหลวง2ส่วนขยายป่วน ผู้ค้าแห่ฟ้อง"กทม.-เอกชน"ขอคืนเงินค่าจองแผง

ผู้ ค้าตลาดนัดสนามหลวง 2 ส่วนต่อขยายสุดทน แห่ยื่นฟ้อง กทม.-บริษัทเอกชนคู่สัญญา ขอคืนเงินค่าจองแผงค้า อ้างหลงเชื่อคำโฆษณาจนหลวมตัวทำสัญญาจอง สัญญาเช่า และจ่ายค่าก่อสร้าง แต่ภายหลังพบพิรุธส่อแววไม่ชอบมาพากล เผยร้องขอความเป็นธรรมหลายหน่วยงาน แต่เรื่องกลับเงียบหาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้นเดือนสิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ผู้ค้าในตลาดนัดธนบุรี (สนามหลวง 2) ส่วนต่อขยายกว่า 30-40 ราย ได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) บริษัท ไทเทวราช จำกัด และนายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ ต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกคืนเงินค่าเซ้งแผงค้าในตลาดนัดสนามหลวง 2 ส่วนต่อขยาย หลังจากก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีดังกล่าวกับหน่วยงาน แต่เรื่องกลับเงียบหายไม่มีความคืบหน้า

โดยนายประเสริฐ กล้าแห่งงาน ผู้ค้ารายหนึ่งยื่นฟ้อง กทม.เป็นจำเลยที่ 1 บริษัท ไทเทวราช จำกัด ที่ 2 นายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ ที่ 3 ขอให้ศาลพิพากษาให้นิติกรรมการเช่าช่วงระหว่างจำเลยที่ 1 กับ 2 และนิติกรรมการจองแผงค้าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นโมฆะ ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงิน 4 แสนบาทแก่โจทก์

คำฟ้องระบุว่า เดือนมิถุนายน 2547 จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันกระทำการอันไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยจำเลยที่ 1 จะจัดให้มีตลาดนัดเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมี รายได้และบริการประชาชน ซึ่งต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุฯ และข้อบัญญัติ กทม.เรื่องการเช่าพัสดุ ซึ่งต้องประกาศเหตุผล ความจำเป็น ราคาค่าเช่า รายละเอียดอสังหาฯ ที่เช่า อัตราค่าเช่า และจะต้องตกลงกับ เจ้าของที่ดินโดยตรง อีกทั้งต้องบริหารสัญญาโดยสุจริต เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐ โดยต้องควบคุมการปฏิบัติตามสัญญาโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะการส่งมอบอาคาร สิ่งปลูกสร้าง แผงค้า และจัดหาผู้ค้ารายย่อยต้องครบตามจำนวนที่ได้ตกลงไว้ในสัญญา

แต่จำเลย ทั้งสามไม่ได้ปฏิติตามระเบียบ ข้อสัญญา และกฎหมายดังกล่าว โดยจำเลยที่ 3 มอบหมายให้ตัวแทนไปยื่นขอจัดตั้งบริษัทจำเลยที่ 2 เพื่อจัดหาที่ดินมาให้จำเลยที่ 1 เช่า โดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยที่ 3 ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ต่อมาวันที่ 8 กรกฎาคม 2547 จำเลยที่ 2 ได้เช่าที่ดิน 83-1-4-65 ตร.ว. จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด สวนพฤกษศาสตร์กรุงเทพ ระยะเวลาเช่า 29 ปีเศษ โดยให้ จำเลยที่ 2 สามารถนำที่ดินไปให้จำเลยที่ 1 เช่าช่วงได้ โดยมีการจดทะเบียนเช่าช่วงวันที่ 9 กรกฎาคม 2547 และวันเดียวกันนั้น จำเลยที่ 1 และ 2 ได้ตกลงทำสัญญาเช่าช่วงกัน 10 ปี โดยจดทะเบียนการเช่าวันที่ 21 มิถุนายน 2548 โดยตกลงให้จำเลยที่ 1 เสียค่าเช่าให้แก่จำเลยที่ 2 ในอัตราเดือนละ 2,450,000 บาท

การทำ สัญญาระหว่างจำเลยที่ 1 กับ 2 จำเลยที่ 1 ไม่มีอำนาจที่จะกระทำได้โดยชอบ ขณะเดียวกันในการบริหารสัญญา จำเลยที่ 1 ยินยอมให้จำเลยที่ 2, 3 จัดตั้งบริษัทเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากการเช่าที่ดิน และเพื่อให้การบริหารงานของจำเลยที่ 3 เป็นไปโดยสะดวก จำเลยที่ 3 จึงได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นผู้จัดการบริษัทของจำเลยที่ 2 ในเวลาต่อมา

การ ที่จำเลยที่ 2 และ 3 ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทและร่วมกันเช่ากับจำเลยที่ 1 การละเลยไม่บริหารตามสัญญาให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนราชการของจำเลยที่ 1 และหลีกเลี่ยงการแข่งขันการเสนอให้เช่าของจำเลยทั้งสามดังกล่าว จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อบัญญัติ กทม.ว่าด้วยการเช่าอสังหาฯ และไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่ำหน่วยงานของรัฐ นิติกรรมการเช่าช่วงที่ดินทั้งสามแปลงระหว่างจำเลยที่ 1 กับ 2 จึงตกเป็นโมฆะ จำเลยที่สามจึงต้องคืนเงินให้กับโจทก์

คำฟ้องระบุอีก ว่า จำเลยทั้งสามได้ประกาศโฆษณาเชิญชวนประชาชนทั่วไปว่า โครงการตลาดที่เช่าที่ดินมาจะจัดทำเป็นตลาดนัดสนามหลวง 2 ส่วนต่อขยาย มีแผงค้า 5,681 แผง และจะมีผู้ค้ารายย่อยขณะส่งมอบพื้นที่ให้จำเลยที่ 1 ไม่น้อยกว่า 2,840 ราย โจทก์หลงเชื่อโดยไม่ได้ประมาทเลินเล่อ จึงได้จองเช่าพื้นที่กับจำเลยทั้งสาม

การที่โจทก์เข้าทำสัญญาจองแผง ค้า เช่าแผงค้า และชำระเงินค่าพัฒนาและก่อสร้างแก่จำเลยทั้งสาม เพราะหลงเชื่อตามคำโฆษณา โดยเข้าใจว่าโครงการตลาดนัดสนามหลวง 2 ส่วนขยายของจำเลยทั้งสามจะจัดให้มีแผงค้า 5,681 แผง เชื่อว่าจำเลยทั้งสามจะบริหารสัญญาให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และเชื่อว่าการทำสัญญาระหว่างจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นไปโดยสุจริตและโดยชอบด้วยกฎหมาย และเชื่อว่าโจทก์จะมีสิทธิเช่าแผงค้า 10 ปี การทำสัญญาจองแผงค้าของโจทก์จึงเป็นการทำสัญญาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็น สาระสำคัญของนิติกรรม สัญญาเช่าแผงค้าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 จึงตกเป็นโมฆะ จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งให้นิติกรรมเป็นโมฆะ และให้จำเลยทั้งสามคืนเงิน 4 แสนบาทให้แก่โจทก์
  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-08-2552 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.