|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| อภิสิทธิ์-วิทูร เปิดวิธีคิด ''โกลบอลเฮ้าส์'' |
|
สัมภาษณ์
ที่ ผ่านมาฉายา "สิงห์ภูธร" กลายเป็นคำนิยามที่คนในแวดวงวัสดุก่อสร้างและตกแต่งตั้งให้กับ "โกลบอลเฮ้าส์" โมเดิร์นเทรด ค้าวัสดุยักษ์ใหญ่จากภาคอีสานที่กำลัง สร้างตำนานบทใหม่ของตัวเอง
1) คือการเตรียมตัวนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ 2) คือการเตรียมขยายสาขาในเมืองเพื่อเจาะตลาดคนกรุงเทพฯเป็นครั้งแรก ทั้งหมดเกิดขึ้น ภายหลังจากโกลบอลเฮ้าส์สร้างชื่อด้วยการเปิดสาขาแรกในจังหวัดร้อยเอ็ดเมื่อ ปลายปี 2540 หรือเกือบ 12 ปีที่ผ่านมา
ล่าสุด "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "อภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร" ประธานกรรมการ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และ "วิทูร สุริยวนากุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในฐานะผู้ก่อตั้งและปลุกปั้น "โกลบอลเฮ้าส์" ให้กลายเป็นเสือตัวใหม่ของวงการค้าวัสดุ
- ที่มาของโกลบอลเฮ้าส์
วิทูร - ผมเริ่มต้นวางแผนประมาณ ปี 2537-2538 ไอเดียมาจากสมัยที่เคยทำธุรกิจเป็นผู้รับเหมามีปัญหาเวลาเลือกซื้อแล้วมีของ ให้เลือกไม่ครบ ก็มีโอกาส เดินทางไปต่างประเทศไปดูร้านโมเดิร์นเทรด พบว่าข้อดีคือลูกค้าได้เดินดูสินค้าทุกรายการและจัดเก็บสินค้าอย่างดีจึงมี โอกาสขายของได้จนถึงชิ้นสุดท้าย พอปี 2539 ก็เริ่มลงมือทำและเปิดสาขาแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ดเมื่อพฤศจิกายน 2540 ตรงกับวิกฤตฟองสบู่แตกพอดี
- แล้วฝ่าวิกฤตอย่างไร
วิทูร - เป็นเพราะโมเดลธุรกิจของเราตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือ มีของครบ ตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้างบ้านจนแล้วเสร็จเสมือนเป็น "แวร์เฮาส์สโตร์" มีครบ ทั้งเชิงกว้างและลึก ได้แก่ 1) วัสดุโครงสร้าง 2) ประตูไม้ พีวีซี หน้าต่าง 3) ไม้พื้นและกระเบื้องเซรามิก 4) ชุดห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ 5) อุปกรณ์จัดสวน 6) เครื่องมือช่าง 7) ชุดเครื่องครัว 8) ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า 9) สี เคมีภัณฑ์ 10) ระบบประปา และ 11) สุขภัณฑ์ ยกเว้นเสาเข็มที่เราไม่ได้ขาย โกลบอลเฮ้าส์จึงกล้าเคลมว่าเป็นร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายแรกที่เป็น "โมเดิร์นเทรด" ค้าวัสดุขนาดใหญ่
เชื่อมั้ย ! หลังจากเปิดร้านเดือนมกราคม 2541 ชาวนาชาวไร่ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จก็มาซื้อของที่ร้านกันเต็มเลย
- จังหวะที่เริ่มขยายสาขา
วิทูร - สาขาแรกที่จังหวัดร้อยเอ็ด ใช้เงินลงทุนไป 200 กว่าล้านบาท พอปี 2541 ที่เป็นปีเผาจริง ปรากฏว่า ยอดขายยังเป็นไปตามที่ประมาณการไว้ ปี 2542 ก็มีอัตราเติบโตถึง 50% ตอนนั้นเกิดความคิดเลยว่าทั้งๆ ที่ร้อยเอ็ดไม่ใช่จังหวัดใหญ่ยังเติบโตได้ดี ดังนั้นจังหวัดอื่น ก็น่าจะขยายสาขาได้
อภิสิทธิ์ - สรุปคือโกลบอลเฮ้าส์เกิดขึ้นในปี 2540 และปี 2545 ก็เริ่มขยายสาขา "ขอนแก่น" ปี 2547 เปิดสาขา "อุดรธานี" ปี 2549 เปิดสาขา "เชียงใหม่" ปี 2550 เปิดสาขา "ระยอง" ปี 2551 เปิดสาขา "ชลบุรี" และ "นครปฐม" รวมปัจจุบัน 6 สาขา เฉลี่ยใช้เงินลงทุนสาขาละ 200-400 ล้านบาท มีพื้นที่เฉลี่ย 1.8-2.6 หมื่นตารางเมตร เห็นได้ว่าในช่วงแรก โกลบอลเฮ้าส์ก้าวช้าๆ แต่มั่นคงเพราะ มาจาก scrap คือไม่มีอะไรเลยและเป็น ทุนคนไทยแท้ๆ ทุกสาขาก็ได้รับการตอบรับดีอย่างขอนแก่นปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ย วันละ 2-3 ล้านบาท จากช่วงแรกเฉลี่ย วันละ 7-8 แสนบาท
