Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
หลากภารกิจท้าทาย ''สภาสถาปนิก'' |
|
ปลาย สัปดาห์ที่ผ่านมา"สภาสถาปนิก" ภายใต้การนำของนายกสภา "พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอำพน" ที่ควงคู่มากับ "วีรวุฒิ โอตระกูล" อุปนายกคนที่ 2 และทีมงาน มีคิวนำทีมงานพบปะสื่อมวลชนในบรรยากาศ "ดินเนอร์ทอล์ก" เพื่ออัพเดตความเคลื่อนไหวในแวดวงสถาปนิกและตอบทุกข้อซักถามที่กำลังเป็น ประเด็น
ทั้งการเปิดประกวดแบบรัฐสภาใหม่ การออกข้อบังคับให้สถาปนิกต้องพัฒนา ตัวเองอย่างต่อเนื่อง (CPD) หรือการเปิด เสรีวิชาชีพสถาปนิกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดยเฉพาะการ เปิดประกวดแบบรัฐสภาแห่งใหม่ที่จะประกาศผลการตัดสินรอบแรก (10 ราย) วันที่ 19 สิงหาคมนี้ ถือเป็นเมกะโปรเจ็กต์ที่เปิด "มิติใหม่" ให้กับวงการออกแบบ
เพราะ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเขียน ทีโออาร์ (ข้อกำหนด) เปิดกว้างเฉพาะ "สถาปนิกไทย" เท่านั้นที่สามารถส่งแบบประกวดได้โดยไม่จำกัดประสบการณ์ เท่ากับว่าเมื่อ "รัฐสภาใหม่" มูลค่าโครงการ 1.2 หมื่นล้านบาท ถูกก่อสร้างแล้วเสร็จจะกลายเป็นงานก่อสร้างที่มาจากไอเดียของสถาปนิกไทย ล้วนๆ
"ที่ผ่านมาทีโออาร์ของการประกวดแบบอาคารต่างๆ ให้สิทธิสถาปนิกไทยส่งแบบเข้าประกวด แต่พอถึงขั้นตอนการทำงานจริงบางครั้งก็ให้สถาปนิกต่างชาติเข้ามาร่วมงาน โดยอ้างเหตุผลต่างๆ แต่รัฐสภาแห่งใหม่เชื่อว่าจะเป็นงานที่แสดงให้เห็นว่าสถาปนิกไทยก็ไม่ได้มี ฝีมือด้อยไปกว่าต่างชาติ" นายกสภาสถาปนิกฯระบุ
เพราะถึงปัจจุบันมี โครงการก่อสร้างจำนวนไม่น้อยที่ออกแบบโดยสถาปนิก ชาวต่างชาติ ทั้งที่รู้กันดีว่าการออกแบบอาคารโดยสถาปนิกที่ไม่มีอนุญาต มีความผิดต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท แต่มักจะหลุดรอดสายตาการตรวจสอบ
ขั้นตอนการเปิดประกวดแบบรัฐสภาใหม่ ภายหลังจากตัดสินรอบแรกได้ผู้ผ่าน เข้ารอบ 10 รายแล้ว วันที่ 24 สิงหาคม จะประกาศผลรอบที่ 2 หาผู้เข้ารอบ 5 ราย และวันที่ 2 ธันวาคมนี้จะประกาศผลตัดสินผู้ชนะเลิศ
ล่าสุดสภาสถาปนิกฯยังเร่งเดิน หน้า ยกระดับการพัฒนาวิชาชีพสถาปนิกไปอีกขั้น โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา ที่ประชุมใหญ่สามัญสภาสถาปนิกฯได้ผ่านร่างข้อบังคับสภาสถาปนิกฯว่าด้วย "การพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง" (พวต.) หรือ "Continuing Professional Development" (CPD)
เป้าหมายเพื่อให้สถาปนิกเกิดความ กระตือรือร้นพัฒนาตัวอย่างอยู่เสมอ จากการบรรยาย ฝึกอบรม เข้าประชุมสัมมนา ศึกษาดูงาน หรือกิจกรรมอื่น ในทำนองเดียวกัน อาทิ เขียนบทความ เสนอผลงานวิจัย ฯลฯ เพื่อสะสมหน่วย พวต. ปีละ 12 หน่วย (ประมาณ 3-4 กิจกรรม) สำหรับใช้เป็นหลักฐานประกอบการต่ออายุและเลื่อนระดับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (สถาปนิก)
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่มีความ คืบหน้ามากนักเพราะนับจากปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่สภาสถาปนิกฯได้ส่ง เรื่องถึงกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่อยู่ระหว่างรอการประกาศใช้ ซึ่งตามขั้นตอนกระทรวงมหาดไทยจะส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อน
ส่วนความคืบหน้าเขตการค้าเสรีในวิชาชีพสถาปนิก ถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่ "นายกสภาสถาปนิกฯ" ให้ความสำคัญ นับตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งในปี 2550
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้การเปิดเสรีกลายเป็น "ดาบสองคม" ที่ผ่านมาสภา จึงอยู่ระหว่างการว่าจ้างให้สถาบันกฎหมายและพัฒนาการคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นแม่งาน วิจัยถึงผลดีผลเสียและรูปแบบการเขียน ข้อกำหนดการเปิดเสรี คาดว่าผลวิจัย จะได้ข้อสรุปในเดือนตุลาคมนี้
นายกสภาสถาปนิกฯคาดหวังจะผลักดันแล้วเป็นรูปธรรมก่อนหมดวาระดำรงตำแหน่งในปี 2553
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-07-2552
|
|
|
|
|