|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เมื่อวันฟ้าเปิด คีรี กาญจนพาสน์ บุกเซี่ยงไฮ้เซ็นสัญญา แลงแฮม |
|
รายงานพิเศษ
นับ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของ "คีรี กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ยอมเปิดตัวสู่สาธารณะ และเปิดตัวไกล ไปถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
การเดินทางมาเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ "คีรี" ไม่ได้มาคนเดียว แต่เขาพาทีมงานของเขามาด้วย พร้อมกับสื่อมวลชนคณะเล็กๆ อีกกลุ่มหนึ่ง เพื่อร่วมเป็นเกียรติในงาน เซ็นสัญญาแต่งตั้งเครือ Langham Hotels International (LHI) เป็นผู้บริหารโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส
นัยแห่งการ เซ็นสัญญารอบนี้ถือเป็นการจุดประกายสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า (ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า) กลุ่มนักลงทุน (ว่าที่) พันธมิตร รวมถึงตัวเขาและครอบครัวของเขาเอง เพราะเป็นครั้งแรกที่บีทีเอสประกาศลุย ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว ด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ โดยใช้จุดแข็งของ "ทำเล" เป็นตัวชูโรง
"บทเรียนเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ผมยอมรับว่า ผมเป็นคนใจร้อน ทำอะไร ก็ขาดความรอบคอบ ไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำให้เราได้รับบาดเจ็บ ไม่สบาย ต้องเข้าห้อง ICU มานานหลายปี แต่ตอนนี้ ผมรู้แล้วครับว่า...คนไข้ที่โดนหมอฉีดยา มันเจ็บยังไง" คีรีระบายความในใจ เมื่อเขาจำเป็นต้องย้อนอดีตในเชิงเปรียบเทียบให้ทุกคน ได้เห็นถึงการปรับตัวและการปรับเปลี่ยนทัศนคติของเขาต่อการลงทุนรอบใหม่
" ผมตั้งใจและมุ่งมั่นเหมือนเดิมที่จะทำธุรกิจรถไฟฟ้าให้ดีที่สุด เพราะอนาคตกรุงเทพฯจะต้องมีสาธารณูปโภคที่ให้บริการอย่างทั่วถึง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนที่ได้รับอานิสงส์ มาจากอินฟราสตรักเจอร์ เป็นสิ่งที่เราถนัด มองเห็นตลาดและเห็นแนวโน้มการเติบโต เหมือนเศรษฐกิจไม่ดี รถไฟฟ้ายิ่งโต เศรษฐกิจยิ่งวิกฤต ผมก็ยิ่งซื้อของได้ถูก ฉะนั้นต้นทุนจะต่ำ ทุกอย่างเป็นโอกาส และผมจะไม่ทำให้โอกาสเสียไป ผมจึงต้องคิดและวางแผนการลงทุนอย่างรอบด้าน ตอนนี้ผมไม่ห่วงแล้ว เพราะทีมงานผมพร้อม 100%" คีรีกล่าวอย่างมั่นใจ
ทีม งานที่คีรียกเครดิตให้ คือทีมงาน มืออาชีพ (หรือเพื่อนผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข) คนแรกคือ "ดร.อาณัติ อาภาภิรม" อดีต นักวิชาการรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันนั่งตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการของบริษัท
อีกท่านคือคนหนุ่มรุ่นใหม่ วัย 47 ปี "สุรพงษ์ เลาหะอัญญา" กรรมการและ ผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการ บีทีเอสซี
ว่ากันว่า "สุรพงษ์" เปรียบเหมือน "มือขวา" และเป็นผู้บริหารที่นายคีรีไว้ใจเขาที่สุด
ท่าน ที่สามคือลูกหม้อบริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) "สุธรรม ศิริทิพย์สาคร" รองกรรมการผู้จัดการ ในวัย 50 ปีกว่าที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ มานานในฐานะสถาปนิกและเข้าใจวงจรธุรกิจนี้อย่างลึกซึ้ง
สุดท้าย เป็น "ทายาท" รุ่นสามของตระกูล "กาญจนพาสน์" สายเลือดแท้ๆ ของ "คีรี" นั่นเอง มีชื่อว่า "กวิน กาญจนพาสน์" หนุ่มร่างใหญ่ หน้าตาจิ้มลิ้ม ในวัย 31 ปี ปัจจุบันนั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทธนายงและบริษัทวีจีไอ เจ้าของสื่อเคลื่อนที่รถไฟฟ้าบีทีเอส ที่หลายคนรู้จักกันดี