- จุดขายที่ทำให้โกลบอลเฮ้าส์เป็นที่รู้จัก
อภิสิทธิ์ - 1) มีสินค้าหลากหลาย คือ ถ้าจะสร้างบ้านแทบไม่ต้องไปซื้อที่อื่นอีกเลย 2) ราคาถูก เพราะโกลบอลเฮ้าส์ ให้ความสำคัญกับต้นทุน เช่น การซื้อที่ดิน ไม่ต้องอยู่กลางเมืองแต่ต้องเดินทางมาสะดวก และใช้ "ปริมาณขาย" มาชดเชย "มาร์จิ้น และ 3) ความพึงพอใจ กรณี ซื้อสินค้าผิดสามารถมาคืนทางร้านภายใน 30 วัน (นับจากวันซื้อ) แต่สินค้าและบรรจุภัณฑ์ต้องสมบูรณ์ ถ้าซื้อด้วยบัตรเครดิต จะได้คืนเป็นเครดิต แต่ถ้าซื้อด้วยเงินสด จะได้คืนเป็นเงินสด กลายเป็นเสน่ห์ของโกลบอลเฮ้าส์ที่ร้านอื่นไม่มี
- แผนขยายสาขาใหม่
วิทูร - ปีหน้าจะมีอีกอย่างน้อย 4 แห่งคือ สาขาราชบุรี นครสวรรค์ กาฬสินธุ์ และขอนแก่น (สาขาที่ 2) ตั้งอยู่บริเวณอำเภอบ้านไผ่ ซึ่งสาขาขอนแก่นจะมี ขนาดพื้นที่ร้านเล็กลงเหลือประมาณ 1.2 หมื่นตารางเมตร สำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าในอำเภอต่างๆ และล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้ซื้อที่ดินจากกองทุน ต่างประเทศแยกเป็น 2 แปลง เนื้อที่ 148 ไร่ ในโครงการเมืองทองธานีตรงข้ามกับอาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ ดีลนี้ใช้เวลาแค่ 2 วัน เพราะจังหวะดี ตอนนี้อยู่ระหว่างทำมาสเตอร์แปลน ส่วนอาคารขายสินค้า จะเปิดบริการได้ในปีหน้า
- ถือว่าเป็นกลยุทธ์แบบ "ป่าล้อมเมือง"
วิทูร - ก็ใช่เลย เพราะผู้ผลิตวัสดุส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ขึ้นอยู่กับว่าใครสามารถเป็นผู้ซื้อรายใหญ่และ เข้าถึงมือลูกค้าได้มากที่สุด แต่หลักการขยายสาขาเราคำนึงถึง "เน็ตเวิร์ก" (โครงข่าย) ด้วย อย่างการเปิดสาขา "นครปฐม" เพื่อใช้เป็นเซ็นเตอร์ของภาค "ตะวันตก" และกำลังมองสาขาต่อเนื่องคือจังหวัด "ราชบุรี" หรือ "กาญจนบุรี" เพื่อเป็นสาขาแฝดในการถ่ายเทสินค้ากันได้
- เหตุผลที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
อภิสิทธิ์ - บอกตามตรงเพื่อการ บริหารความเสี่ยงแหล่งเงินทุนคือ ตลาดหลักทรัพย์ฯและสถาบันการเงิน ซึ่งแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินไม่ใช่ปัญหา เมื่อวานก็เพิ่งทานข้าวกับผู้บริหารแบงก์รายหนึ่ง
- อีก 3-5 ปีข้างหน้าจะอยู่ตรงจุดไหน
วิทูร - ถ้าสามารถรักษาอัตราการขยายสาขาต่อเนื่องปีละ 2-4 สาขา จะทำให้บริษัทมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 25-30% ได้แน่นอน แต่สิ่งที่เน้นต้อง "ซัสเทนเนเบิล" (sustainable) คือเติบโตแบบยั่งยืนไม่ใช่โซดาที่ฟู่แล้วก็หายไป อย่างที่ผ่านมา ปี 2548 เรามียอดขาย 2,200 ล้านบาท ปี 2549 ยอดขาย 2,600 ล้านบาท ปี 2550 ยอดขาย 3,200 ล้านบาท และปี 2551 ยอดขาย 4,001 ล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 27%
อภิสิทธิ์ - ส่วนอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า โกลบอลเฮ้าส์คงเป็นบริษัทขนาดกลางในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงตอนนั้นคงมีสาขาอย่างน้อย 20-25 แห่ง และอาจมีพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจอื่น |
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-07-2552
|
|
|
|
|