ท่ามกลาง มิตรภาพและรอยยิ้ม ฤกษ์เซ็นสัญญาถูกกำหนดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2552 เวลา 16.00 น. ณ ห้องเพิร์ลบอลรูม โรงแรม The Langham, Yangtze Boutique, นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่าง นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอสซี กับ ดร.เค เอส โล ประธานกรรมการ เครือแลงแฮม โฮเต็ลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (LHI) เพื่อว่าจ้างให้เป็นที่ปรึกษาโครงการ และเป็นผู้บริหารโรงแรมระดับ 5 ดาว ของบริษัททั้งสองโรงแรมในทำเลนานาและพญาไท
ทั้งสองโรงแรมจะก่อ สร้างบริเวณสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นทำเลทองที่ได้เปรียบ โดยที่สถานีนานาจะสร้างเป็นโรงแรมหรูชื่อ The Langham Sukhumvit Bangkok อยู่ริมถนนสุขุมวิท บริษัทคาดหมายว่าทำเลนี้ยังมีความต้องการโรงแรมในระดับนี้อยู่มาก
ส่วน ที่สถานีพญาไทจะเป็นโรงแรมชื่อ Langham Place Phayathai เพื่อรองรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่สามารถใช้บริการสถานีพญาไทเป็น สถานีต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าเชื่อมสถานีสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) โรงแรมภายใต้แบรนด์ของเครือแลงแฮม โฮเต็ลส์ ทั้ง 2 แห่งจะเป็น โรงแรมแรกของแบรนด์นี้ในกรุงเทพมหานคร
เหตุผลที่บีทีเอสซีได้แต่ง ตั้งให้เครือ แลงแฮม โฮเต็ลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เข้ามาเป็นที่ปรึกษาโครงการและบริหารโรงแรม เนื่องด้วยเห็นว่า LHI เป็นบริษัทชั้นนำของฮ่องกง ที่ลงทุนและพัฒนาในด้านอสังหาริมทรัพย์ บริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก เช่น The Langham London ซึ่งเป็นโรงแรมหรู แห่งแรกในยุโรปที่มีอายุกว่า 140 ปี ของเครือ LHI ที่มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม นอกจากนี้ยังมีโรงแรมอยู่ใน 4 ทวีป คืออังกฤษ ฮ่องกง จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา และแคนาดา
การขยายธุรกิจมาลงทุนในกิจการ โรงแรมของบีทีเอสซีนั้น นายคีรีอธิบายว่า หลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จในธุรกิจรถไฟฟ้าจนมีความมั่นคงทางการเงิน และ มีผลประกอบการที่ดี มีผลกำไรเป็นที่น่าพอใจ เขาจึงได้คิดขยายธุรกิจของบริษัท ไปยังธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งจะสามารถ นำประโยชน์จากการเป็นผู้บริหารรถไฟฟ้าสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจเหล่านั้น ได้
เขาจึงตัดสินใจดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง แต่โฟกัสทำเลในเส้นทางรถไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจ E-money ผ่านบัตรโดยสารรถไฟฟ้า และธุรกิจการโฆษณา ซึ่งจัดเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการเป็นผู้บริหาร รถไฟฟ้าทั้งสิ้น เขาเชื่อว่าธุรกิจใหม่เหล่านี้จะสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นให้แก่บริษัท ได้มากในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินการก่อสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาวอีกหนึ่งแห่ง จำนวน 437 ห้อง บนถนนสาทรด้วย ตรงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ โดยใช้ชื่อว่า Four Points by Sheraton โดยเซ็นสัญญาให้กลุ่มสตาร์วูดเป็นผู้บริหาร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2011
เมื่อรวมมูลค่าการลงทุนทั้ง 3 โรงแรมในธุรกิจของบีทีเอสซีแล้ว คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ซึ่งคีรีคาดหวังว่าโรงแรมใหม่ตามแนวรถไฟฟ้านอกจากจะช่วยให้เกิดความสะดวก สบายแก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคเอกชนและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ของประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย
เพราะจะหวังให้การเมืองสงบนิ่งและเศรษฐกิจดีเหมือนเก่าก็คงยาก
ใครจะรอก็รอไป แต่คนที่ชื่อคีรี เขาบอกว่า "ผมรอไม่ได้แล้ว" |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 10-08-2552
|
|
|
|
|
